บมจ. เงินติดล้อ เป็นแบรนด์ที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง มีสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่ง และเป็นผู้นำทั้งในตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถทุกประเภทและตัวแทนประกันวินาศภัย นอกเหนือจากเงินทุนที่เพิ่มขึ้น บริษัทฯ ยังมีการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบและมีคุณภาพ รวมถึงการจัดหาแหล่งเงินทุนที่หลากหลายและเพียงพออย่างต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" หรือ "Stable" สะท้อนความสามารถในการรักษาความแข็งแกร่งของเงินทุน สถานะความเป็นผู้นำทางการตลาด และการมีผลประกอบการที่น่าพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง รวมถึงความสามารถที่จะควบคุมคุณภาพสินเชื่อเอาไว้ในระดับที่ยอมรับได้ ในขณะที่การสนับสนุนหลากหลายด้านจากธนาคารกรุงศรีอยุธยาจะยังคงดำเนินต่อไป
นายปิยะศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในส่วนของผลประกอบการของเงินติดล้อในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 นั้น บริษัทฯ แสดงให้เห็นผลงานเป็นที่น่าประทับใจของนักลงทุน โดยมีกำไรสุทธิกว่า 783 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเกือบ 12% เป็นไปตามเป้าหมายของบริษัทฯ ที่วางไว้ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีอัตราการเติบโตที่ 15-20% จากปีก่อนแม้ว่าจะต้องเผชิญกับสถานการณ์ของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ก็ตาม อีกทั้งมียอดลูกหนี้รวมทั้งสิ้นมากกว่า 53,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ซึ่งเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้" ภายหลังจากการได้รับเงินเพิ่มทุนกว่า 7 พันล้านบาท บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอีก 150 สาขาภายในปี 2564 รวมขยายเพิ่ม 500 สาขาภายในปี 2566 รองรับการเติบโตของทั้งสองธุรกิจ นอกจากนี้ "เงินติดล้อ" ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของลูกค้าที่มีแนวโน้มไปทางออนไลน์เพิ่มขึ้น รวมทั้งการพัฒนา "บัตรติดล้อ" ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และการพัฒนาแพลตฟอร์มและแอปพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อตอบสนองต่อความเป็นหนึ่งในผู้นำด้านนายหน้าประกันวินาศภัยพร้อมการให้บริการด้านประกันภัยที่หลายหลาย เช่น ประกันภัยรถยนต์ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) ประกันภัยโรคมะเร็ง ประกันโควิด และยังมีบริการจำหน่าย พ.ร.บ. ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่ทั่วประเทศอีกด้วย สำหรับผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 088-088-0880 หรือเยี่ยมชมข้อมูลได้ที่เว็บไซต์ www.ngerntidlor.com
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย