การจัดอันดับ ENR ซึ่งเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในอุตสาหกรรม เป็นการจัดอันดับบริษัทก่อสร้างทั่วโลกโดยพิจารณาจากรายได้ที่เกิดจากโครงการในต่างประเทศ การจัดอันดับดังกล่าวพบว่า ปี 2563 เป็นอีกปีหนึ่งที่เต็มไปด้วยความยากลำบากสำหรับบริษัทก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก เนื่องจากตลาดนั้นเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและความเสี่ยงในระยะสั้นมากมาย ENR ระบุว่า รายได้จากการทำสัญญาระหว่างประเทศทั้งหมดสำหรับบริษัท 250 อันดับแรกนั้นลดลง 11.1% แตะที่ 4.204 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2563 จากเดิมที่ 4.731 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ลดลงมากที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ในข้อมูลการทำสัญญาระหว่างประเทศของ ENR ซึ่งย้อนหลังไปจนถึงปี 2546 ท่ามกลางความซับซ้อนและบรรยากาศของตลาดที่ท้าทาย Shanghai Electric ใช้กลยุทธ์ทางธุรกิจเชิงรุกทั้งในและต่างประเทศ เพื่อปกป้องพนักงานประจำไซต์งานในขณะที่ยังคงรักษาไว้ซึ่งอัตราการเติบโตของรายได้ในระดับสูงสำหรับโครงการระดับนานาชาติที่สำคัญ ซึ่งรวมถึงโครงการ Dubai CSP โครงการเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าแบบบูรณาการ Thar Block-1 ในปากีสถาน โครงการ Pancevo ในเซอร์เบีย โครงการ Forte ในเวียดนาม โครงการเซลล์แสงอาทิตย์ในกรีซ และโครงการบำรุงรักษา Huahide ในอิรัก
เมื่อมองย้อนกลับไปในปี 2563 ขณะที่ Shanghai Electric ฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 โฆษกประจำ Shanghai Electric เปิดเผยว่า Shanghai Electric ได้แสดงให้เห็นอีกครั้งถึงความยืดหยุ่นของบริษัทในช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับอุตสาหกรรมวิศวกรรมทั่วโลก "เมื่อเผชิญกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ไม่แน่นอนในปีที่ผ่านมา Shanghai Electric ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อลดความล่าช้าในการก่อสร้าง จัดการด้านความปลอดภัยและการขาดแคลนพนักงานประจำไซต์ และทำให้มั่นใจว่าจะสามารถส่งมอบโครงการจำนวนมากในต่างประเทศได้ ทำให้การยอมรับจาก ENR เป็นอีกหนึ่งเครื่องพิสูจน์ที่แสดงถึงความพยายามอันยอดเยี่ยมของเรา ตลอดจนการจัดการที่มีประสิทธิภาพและคุณภาพผลิตภัณฑ์ชั้นนำแห่งอุตสาหกรรม อันเป็นผลมาจากการแสวงหาความเป็นเลิศที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของเรา"
ในขณะเดียวกัน การก่อสร้างโครงการสำคัญในต่างประเทศของ Shanghai Electric ยังคงอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน โดยมีความคืบหน้าเป็นไปตามกำหนดการ
- โครงการสวนเซลล์แสงอาทิตย์ Mohammed bin Rashid Al Maktoum Solar Park (MBR Solar Park) ระยะแรกขนาด 300MW ในโครงการเฟส 5 ทั้งหมด 900MW ทดสอบประสิทธิภาพระยะเวลา 10 วันเป็นอันแล้วเสร็จในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และเข้าสู่การดำเนินการเชิงพาณิชย์ก่อนกำหนดในกลางเดือนสิงหาคม
- ชั้นหินอุ้มน้ำแห่งแรกในเหมืองถ่านหินแบบเปิดประจำโครงการเหมืองถ่านหินและโรงไฟฟ้าแบบบูรณาการ Thar Block-1 ในปากีสถาน เสร็จสมบูรณ์เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
- สถานีสวิตช์ขนาด 220 kV ในโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมก๊าซ Pancevo ในประเทศเซอร์เบีย เสร็จสิ้นกระบวนการป้อนย้อนกลับเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม สถานะการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องมีความเสถียรและแสดงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ วางรากฐานสำหรับการผลิตไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับกริด
นอกจากนี้ สถานีพลังงานความร้อน Deenbandhu Chhotu Ram Thermal Power Station (DCRTPP) ขนาด 300 MW ยูนิตที่ 1 ที่ Yamuna Nagar ของ Haryana Power Generation Corporation Limited (HPGCL) ยังทำลายสถิติด้วยการดำเนินการต่อเนื่อง 145 วัน ณ วันที่ 19 เมษายน 2564 โดยการจัดการของวิศวกรจาก Shanghai Electric
ภารกิจการซ่อมบำรุงเกิดขึ้นท่ามกลางช่วงเวลาที่ท้าทายขณะที่อินเดียกำลังประสบกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ วิศวกรของ HPGCL และ Shanghai Electric ทำงานภายใต้แรงกดดันมหาศาลและเอาชนะทุกอุปสรรคในการซ่อมบำรุง ทำให้สามารถกลับมาดำเนินงานได้โดยปราศจากปัญหาทางเทคนิคใด ๆ ตลอด 5 เดือนต่อมา ในเดือนมีนาคม 2564 สถานีมี Plant Load Factor (PLF) รายเดือนที่ 86.32% ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดในประเทศ
โรงไฟฟ้าพลังถ่านหิน Jindal 4X300MW หน่วยที่ 4 ในอินเดีย ยังประสบความสำเร็จในการดำเนินงานที่ปราศจากข้อผิดพลาดติดต่อกัน 711 วันในเดือนกันยายน 2563 ทำลายสถิติเดิมที่ 684 วัน และสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับทั้งประเทศ นอกจากนี้ ในเดือนมกราคม 2564 โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน Warora 2X300 MW ในอินเดีย ยังได้รับรางวัล "Best Performance Award" เป็นปีที่สามติดต่อกัน