กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า จุดสนใจหลักของตลาดการเงินโลกจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในวันที่ 27-28 กรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะคงนโยบายและส่งสัญญาณเกี่ยวกับแนวทางการลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในระยะถัดไป โดยกรุงศรีคาดว่าการประชุมครั้งนี้และเวที Jackson Hole Symposium ในเดือนสิงหาคม เฟดจะปูทางอย่างชัดเจนมากขึ้นสู่การเริ่มปรับนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติจากระดับที่ผ่อนคลายมากเป็นพิเศษในการประชุมเดือนกันยายนหรือพฤศจิกายน นอกจากนี้ นักลงทุนจะติดตามการเปิดเผยข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2 ของสหรัฐฯและค่าใช้จ่ายส่วนบุคคล เพื่อประเมินทิศทางเศรษฐกิจและภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งจะกระทบการคาดการณ์นโยบายของเฟดต่อไป อนึ่ง ค่าเงินดอลลาร์อาจย่ำฐานในกรอบที่แข็งค่าในช่วงนี้จากท่าทีของเฟดและการระบาดของสายพันธุ์เดลต้าในหลายภูมิภาคของโลกโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนต่ำ
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกเดือนมิถุนายนว่าเติบโตสูงสุดในรอบ 11 ปี ด้วยอัตรา 43.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้าขยายตัว 53.8% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้า 945 ล้านดอลลาร์ โดยภาคส่งออกจะยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ทั้งนี้ กรุงศรีมองว่าอุปสงค์และความเชื่อมั่นในประเทศยังคงถูกบั่นทอนจากวิกฤติ COVID-19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มคลี่คลายลงขณะที่ภาคส่งออกและระบบขนส่งอาจประสบปัญหาชั่วคราวจากการปิดโรงงานและการแพร่ระบาดเช่นกัน
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา