"เมกาบางนา" ชูนโยบายสร้างธุรกิจอย่างมีคุณค่า ดูแลสังคมแบบยั่งยืน ทุ่มกว่า 1 พันล้านบาท พัฒนาโครงการอนุรักษ์พลังงาน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน

ศุกร์ ๒๐ พฤศจิกายน ๒๐๒๐ ๑๔:๐๗

ศูนย์การค้าเมกาบางนา เผยความคืบหน้าการดำเนินโครงการด้านพลังงาน และการเพิ่มพื้นที่สีเขียวที่ดำเนินการมาตลอด 8 ปี โดยใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืน (Sustainability) สานต่อภารกิจการพัฒนาองค์กรควบคู่การดำเนินธุรกิจศูนย์การค้าที่สร้างคุณค่าและเป็นหนึ่งเดียวกับสังคม ตอกย้ำแนวคิด "The Great Meeting Place" ที่ตั้งใจทำให้เมกาบางนาเป็นมากกว่าศูนย์การค้า แต่เป็น Meeting Place ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกโอกาสได้อย่างสมบูรณ์แบบ

เมกาบางนา ชูนโยบายสร้างธุรกิจอย่างมีคุณค่า ดูแลสังคมแบบยั่งยืน ทุ่มกว่า 1 พันล้านบาท พัฒนาโครงการอนุรักษ์พลังงาน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน

นางสาวปพิตชญา สุวรรณดี กรรมการผู้จัดการ ศูนย์การค้าเมกาบางนา เปิดเผยว่า " การทำธุรกิจแบบยั่งยืน พร้อมดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมคือความท้าทายในการทำงานของเรา นอกจากการลงมือทำด้วยตัวเองแล้ว เรายังต้องอาศัยความร่วมมือจากชุมชนโดยรอบ ซึ่งเมกาบางนาเองก็มีความตั้งใจที่จะเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และพัฒนาธุรกิจไปพร้อมๆกัน ซึ่งแนวทางการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนนี้ นับเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ที่เมกาบางนายึดถือมาตลอด 8 ปี ตั้งแต่เริ่มให้บริการคือการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจแบบรอบด้าน ทั้งธุรกิจแกนหลัก (Core Business) นั่นคือการพัฒนาศูนย์การค้า คัดสรรผู้เช่า (Tenant Mix) ที่มีศักยภาพและตอบโจทย์ของลูกค้าเมกาบางนา และพัฒนาทรัพยากรที่องค์กรมีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการทำงาน รวมถึงการทำงานร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและผู้เช่าร้านค้าภายในศูนย์การค้า เพื่อนำไปสู่การส่งมอบประสบการณ์ในการช้อปปิ้งที่ตอบโจทย์ลูกค้า ไปพร้อม ๆ กับการขับเคลื่อนนโยบายด้านความยั่งยืน ที่ทางศูนย์ฯ ได้ดำเนินการควบคู่ไปด้วยกัน"

ทุ่มงบพันล้าน สำหรับนโยบาย Sustainability Project
ศูนย์การค้าเมกาบางนา มีวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาธุรกิจ ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยได้เดินหน้านโยบายสนับสนุนการดำเนินธุรกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโครงการด้านพลังงาน เมกาบางนาให้การสนับสนุนอย่างจริงจังและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนด้วยการปรับรูปแบบธุรกิจให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของผู้คนโดยรอบและในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันอย่างมีคุณภาพ การพัฒนาสาธารณูปโภค รวมถึงเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน ซึ่งทั้งหมดนี้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจของศูนย์การค้าฯ

"เราเชื่อว่าทุกขั้นตอนที่บริษัทของเราดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคต่างๆ นั้น นอกเหนือจากการพัฒนาธุรกิจเพื่อให้เกิดความยั่งยืนแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับชุมชนและโลกของเรา ยกตัวอย่างโครงการที่เราทำ อาทิ ในปี 2556 เมกาบางนาได้สั่งห้ามการใช้สารเคมีในการทำความเย็นภายในอาคารทั้งหมด ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านสุขภาพและเพิ่มความปลอดภัยให้กับเจ้าหน้าที่ รวมทั้งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม หรือการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เกือบ 4,000 แผงเต็มพื้นที่ 8,000 ตารางเมตรบนหลังคา ซึ่งสามารถผลิตไฟฟ้าประมาณ 1.43 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี เทียบเท่ากับการใช้ไฟฟ้าใน 200 ครัวเรือน โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 7.16 แสนกิโลกรัมต่อปี และยังรวมถึงอีกหนึ่งโครงการสำคัญในปี 2558 โดยเมกาบางนาได้ลงนามในสัญญาร่วมกับบริษัท
เทรน (ประเทศไทย) จำกัด พัฒนาประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงานไฟฟ้าของระบบปรับอากาศได้มากกว่า 20%" นางสาวปพิตชญา กล่าวเพิ่มเติม

และในปี 2560 ได้ริเริ่มโครงการก่อสร้าง โรงบำบัดน้ำเสียแห่งใหม่ที่ได้มาตรฐานระดับสากล โดยเลือกใช้เทคโนโลยีเมมเบรน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับเครื่องกรองน้ำดื่มในการบำบัดน้ำเสียโดยไม่ใช้สารเคมี น้ำที่ผ่านไส้กรองเมมเบรน ที่สามารถนำมาใช้หมุนเวียนในกิจกรรมดูแลรักษาต้นไม้ งานทำความสะอาดและระบายความร้อนของระบบปรับอากาศภายในศูนย์ฯ ซึ่งช่วยลดการใช้น้ำประปาได้มากกว่าปีละกว่า 1 แสนหน่วย โดยเมกาบางนามีความตั้งใจที่จะทำโรงบำบัดนี้ให้เป็นแหล่งการเรียนรู้โดยจะออกแบบติดตั้งผนังกระจกใสให้นักเรียนและผู้สนใจเข้ามาดูงานโดยเดินในพื้นที่ที่กำหนดได้อีกด้วย และตั้งแต่ปี 2561 จนถึงปัจจุบัน เมกาบางนาได้ทยอยเปลี่ยนหลอดไฟส่องสว่างในอาคารและป้ายโฆษณาให้เป็นแอลอีดี รวมถึงในพื้นที่ส่วนกลาง ร้านค้าบางส่วน ซึ่งดำเนินการได้ประมาณ 95% แล้ว นอกจากการพัฒนาและดูแลสิ่งแวดล้อมจากโครงการต่างๆ ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว การจัดการด้านพลังงานที่ปฏิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ส่งผลให้ศูนย์การค้าเมกาบางนา สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในส่วนของระบบปรับอากาศ ระบบแสงสว่าง และส่วนกลางของอาคารลงได้ มากกว่า 15 ล้านหน่วย คิดเป็นเงินกว่า 50 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ เมกาบางนายังส่งเสริมให้พนักงานทุกคน มีส่วนในการเข้าร่วมกิจกรรมด้านพลังงาน เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์พลังงาน รวมไปถึงการส่งเสริมให้ความรู้ ความเข้าใจ ให้กับพนักงานและผู้เช่า พร้อมช่วยเหลือผู้เช่าเรื่องการตรวจสภาพเครื่องจักรกับร้านค้าผู้เช่าภายในศูนย์ฯ ด้วย

โจทย์ใหญ่ พัฒนาและเพิ่มความสะดวกสบาย เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าให้กับลูกค้า
เมกาบางนา ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องในการก่อสร้างอาคารจอดรถจำนวน 8 ชั้นแห่งใหม่ เพิ่มที่จอดรถมากกว่า 2,000 คัน ภายใต้งบประมาณกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะพร้อมเปิดให้บริการในต้นปี 2564 ซึ่งจะทำให้ศูนย์การค้าเมกาบางนาจะมีที่จอดรถรวมกว่า 12,000 คันเพื่อรองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น และเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการอีกด้วย นอกจากนี้ ด้วยแนวคิดที่คำนึงถึงความปลอดภัยของการเดินทางสำหรับผู้มาใช้บริการ และบรรเทาปัญหาเรื่องการจราจร ที่นับเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่สร้างมลภาวะเป็นพิษในอากาศและทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอันเนื่องมาจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงจากรถยนต์ที่จะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ไปในบรรยากาศ ทางศูนย์การค้า จึงได้สนับสนุนงบประมาณให้กรมทางหลวงฯ เพื่อจัดสร้างสะพานกลับรถ ในเขตทางหลวงหมายเลข 34 ถนนบางนา - ตราด กม.7 โดยหากสะพานกลับรถดังกล่าวเปิดใช้แล้ว คาดว่าจะช่วยย่นระยะเวลาเดินทางได้มากถึง 10 นาที อีกทั้งยังลดอัตราการใช้น้ำมันและปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อันเกิดจากการเผาไหม้ และที่สำคัญจะช่วยให้คุณภาพชีวิตของคนที่ใช้รถใช้ถนนดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น

นางสาวปพิตชญา กล่าวเพิ่มเติมว่า "นอกจากพื้นที่จอดรถที่เพิ่มขึ้น เรายังเติมเต็มพื้นที่สีเขียวให้ชุมชนในโครงการส่วนต่อขยายโซนต่างๆ ที่เราทำ อาทิ เมกา ฟู้ดวอล์ค ที่เปิดให้บริการเมื่อปี 2560 ที่ผ่านมา ออกแบบเป็นอาคาร 3 ชั้น บนพื้นที่กว่า 20,000 ตารางเมตร ภายใต้บรรยากาศแบบกึ่งเอาท์ดอร์ ด้วยสถาปัตยกรรมที่ได้แนวคิดสุนทรีย์ของ 'หุบเขา' (Valley) เป็นการสร้างบรรยากาศสุดชิลราวกับถูกโอบล้อมอยู่ในทิวเขาเขียวขจี เพื่อมอบพื้นที่สีเขียวให้ชุมชน พร้อมโขดหิน ลำธาร และน้ำตก พร้อมทางเดินในทุกระดับชั้นได้ถูกออกแบบให้เชื่อมโยงถึงกันอย่างเป็นระบบและง่ายต่อการเดินไปตามจุดต่างๆ อีกทั้งยังเชื่อมต่อเข้ากับทางเดินของโครงการเดิมในทุกจุด ในส่วนของ "เมกา พาร์ค" สวนสาธารณะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจบนพื้นที่กว่า 7 ไร่ มอบเป็นพื้นที่สีเขียวและปอดแห่งใหม่ของผู้คนในย่านบางนา เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การใช้ชีวิตในทุกไลฟ์สไตล์ที่ครบวงจรให้กับทุกคนในครอบครัว สนุกสนานกับสนามเด็กเล่น พร้อมเครื่องเล่นสำหรับเด็กที่มีมาตรฐานปลอดภัย รวมทั้งการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านนอกของโซนเมกา ฟู้ดวอล์ค ในคอนเซปต์ Scandinavian Playground สนามเด็กเล่นธรรมชาติขนาดใหญ่ พร้อมสายน้ำ (stream valley) และบ่อทราย (sand dune) ภายใต้บรรยากาศสวนต้นไม้อันรื่นรมย์ที่หาได้ยากในเมืองใหญ่ ให้ครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกัน และแม้ทางศูนย์ฯ จะสามารถนำพื้นที่ดังกล่าวไปใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ แต่เมกาบางนาเลือกที่จะมอบพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับคนในชุมชน ซึ่งเปิดให้มาใช้บริการได้ฟรี

"ทั้งหมดของความตั้งใจและความพยายามที่เรากล่าวมานั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสร้างมีทติ้งเพลสของศูนย์การค้าเมกาบางนา ที่ให้ความสำคัญไม่ใช่แค่การส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของพวกเรา แต่ยังรวมไปถึงการดูแลสิ่งแวดล้อมทั้งภายในพื้นที่ของเราเองและพื้นที่โดยรอบของชุมชนแห่งนี้ เราเชื่อว่าทุกๆ เรื่องที่เราทำภายใต้แนวคิดการสร้างธุรกิจอย่างยั่งยืนนั้น เปรียบเสมือนพลังเล็กๆ ที่ตั้งใจจะพัฒนาสิ่งแวดล้อมของชุมชนแห่งนี้ให้ดีขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าจะอีกกี่ปีผ่านไป เราก็จะยังคงมุ่งมั่นในก้าวเล็กๆ นี้ของเรา เพราะถ้าสิ่งที่เราทำมันส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม เราเชื่อว่ามันต้องเหมาะสมและส่งผลดีต่อการทำธุรกิจของเราเช่นกัน" นางสาวปพิตชญา กล่าวปิดท้าย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๐๐ DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๖:๕๘ Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๖:๐๓ Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๖:๓๕ โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๖:๓๑ 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๖:๒๗ TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๘ เม.ย. SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๘ เม.ย. โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๘ เม.ย. หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๘ เม.ย. คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital