รมว.ดีอีเอส มอบนโยบาย ไปรษณีย์ไทย เดินหน้าสู่ "Tech Post" ลุยเสริมศักยภาพเครื่องคัดแยก พร้อมเทคโนโลยีใหม่ เพิ่มแรงหนุนการเติบโตอีคอมเมิร์ซ

พุธ ๐๖ ตุลาคม ๒๐๒๑ ๑๐:๐๙
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส เข้าตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของไปรษณีย์ไทยซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯ พร้อมดูกระบวนการคัดแยกสิ่งของ ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ โดยได้มอบนโยบายในการขับเคลื่อนองค์กร ตอกย้ำบทบาทด้านการสื่อสารและขนส่งหลักของชาติ ผ่านแนวทางสำคัญ อาทิ การขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล หรือ Tech Post การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม การให้บริการครบวงจร โดยไปรษณีย์ไทยพร้อมขานรับนโยบาย เดินหน้าเพิ่มศักยภาพการคัดแยกพัสดุด้วยการติดตั้งเครื่องคัดแยกแบบ Cross Belt Sorter เพิ่มเพื่อรองรับปริมาณสิ่งของจากกลุ่มธุรกิจ e-Commerce ที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการด้วยเครื่องให้บริการรับฝากอัตโนมัติ (APM) ให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการ ฝากส่งสิ่งของด้วยตนเองได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยในฐานะหน่วยงานขนส่งหลักของประเทศ ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้ดำเนินภารกิจด้านการสื่อสารและการขนส่งให้ประชาชนทั่วประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์วิกฤตที่ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าไปรษณีย์ไทยมีบทบาทและหน้าที่สำคัญ ในการอำนวยความสะดวกให้กับทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือภาคสาธารณสุข การขับเคลื่อนภาคเศรษฐกิจ การบรรเทาภาวะวิกฤตให้กับองค์กรและชุมชน นอกจากนี้ เพื่อยกระดับไปรษณีย์ไทย ให้ตอบโจทย์มิติทางเศรษฐกิจและสังคมมากได้ยิ่งขึ้น ผ่านแนวทางสำคัญ ได้แก่ การขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล หรือ Tech Post การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม การให้บริการครบวงจร และการรักษาคุณภาพบริการ โดยไปรษณีย์ไทยพร้อมขานรับนโยบาย เดินหน้าเพิ่มศักยภาพการคัดแยกพัสดุด้วยการติดตั้ง เครื่องคัดแยกแบบ Cross Belt Sorter เพิ่มเพื่อรองรับปริมาณสิ่งของจากกลุ่มธุรกิจ e-Commerce ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ (EMS) ซึ่งสามารถคัดแยกสิ่งของได้กว่า 7,200,000 ชิ้นต่อเดือน พร้อมทั้งเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้บริการด้วยเครื่องให้บริการรับฝากอัตโนมัติ (APM) ให้ผู้ใช้บริการสามารถทำการฝากส่งสิ่งของด้วยตนเองได้ง่ายๆ ตลอด 24 ชั่วโมง โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การรักษาคุณภาพบริการ ทั้งความรวดเร็ว ความแม่นยำ และ ความปลอดภัย เพื่อเป็นผู้ให้บริการสื่อสารและขนส่งของชาติที่คนไทยจะไว้วางใจได้เสมอ

ด้าน ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าพัฒนาการดำเนินงานและการบริการมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้ไปรษณีย์ไทย มีความมุ่งมั่นที่จะผลักดันการดำเนินงานขององค์กรสู่ความเป็น Tech Post อย่างเต็มรูปแบบ โดยทุกกระบวนการทำงานของไปรษณีย์ไทยจะมีการนำเทคโนโลยีมาเป็นเครื่องมือในการดำเนินงานมากขึ้น เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ และคนไทย โดยล่าสุดไปรษณีย์ไทยได้เดินหน้าเพิ่มศักยภาพการคัดแยกพัสดุ ด้วยการติดตั้งเครื่องคัดแยกแบบ Cross Belt Sorter เพิ่ม เพื่อรองรับปริมาณสิ่งของจากกลุ่มธุรกิจ e-Commerce ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ (EMS) ซึ่งสามารถคัดแยกสิ่งของได้กว่า 7,200,000 ชิ้นต่อเดือน มากกว่าเครื่อง คัดแยกแบบ Cross Belt Sorter เดิมที่คัดแยกสิ่งของได้ 6,500,000 ชิ้นต่อเดือน โดยการติดตั้งเครื่อง Cross Belt Sorter ณ ศูนย์ไปรษณีย์ด่วนพิเศษกรุงเทพฯ (EMS) นับเป็นเครื่องที่ 3 ต่อจากศูนย์ไปรษณีย์ศรีราชา และศูนย์ไปรษณีย์หลักสี่ ซึ่งเมื่อรวมศักยภาพของทั้ง 3 เครื่องแล้ว จะรองรับปริมาณงานได้มากถึงกว่า 20,000,000 ชิ้นต่อเดือน พร้อมทั้งมีแผนในการติดตั้งเครื่องคัดแยกแบบ Cross Belt Sorter เพิ่มที่ศูนย์ไปรษณีย์อีก 8 แห่ง คือ ศูนย์ไปรษณีย์นครราชสีมา ศูนย์ไปรษณีย์ขอนแก่น ศูนย์ไปรษณีย์อุบลราชธานี ศูนย์ไปรษณีย์ทุ่งสง ศูนย์ไปรษณีย์หาดใหญ่ ศูนย์ไปรษณีย์พิษณุโลก ศูนย์ไปรษณีย์ลำพูน และศูนย์ไปรษณีย์ราชบุรี ให้ครบ 11 เครื่อง ภายในปี 2566

ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยซึ่งมีศูนย์ไปรษณีย์ครอบคลุมทั่วประเทศถึง 19 ศูนย์ สามารถคัดแยกสิ่งของฝากส่งจากทั่วประเทศกว่า 3,000 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งคาดว่าจะสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้บริการทั้งภาคส่วนผู้ประกอบการ รวมถึงประชาชนทั่วไป และเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ธุรกิจ e-Commerce เดินหน้าอย่างไม่สะดุด สามารถส่งด่วนทุกปลายทางแม้จะมีปริมาณสิ่งของที่ต้องการจัดส่งจำนวนมาก

นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยได้นำร่องติดตั้งเครื่องให้บริการรับฝากอัตโนมัติ (APM) ให้บริการกับประชาชน ใน 7 ที่ทำการไปรษณีย์ คือ ไปรษณีย์จตุจักร ไปรษณีย์นนทบุรี ไปรษณีย์ลาดพร้าว ไปรษณีย์ภาษีเจริญ ไปรษณีย์บางขุนเทียน ไปรษณีย์บางพลี เคาน์เตอร์ไปรษณีย์แสมดำ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางให้กับผู้ใช้บริการในรูปแบบ Self-Service ซึ่งเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้บริการได้ลดระยะเวลารอคอยใช้บริการที่เคาน์เตอร์ และอำนวยความสะดวกในยุคที่ต้อง social distancing โดยปัจจุบันเครื่อง APM สามารถให้บริการฝากส่งได้ 3 ประเภท คือ EMS ไปรษณีย์ลงทะเบียน และพัสดุไปรษณีย์ โดยเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเดินหน้าสู่การเป็น Smart Post Office ต่อไป ดร.ดนันท์ กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4