นางสาวอัญรัตน์ พรประกฤต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด - 19 นับเป็นความท้าทายของธุรกิจเครื่องประดับเพชรในการปรับตัวอย่างมาก แม้ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี 2563 สถานการณ์เริ่มมีความผ่อนคลายมากขึ้น แต่ปัจจุบันสถานการณ์โควิด-19 ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 ที่เปิดต้นปีมาก็ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดระลอกใหม่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน แต่ Jubilee เรามีการปรับตัวที่รวดเร็วโดยใช้ความท้าทายของปี 2563 ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนในการดำเนินธุรกิจพลิกวิกฤตเป็นโอกาสจนสามารถสร้างความสำเร็จได้อย่างต่อเนื่องสะท้อนได้จากผลการการดำเนินการในปี 2563 ที่เติบโตขึ้น และล่าสุดในไตรมาสที่ 1/64 ที่ Jubilee ยังคงมีกำไร และ รายได้ที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ที่ผ่านมา Jubilee ใช้ความเชี่ยวชาญในฐานะผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรในเมืองไทยจากความเข้าใจในสภาวะตลาดทำให้เกิดการปรับตัวอย่างทันท่วงทีและความพร้อมขององค์กรโดยเฉพาะทีมงานทุกแผนกที่มีการปรับกลยุทธ์ธุรกิจและการทำงานด้วยความรวดเร็ว ดังจะเห็นได้จากการขยายช่องทางการซื้อขายเพชรออนไลน์เต็มรูปแบบทั้งทางอีคอมเมิร์ซและโซเชียลคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสทางการตลาดใหม่ๆ ที่ยังไม่มีผู้ประกอบการรายใดทำมาก่อน ดังนั้นการปรับกลยุทธ์การทำตลาดที่รวดเร็วทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาสแรกของปี 2564 Jubilee ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยทำรายได้รวม 405.3 ล้านบาท และกำไรที่ 61.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 11.1 และร้อยละ 32.5 ตามลำดับ
โดยปัจจัยสนันสนุนธุรกิจในไตรมาสแรกของปีนี้ยังคงมายอดขายจากสาขาที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 130 สาขา แม้จะมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่ไม่ได้มีการปิดห้างสรรพสินค้าดั่งเช่นในปี 2563 จึงทำให้ธุรกิจยังคงสามารถดำเนินได้อย่างต่อเนื่อง ประกอบกับ Jubilee เอง มีการทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ และการเปิดตัวคอลเลกชั่นใหม่อย่างคอลเลกชั่น Dear Destiny Collection ในช่วงวันวาเลนไทน์ที่มี Gimmick พิเศษร่วมมือกับ LINE MAN Wongnai ในการส่งเซอร์ไพรส์เครื่องประดับเพชรและของขวัญสุดพิเศษ Limited Edition ผ่านบริการเดลิเวอรี่ ซึ่งเป็นการสร้างปรากฏการณ์ใหม่ของวงการเครื่องประดับเพชร นับเป็นกลยุทธ์ที่ฉีกกรอบการทำตลาดที่ช่วยส่งมอบประสบการณ์ใหม่ๆ สุดประทับใจให้กับลูกค้า ตอกย้ำความเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรที่มีความเชี่ยวชาญกว่า 92 ปี ที่ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนา
นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปี Jubilee ยังได้ทำกิจกรรมการตลาดที่เป็น Seasonal Marketing อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดรับกับพฤติกรรมการซื้อเครื่องประดับเพชรของลูกค้าชาวไทยที่ส่วนหนึ่งจะซื้อในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อาทิ เทศกาลตรุษจีน และเทศกาลวาเลนไทน์ จึงเป็นตัวกระตุ้นการตัดสินใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดย Jubilee จะเลือกสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดที่สดใหม่และโดนใจลูกค้า เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ยังไม่เคยมีเครื่องประดับเพชรแบรนด์ใดทำมาก่อน
ในปี 2564 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่สถานการณ์โควิด-19 จะยังคงอยู่และเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม แต่สิ่งที่ Jubilee ตระหนักและมุ่งมั่นให้ความสำคัญ คือ การปรับตัวและพลิกวิกฤตเป็นโอกาส พร้อมมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการดำเนินธุรกิจ โดยที่ผ่านมา Jubilee ได้มีการปรับตัวและการวางกลยุทธ์ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาดในเวลานั้นๆ ผ่านการจัดการข้อมูลที่เป็นรากฐานในการบริหาร ซึ่งในทุกการปรับตัวก็ได้รับผลลัพธ์จากผู้บริโภคเป็นอย่างดี จึงเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกเพชรที่มีความแข็งแกร่ง พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ไม่หยุดนิ่งในการปรับตัวเข้าถึงผู้บริโภคที่หลากหลาย
ทั้งนี้สำหรับไตรมาสที่ 2 ของปี 2564 แม้ว่าปัจจัยเสี่ยงของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง แต่ Jubilee ในฐานะผู้นำอันดับหนึ่งธุรกิจค้าปลีกเครื่องประดับเพชรในเมืองไทยไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและนำเสนอแนวทางการตลาดที่หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเตรียมจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ การจัดโปรแกรมพิเศษสำหรับสมาชิกคนสำคัญในการเข้าถึงเพชรแท้คุณภาพดีเยี่ยมในราคาที่จับต้องได้
"เราเชื่อว่าการแพร่ระบาดของโควิด-19 จะยังคงเป็นความเสี่ยงหลักของการทำธุรกิจในปีนี้ แต่สิ่งที่ Jubilee ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาก็คือ การเตรียมพร้อมรับมือสิ่งต่างๆ และหาแนวทางการตลาดใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆ มิติ เพื่อลูกค้าคนสำคัญที่มีอยู่ประมาณกว่า 200,000 ราย ผ่านการส่งมอบสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงการจัดอีเว้นท์ เพื่อเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะเข้ามาช่วยเป็นแรงเสริมสำคัญที่ทำให้เรายังคงสามารถสร้างการเติบโตได้ในปีนี้" นางสาวอัญรัตน์ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: ChomPR