ไอศกรีมวอลล์สนับสนุนให้ใช้ "ความสุข" เป็นมาตรวัดความก้าวหน้าทางสังคมอย่างแท้จริง

แถลงการณ์ฉบับใหม่จากแบรนด์ไอศกรีมวอลล์ระบุว่า ผู้คนทั่วโลกต่างเรียกร้องให้ใช้ "ความสุข" เป็นมาตรวัดความก้าวหน้าทางสังคม ข้อมูลเชิงลึกนี้ได้รับการเปิดเผยผ่าน Goals House และเป็นส่วนหนึ่งของผลสำรวจทั่วโลกเกี่ยวกับผลกระทบของการล็อกดาวน์ที่มีต่อมุมมองความสุขของผู้คน

แถลงการณ์ "Wall's Manifesto for a Happier World" ซึ่งประกอบด้วยผลการสำรวจความคิดเห็นประชาชน 12,500 คน ใน 12 ประเทศทั่วโลก เผยให้เห็นว่า

- 65% ระบุว่าการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในช่วงล็อกดาวน์เปลี่ยนมุมมองที่มีต่อความสุข
- 78% รู้สึกว่าความสุขและสุขภาวะมีความสำคัญมากกว่าเงินทอง
- 63% ต้องการให้รัฐบาลให้ความสำคัญกับความสุขมากกว่าการฟื้นฟูเศรษฐกิจ
- 58% พบว่าความสัมพันธ์ของคนคือสิ่งที่ทำให้มีความสุขอย่างแท้จริง
- 76% ยอมรับว่ารู้เรื่องดารามากกว่าเรื่องของเพื่อนบ้าน (แต่สิ่งนี้เปลี่ยนไปช่วงล็อกดาวน์)
- 62% เผยว่าการล็อกดาวน์ทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนมากขึ้น

แถลงการณ์ของวอลล์สะท้อนถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และแสดงให้เห็นว่าการล็อกดาวน์ทั่วโลกทำให้ผู้คนหันมาประเมินสิ่งสำคัญในชีวิตใหม่ คนเรามองหาความสุขผิดที่ผิดทางมาตลอด การที่ต้องแยกจากครอบครัวและเพื่อนฝูงทำให้เราตระหนักว่า ความสัมพันธ์ของคนและการสนับสนุนของชุมชนคือส่วนสำคัญของชีวิตเรา

Lord Richard Layard ศาสตราจารย์จากสถาบัน LSE ผู้เชี่ยวชาญด้านความสุข และผู้ร่วมเขียนรายงาน World Happiness Report กล่าวถึงแถลงการณ์ของวอลล์ว่า "ข้อมูลในแถลงการณ์แสดงให้เราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในวงกว้าง คนเรามองว่าการได้ครอบครองวัตถุสิ่งของ ความร่ำรวย และการประสบความสำเร็จคือความสุข สิ่งเหล่านี้สำคัญก็จริง แต่สุดท้ายแล้วคนเราก็ตระหนักว่าความสัมพันธ์ของคนคือความหมายและความสุขที่แท้จริงของชีวิต นี่คือประเด็นที่ผมต้องการสื่อมาตลอดหลายทศวรรษ และผมยินดีที่ได้เห็นว่าผู้คนเริ่มตระหนักถึงสิ่งนี้มากขึ้น"

การที่คนในสังคมมองว่าควรวัดความก้าวหน้าของประเทศชาติด้วยมาตรวัดใหม่ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเปลี่ยนแปลงระบบในปัจจุบันที่มองข้ามความสุขและสุขภาวะ ในฐานะผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของรายงาน UN SDSN World Happiness Report วอลล์มุ่งมั่นส่งเสริมความเคลื่อนไหวเพื่อผลักดันให้รัฐบาลนานาประเทศให้ความสำคัญกับความสุขของประชาชน

Jeffrey Sachs ศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ระดับโลกและที่ปรึกษาอาวุโสของ UN กล่าวว่า "ผู้คนในทุกวัฒนธรรมและสังคมต่างมุ่งหวังและปรารถนาให้โลกน่าอยู่กว่าเดิม ทั่วโลกจะผูกพันกันมากขึ้นเมื่อความสัมพันธ์ระดับครอบครัวและชุมชนมีความแข็งแกร่ง นั่นหมายความว่า ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วโลกเริ่มต้นจากที่บ้านและแผ่ขยายไปทั่วโลก"

ตลอดปี 2564 และหลังจากนี้ วอลล์จะผนึกกำลังนักวิชาการ ผู้กำหนดนโยบาย นักธุรกิจ นักเคลื่อนไหว และคนในชุมชน เพื่อร่วมกันพัฒนาแม่แบบสำหรับอนาคตซึ่งความสุขคือมาตรวัดความเจริญก้าวหน้า

การทำเช่นนี้ รวมถึงการส่งเสริมความกลมเกลียวในชุมชนและความสัมพันธ์ทางสังคม จะทำให้เราสามารถสร้างโลกที่น่าอยู่กว่าเดิมและมีอนาคตที่มีความสุขมากขึ้น

Ian Maskell รองประธานของวอลล์ กล่าวว่า "ไอศกรีมวอลล์มอบความสุขให้ผู้คนทั่วโลก 2.8 หมื่นล้านครั้งต่อปี เรามีประสบการณ์ในการส่งมอบความสุขและดึงผู้คนมารวมตัวกัน เราจึงมีความตั้งใจที่จะเป็นผู้นำในการยกระดับความสำคัญของความสุขทั่วโลก คนเรามีความสุขที่สุดเมื่อได้อยู่กับครอบครัว เพื่อนฝูง และชุมชน วอลล์อยู่ในธุรกิจที่สร้างความสัมพันธ์ทางสังคม เราขอเชิญชวนทุกคนให้มาร่วมกันสร้างโลกให้น่าอยู่กว่าเดิม"

อ่านแถลงการณ์ออนไลน์ได้ที่ https://www.unilever.com/Images/walls-manifesto_tcm244-558473_en.pdf

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ

เกี่ยวกับวอลล์

ความมุ่งมั่นในการสร้างความสุขหยั่งรากลึกอยู่ในบริษัทวอลล์

วอลล์คือแบรนด์ไอศกรีมรายใหญ่ที่สุดและเป็นที่ชื่นชอบมากที่สุดในโลก เมื่อเกือบ 100 ปีที่แล้ว บรรดาผู้ก่อตั้งบริษัทได้กระจายความมหัศจรรย์ของไอศกรีมไปทั่วโลก ทำให้ผู้คนมีความสุขมากขึ้นและเปิดใจให้กันมากขึ้น วิสัยทัศน์ของพวกเขาสร้างแรงบันดาลใจให้เราสานต่อพันธกิจความเป็นผู้นำในการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางสังคม เราตระหนักว่าไอศกรีมทำให้ทุกคนมีช่วงเวลาแห่งความสุข โดยคณะนักวิจัยของสถาบันจิตวิทยาในสหราชอาณาจักรเผยว่า การกินไอศกรีมช่วยกระตุ้นสมองส่วนที่สร้างความพึงพอใจ โดยมีผลทันทีต่อส่วนของสมองที่ทำงานเมื่อคนเรากำลังมีความสุข ในฐานะแบรนด์ เรามีบทบาทสำคัญในการสร้างโลกที่กลมเกลียวและมีความสุขมากขึ้น

นอกจากนี้ วอลล์ยังยึดมั่นในหลักการตลาดอาหารและเครื่องดื่มที่รับผิดชอบต่อเด็ก ๆ โดยคิดใหม่ทำใหม่ในส่วนของการสื่อสารกับพ่อแม่และเด็ก ๆ ทั้งในเรื่องของสถานที่ วิธีการ และสิ่งที่สื่อออกไป วอลล์เป็นแบรนด์ไอศกรีมระดับโลกแบรนด์แรกที่ประกาศพันธกิจ "Responsibly made for kids"

นับตั้งแต่ปี 2556 วอลล์ร่วมมือกับพันธมิตรหลายรายดำเนินโครงการ Vanilla for Change ในประเทศมาดากัสการ์ เพื่อยกระดับคุณภาพชิวิตของเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกวานิลลา รวมถึงนำวานิลลาธรรมชาติจากแหล่งที่มีความปลอดภัยและยั่งยืนมาใช้ผลิตไอศกรีมวอลล์

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวอลล์ได้ที่ https://www.unilever.com/brands/foods-and-refreshment/heartbrand/happier-together.html

รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/1424396/Walls_Happiness_Manifesto.jpg