โฆษกดีอีเอสเตือนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม รายชื่อยาทั้ง 6 ชนิด ที่ควรซื้อติดบ้านไว้รักษาโควิด-19 ด้วยตัวเอง

พฤหัส ๓๐ กันยายน ๒๐๒๑ ๐๙:๔๖
นางสาวนพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมฝ่ายการเมือง กล่าวว่า ตามที่ได้มีการส่งต่อข่าวสารในประเด็นเรื่อง รายชื่อยาทั้ง 6 ชนิด ที่ควรซื้อติดบ้านไว้รักษาโควิด-19 ด้วยตัวเอง ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ

จากกรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลเรื่องยารักษาโควิด-19 ที่ต้องเตรียมไว้เพื่อรักษาตนเองที่บ้าน 6 ชนิด คือ ยาพาราเซตามอล แอมบรอกซอล เดกซ์โทรเมทอร์แฟน คลอเฟนิรามีน วิตามินซี และฟ้าทะลายโจรนั้น ทางกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวและชี้แจงว่า ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ home isolation ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์เท่านั้น โดยการจ่ายยารักษาผู้ป่วยที่กักตัวที่บ้านเป็นไปตามที่แพทย์ประเมินอาการรายบุคคล เพราะการรับประทานยาเอง อาจทำให้เกิดอันตราย จากภาวะแทรกซ้อนของยาได้  ซึ่งกรมการแพทย์เผยแพร่แนวทาง Home isolation (การแยกกักตัวที่บ้าน) เป็นแนวทางสำหรับ ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ระหว่างรอ admit โรงพยาบาล แพทย์พิจารณาว่ารักษาที่บ้านได้ และรักษาที่โรงพยาบาลหรือสถานที่รัฐจัดให้อย่างน้อย 10 วันและจำหน่ายกลับบ้านเพื่อรักษาต่อเนื่องที่บ้านโดยวิธี Home isolation

  ส่วนผู้ที่เข้าเกณฑ์การทำ Home isolation ประกอบด้วย

1.เป็นผู้ติดเชื้อที่สบายดีหรือ ไม่มีอาการ (asymptomatic cases)

2.มีอายุน้อยกว่า 60 ปี

3.มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

4.อยู่คนเดียว หรือ มีผู้อยู่ร่วมที่พักไม่เกิน 1 คน

5.ไม่มีภาวะอ้วน (ภาวะอ้วน หมายถึง ดัชนีมวลกาย > 3030กก./ม.2 หรือ น้ำหนักตัว > 90 กก.)

6.ไม่มีโรคร่วม ดังต่อไปนี้ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) โรคไตเรื้อรัง (CKD Stage 3,4 ) โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้ หรือโรคอื่นๆ ตามดุลยพินิจของแพทย์ 7.ยินยอมแยกตัวในที่พักของตนเอง

ซึ่งตามแนวทางปฏิบัติสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ ในการให้คำแนะนำผู้ป่วยและการจัดบริการผู้ป่วยโควิด - 19 แบบ Home Isolation ฉบับวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 กรณีระหว่างรอเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยในโรงพยาบาล หรือระหว่างรอครบกำหนด 14 วัน หรือหลังจำหน่ายจากโรงพยาบาลหรือสถานที่รัฐจัดให้ก่อนกำหนด ตามลิงก์ https://covid19.dms.go.th/Content/Select_Landding_page?contentId=136

ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจากกรมการแพทย์ สามารถติดตามได้ที่ www.dms.go.th หรือโทร 02 5906000  นอกจากนี้ หากพี่น้องประชาชนพบเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งผ่าน 4 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com ,เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter และช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ที่มา: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๗ เด็กดิจิทัลมีเดีย SPU แชมป์ประเทศไทย Thailand Design Creator 2024
๑๔:๑๓ ประสบการณ์อาหารไทยร่วมสมัยจากสองเชฟระดับประเทศ เชฟเอียน กิตติชัยและเชฟน้อย บุศริน ณ ร้านอาหารคำหอม วันที่ 15 และ 16 มี.ค.
๑๔:๓๕ iiG พ้นวิกฤต! โบรกฯ เฟิร์ม ปีนี้.พลิกกำไร 48 ลบ.
๑๔:๑๗ ปักหมุดเปิด 30 มี.ค. นี้ 'เซ็นทรัล นครปฐม' ปฐมบทใหม่ของความสุขทุกมิติ แลนด์มาร์ก ยิ่งใหญ่ที่สุดในนครปฐม
๑๔:๕๒ 'PANEL' เปิดบ้านต้อนรับกลุ่มนักลงทุน ผู้บริหารมั่นใจธุรกิจเติบโตสูง ตุนแบ็คล็อกคุณภาพสูงเต็มพอร์ท
๑๔:๔๔ APO ควง APM KFS ปิดท้ายโรดโชว์ กทม. นักลงทุนให้ความสนใจล้นหลาม
๑๓:๑๖ แอร์เอเชีย กัมพูชา พร้อมให้บริการ เปิดบิน 3 เส้นทางภายในประเทศ
๑๓:๑๕ เปิดเรื่องราวพิชิตทุนนอก จาก 2 รุ่นพี่นักเรียนทุน GREAT Scholarship สู่เส้นทางลัดฟ้าศึกษาต่อสหราชอาณาจักร
๑๓:๒๘ TPCH เฮ! เซ็นสัญญาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ SP2 กำลังผลิต 9.9 MW รุกขยายธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์ม ในลาว-กัมพูชา ดันผลงานปี 67 โตเข้าเป้า
๑๓:๒๒ เชียร์บอลไทยให้สุดใจ ร่วมสนุกทายผลการแข่งขัน ลุ้นรับเสื้ออิเกร์ กาซิยาส พร้อมลายเซ็น ในนัด ไทย พบ เกาหลีใต้ วันที่ 21 มี.ค.นี้ เวลา 18.00