การสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้บุคลากรในธุรกิจตลาดทุนของไทย เข้าใจถึงความเชื่อมโยงเรื่อง ESG ในมุมของการลงทุนในตลาดทุน แนวโน้มและผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรม รวมถึงให้ตัวอย่างกรณีศึกษาเกี่ยวกับการผนวกเรื่อง ESG ในการวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุน เพื่อให้นักวิเคราะห์การลงทุนและผู้จัดการกองทุน สามารถนำไปประยุกต์ใช้ และเป็นกลไกในการพัฒนาตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Capital Market) การสัมมนาดังกล่าวได้รับการสนับสนุนวิทยากรและผู้เชี่ยวชาญจากสถาบัน CFA ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากลด้านผู้ประกอบวิชาชีพการจัดการการลงทุน
มาแบ่งปันประสบการณ์ในภาคปฏิบัติ โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมซึ่งเป็นผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์การลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมที่สนใจ มากกว่า 500 คน
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
ได้กล่าวเปิดงานอบรมในครั้งนี้ว่า "ก.ล.ต. ให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาตลาดทุนที่ยั่งยืนมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่สำคัญ
คือ ต้องเสริมสร้างระบบนิเวศของเราให้เข้มแข็ง โดยบุคลากรในธุรกิจตลาดทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน มีส่วนสนับสนุนและขับเคลื่อนร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการมีการคำนึงถึงเรื่อง ESG ในการดำเนินกลยุทธ์และการตัดสินใจทางธุรกิจ ก.ล.ต. จึงสนับสนุนให้ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์การลงทุนผนวกปัจจัยเรื่อง ESG เข้ากับกระบวนการให้คำแนะนำ และการตัดสินใจลงทุน รวมถึงโมเดลการวิเคราะห์ผลตอบแทนและความเสี่ยง ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้จัดการกองทุนและนักวิเคราะห์การลงทุนจะมีส่วนส่งเสริมผลตอบแทนที่ดีขึ้นในระยะยาวให้แก่ผู้ลงทุนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนเป็นแรงผลักดันที่สำคัญสำหรับภาคธุรกิจในการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่ยั่งยืน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาของสังคมที่ดีขึ้นต่อไป"
Ms Leung, Head Advocacy APAC, CFA Institute กล่าวว่า "ภายใต้ประเด็น ESG ที่มีการกล่าวถึงกันอย่างหลากหลายนั้น สถาบัน CFA ให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของข้อมูลและการมีข้อมูลเกี่ยวกับ ESG ที่สามารถเทียบเคียงกันได้ รวมถึงวิธีการผนวกปัจจัยด้าน ESG ในกระบวนการคัดเลือกการลงทุน เราจึงสนับสนุนให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนมีการพิจารณานำปัจจัยด้าน ESG เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการวิเคราะห์และการตัดสินใจลงทุน ไม่ว่าในรูปแบบการลงทุน ประเภทของสินทรัพย์ หรือแนวคิดทางการลงทุนใดก็ตาม ทั้งนี้ สถาบัน CFA รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. และ CFA Society Thailand ในการส่งเสริมเรื่อง ESG ในมิติต่าง ๆ ของตลาดทุน และช่วยให้บุคลากรในตลาดทุนได้พัฒนาทักษะ และความรู้เรื่อง ESG เพื่อนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
Mr Shah, ESG Practice Lead, GMO กล่าวว่า "เราเห็นการเปลี่ยนแปลงทางพื้นฐานที่สำคัญในเรื่องของการลงทุน
ซึ่งนักลงทุนมีการคำนึงถึงเรื่อง ESG เช่น สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เป็นปัจจัยหนึ่งในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและโอกาส
ในการลงทุน และผนวกเรื่องนี้เข้ากับเรื่องการวิเคราะห์การลงทุน การสร้างพอร์ตการลงทุน ในผลิตภัณฑ์การลงทุนประเภทต่าง ๆ และจากการที่ภูมิภาคเอเชียมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของโลก ผมเชื่อว่า ผู้ลงทุนและผู้ประกอบการต่าง ๆ
ในเอเชียจะมีบทบาทสำคัญอย่างมากที่จะทำให้โลกของเราเปลี่ยนผ่านไปสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและมีอัตราการใช้คาร์บอน
ที่ลดลง (low carbon) ในอนาคต"
ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์