ในการประกาศครั้งนี้ Krishna Kanumuri ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการของ Sai Life Sciences กล่าวว่า "ศูนย์ชีววิทยาแห่งใหม่นี้ถือเป็นการบรรลุผลขั้นสูงสุดของเส้นทางที่เราเริ่มต้นเมื่อสองปีก่อน ตลอดจนในการสร้างคุณค่าที่แตกต่างให้แก่ลูกค้าในด้านการค้นพบด้วยโมเดลการให้บริการแบบบูรณาการทั่วทั้งบอสตันและไฮเดอราบัด ทั้งนี้ ด้วยการผนวกรวมบุคลากรผู้มีความสามารถ เทคโนโลยี บริการเสริม และประสิทธิภาพที่ดีที่สุด เรามีความมั่นใจในการให้บริการลูกค้าของเราด้วยคุณค่าที่ไม่เหมือนที่อื่นใด และตั้งตารอที่จะได้ดำเนินการค้นพบแบบบูรณาการในระดับใหญ่"
เพื่อสานต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านบริการทางชีววิทยาของบริษัท ศูนย์แห่งใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีก้าวหน้านี้มีการขยายบริการทางชีววิทยาแบบดำเนินการในหลอดแก้ว (in vitro) ดำเนินการในสิ่งมีชีวิต (in vivo) DMPK (drug metabolism and pharmacokinetics หรือการเปลี่ยนแปลงยาและเภสัชจลนศาสตร์) พิษวิทยา (toxicology) และการจำลองสภาพทางธรรมชาติ (vivarium) ศูนย์ดังกล่าวนี้ยกระดับทั้งสมรรถนะและความสามารถในการรองรับ เพื่อใช้งานแพลตฟอร์มและเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าในการช่วยให้โครงการการค้นพบยาแบบบูรณาการเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
โมเดลการให้บริการแบบบูรณาการระหว่างบอสตัน-ไฮเดอราบัด
Sai Life Sciences ได้พัฒนาสมรรถนะด้านชีววิทยาอย่างมั่นคง เพื่อเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านเคมีการแพทย์ DMPK และพิษวิทยา เพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าตลอดทั้งกระบวนการค้นพบยาใหม่ ตั้งแต่การระบุเป้าหมายและการตรวจสอบเพื่ออนุมัติ ไปจนถึงการวิจัยยาทางคลินิก (IND) ในปี 2562 บริษัทได้เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาระหว่างประเทศพร้อมห้องปฏิบัติการทางชีววิทยาแห่งแรกในบอสตัน สหรัฐอเมริกา Boston Biology Lab นี้ออกแบบเพื่อให้บริการทางชีววิทยาแก่บริษัทสตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในภูมิภาค ในแง่ของการตอบสนองความต้องการด้านการสำรวจค้นพบหรือความต้องการเฉพาะในด้านชีววิทยา
โมเดลการให้บริการแบบบูรณาการด้านชีววิทยา มุ่งให้บริการลูกค้าด้วยทางออกที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในแง่ของความเชี่ยวชาญ ความรวดเร็ว และต้นทุน ด้วยโมเดลนี้ งานการสำรวจที่สำคัญซึ่งต้องมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับลูกค้าจะทำที่ห้องปฏิบัติการในบอสตัน หลังจากนั้นจึงจะทำการถ่ายทอดเทคโนโลยีการทดสอบไปยังไฮเดอราบัด เพื่อให้สามารถทำงานได้ในปริมาณที่มากขึ้น การถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างต่างสถานที่อย่างไร้รอยต่อและรวดเร็วนี้ เกิดขึ้นได้ด้วยองค์กรระดับโลกที่มีเอกภาพและการจับคู่โครงสร้างพื้นฐานที่สอดรับกันระหว่างทั้งสองแห่ง ด้วยความสำเร็จในเบื้องต้นของโมเดลบูรณาการระหว่างบอสตัน-ไฮเดอราบัดนี้ บริษัทมีแผนจะขยายกำลังการดำเนินการของทั้งสองแห่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
บริการการค้นพบของบริษัทได้ให้การสนับสนุนบริษัทนวัตกรรมทั่วโลกอย่างหลากหลาย ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทยาขนาดใหญ่ โดยครอบคลุมการรักษาในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งวิทยา ระบบประสาทส่วนกลาง การต้านไวรัส การอักเสบ และอื่น ๆ ด้วยประวัติความสัมพันธ์ลูกค้าที่แข็งแกร่งโดยเฉลี่ยมากกว่า 10 ปี Sai Life Sciences ได้ดำเนินกว่า 35 โครงการไปจนถึงการศึกษาทางคลินิกในขั้นต่าง ๆ (ตั้งแต่ IND ไปจนถึงระยะที่ 3) โดยมีเวลาระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่ขั้น Hit/Lead ไปจนถึงขั้น Candidate รวมเฉลี่ย 18 เดือน
ศูนย์ชีววิทยาแห่งใหม่นี้ถือเป็นความสำเร็จสำคัญของความพยายามของบริษัทในการรวมกระบวนการค้นพบ การพัฒนาขั้นต้นและขั้นปลาย และสมรรถนะอุปทานทางคลินิกเข้าด้วยกันบนหนึ่งที่ดินขนาด 13 เอเคอร์ ซึ่งเป็นแหล่งรวมนักวิทยาศาสตร์กว่า 1,000 คน เพื่อให้บริการคุณค่าแบบบูรณาการในระดับใหญ่
เกี่ยวกับ Sai Life Sciences
Sai Life Sciences เป็นองค์กร CRO-CDMO ครบวงจร ซึ่งทำงานร่วมกับบริษัทนวัตกรรมยาและเทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลก เพื่อเร่งการค้นพบ การพัฒนา และกระบวนการเชิงพาณิชย์ของโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อน กว่าสองทศวรรษที่ Sai Life Sciences ได้ให้บริการโซลูชันคุณภาพสูงที่คุ้มค่ากับต้นทุนแก่ลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ ไปจนถึงบริษัทยาขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ ปัจจุบัน บริษัทมีพนักงานกว่า 2,200 คนในศูนย์ปฏิบัติการในอินเดีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา https://www.sailife.com
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/1044186/Sai_Life_Sciences_Logo.jpg
รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/1597144/Sai_Life_Sciences_Biology_Block.jpg