ในขณะเดียวกัน มหกรรมหิมะและน้ำแข็งฮาร์บิน หรือ 2021 Harbin Ice and Snow Expo ได้จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เป็นครั้งแรกตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนเต็ม โดยได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น 5G บิ๊กดาต้า และคลาวด์คอมพิวติ้ง งานนี้ประกอบด้วยโซนจัดแสดง 6 โซนสำหรับจัดแสดงอุปกรณ์หิมะและน้ำแข็ง อุปกรณ์เสริม เครื่องนุ่งห่ม เครื่องมือแกะสลักน้ำแข็ง การท่องเที่ยวหิมะและน้ำแข็ง และอาหารในท้องถิ่น โดยผู้ประกอบการและผู้ชมจากทั่วโลกสามารถชมงานแบบอินเทอร์แอคทีฟและติดต่อกับผู้จัดแสดงผ่านทางออนไลน์ งานนี้เป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ทุกคนในอุตสาหกรรมหิมะและน้ำแข็งได้สร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนทางธุรกิจซึ่งกันและกัน ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักท่องเที่ยวท่ามกลางสถานการณ์โควิด และสร้างแรงกระตุ้นใหม่ในการพัฒนาเศรษฐกิจหิมะและน้ำแข็ง นอกจากนั้นยังถือเป็นความพยายามครั้งใหม่ของ "เมืองน้ำแข็ง" อย่างฮาร์บิน ในการผสมผสานทรัพยากรหิมะและน้ำแข็งเข้ากับเศรษฐกิจดิจิทัล
ในฐานะเมืองเอกที่ตั้งอยู่ในจุดที่สูงที่สุดของประเทศจีน เมืองฮาร์บินมีฤดูหนาวอันหยาวเย็นและยาวนาน ด้วยอุณหภูมิต่ำสุด -30 องศาเซลเซียส นอกจากนั้นยังมีลมหนาวและหิมะตกบ่อยครั้ง โดยทั่วไปแล้ว สภาพอากาศหนาวเย็นสุดขั้วเช่นนี้อาจเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ไม่ใช่สำหรับเมืองฮาร์บิน ซึ่งประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนจุดอ่อนนี้ให้กลายเป็นจุดแข็งอันโดดเด่นผ่านการใช้มาตรการต่าง ๆ เช่น มาตรการดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการนำเสนอโปรแกรมท่องเที่ยวและสวนสนุกธีมหิมะและน้ำแข็งอย่างเช่น Ice and Snow World ซึ่งส่งผลให้เมืองฮาร์บินสามารถกระตุ้นการพัฒนาการท่องเที่ยวและเปลี่ยนสภาพแวดล้อมอันหนาวเย็นให้กลายเป็นกำลังขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ในขณะที่การแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปักกิ่ง 2022 กำลังใกล้เข้ามา เมืองฮาร์บินได้ใช้โอกาสนี้ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมหิมะและน้ำแข็งทั้งฝั่งอุปสงค์และอุปทาน เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวและตัวแทนท่องเที่ยวหลังยุคโควิด เมืองฮาร์บินใช้มาตรการต่าง ๆ เช่น การส่งเสริมการสร้างแบรนด์ รวมถึงการยกระดับศักยภาพและคุณภาพของบริการด้านการท่องเที่ยว เพื่อสร้างระบบอุปทานผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวหิมะและน้ำแข็งคุณภาพสูง
ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในการเร่งการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัจฉริยะและการพัฒนาคุณภาพสูงในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวหิมะและน้ำแข็งของเมืองฮาร์บิน โดยนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา Ice and Snow World ได้ให้บริการ Wi-Fi ฟรีแก่นักท่องเที่ยว และมีการนำไฟ LED ประหยัดพลังงานมาใช้แทนโคมไฟดั้งเดิมเพื่อแสงสีที่สวยงามยิ่งขึ้น นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวสามารถกินหม้อไฟในกระท่อมน้ำแข็งท่ามกลางอุณหภูมิ -30 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ การผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างทัศนียภาพอันงดงามกับประสบการณ์อันน่าจดจำจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี