โครงการ "โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ" เขื่อนสิรินธร ถือเป็นโครงการแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ มีกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการกว่า 842 ล้านบาท ใช้แผงโซลาร์เซลล์ชนิดดับเบิ้ลกลาสที่เหมาะสมกับการวางแผงโซลาร์เซลล์ใกล้ผิวน้ำที่มีความชื้นสูง และมีการเคลื่อนไหวของผิวน้ำอยู่ตลอดเวลา และใช้ทุ่นลอยน้ำชนิด HDPE (High Density Polyethylene) ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม โดยติดตั้งอุปกรณ์ทั้งหมดบนพื้นที่ผิวน้ำกว่า 450 ไร่ ใช้ระบบส่งไฟฟ้าเดิมร่วมกับเขื่อนของ กฟผ. เช่น หม้อแปลง สายส่ง สถานีไฟฟ้าแรงสูง ทำให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าในอนาคตมีราคาถูกลง โดยสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดร่วมกันระหว่างพลังงานแสงอาทิตย์และพลังน้ำ เพื่อเสริมความมั่นคงพลังงานสะอาดของประเทศไทย โดยสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CO2) ได้ประมาณ 47,000 ตันต่อปี
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวว่า การพัฒนาและสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำให้กับ กฟผ. ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนของประเทศไทย รวมถึงเป็นโอกาสในการพัฒนาและดำเนินการโครงการโซลาร์ทุ่นลอยน้ำในโครงการอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต ด้วยความพร้อมและศักยภาพของบริษัทภายใต้ความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก "เอ็นเนอร์ยี่ ไชน่า" ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีศักยภาพและความได้เปรียบสูงในการบริหารจัดการต้นทุน การจัดหาวัสดุอุปกรณ์และการพัฒนาเทคนิควิศวกรรมที่มีคุณภาพ มีประสิทธิภาพเพื่อรองรับการพัฒนาและก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งมั่นดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาด พร้อมตอบโจทย์รูปแบบความต้องการใช้พลังงานที่เปลี่ยนแปลงไปขององค์กรต่าง ๆ โดยเฉพาะองค์กรระหว่างประเทศที่มีนโยบายลดการสร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระยะยาว ซึ่งบริษัทพร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและร่วมมือกับองค์กรเหล่านี้ เพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อร่วมกันลดภาวะโลกร้อนและดูแลสิ่งแวดล้อมด้วยกันอย่างยั่งยืน
ที่มา: บี.กริม เพาเวอร์