กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามข้อมูลเงินเฟ้อและยอดค้าปลีกเดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ หลังดัชนีราคาผู้ผลิตเมื่อเทียบเป็นรายปีเร่งตัวขึ้นถึง 8.3% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงที่สุดในรอบเกือบ 11 ปี สะท้อนว่าอัตราเงินเฟ้ออาจจะยังอยู่ในระดับสูงต่อไปท่ามกลางปัญหาห่วงโซ่อุปทานที่ตึงตัวและอุปสงค์ที่ฟื้นตัวจากการกลับมาเปิดเมือง กรุงศรีมองว่าภาวะดังกล่าวอาจสร้างความท้าทายให้กับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และตลาดการเงินโลกในระยะถัดไปหากเงินเฟ้อไม่ใช่ปรากฏการณ์ชั่วคราวอย่างที่เฟดตั้งสมมติฐานไว้ โดยมีความเสี่ยงที่ค่าเงินดอลลาร์จะปรับตัวสูงขึ้นและสินทรัพย์ตลาดเกิดใหม่เผชิญแรงกดดันกรณีตลาดปรับมุมมองว่าเฟดจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและขึ้นดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด นอกจากนี้ ทางฝั่งยุโรปจะประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากราคาสินทรัพย์เสี่ยงทรุดลงและดัชนีความผันผวนสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ค่าเงินเยนจะได้รับแรงหนุนจากความต้องการแหล่งพักเงินที่ปลอดภัย
สำหรับปัจจัยภายในประเทศ ตลาดจะยังคงติดตามสถานการณ์แพร่ระบาดหลังคลายล็อคบางส่วนตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน การกระจายวัคซีนที่มีสัญญาณดีขึ้น รวมถึงประเด็นทางการเมือง อนึ่ง กรุงศรีมองว่าปัจจัยต่างๆ ในตลาดโลก อาทิ ราคาทองคำ และน้ำมันดิบจะเริ่มกลับมามีน้ำหนักมากขึ้นสำหรับค่าเงินบาทควบคู่กับปัจจัยภายใน โดยนักลงทุนอาจเพิ่มความระมัดระวังก่อนการประชุมเฟดวันที่ 21-22 กันยายน และการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 29 กันยายน
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา