กรุงศรีคาดเงินบาทซื้อขายในกรอบ 33.35-33.70 จับตาเฟดเร่งลดคิวอี

อังคาร ๑๔ ธันวาคม ๒๐๒๑ ๑๐:๒๕
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่าเงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 33.35-33.70 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 33.47 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 33.37-33.90 บาท/ดอลลาร์ เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ยกเว้นเยนและฟรังก์สวิสในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่นักลงทุนลดความกังวลเรื่องผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก COVID สายพันธุ์ Omicron หลังรายงานข่าวระบุว่าผู้ติดเชื้อในแอฟริกาใต้มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อย ส่วนผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดต่อของสหรัฐฯให้ความเห็นว่าในเบื้องต้นสายพันธุ์ดังกล่าวอาจจะมีความสามารถในการแพร่เชื้อสูงแต่ไม่มีความร้ายแรงมากนัก นอกจากนี้ บรรยากาศการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,891 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 9,419 ล้านบาท

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) โดยจุดสนใจหลักจะอยู่ที่การสื่อสารจากเฟดวันที่ 15 ธันวาคม โดยกรุงศรีคาดว่าเฟดอาจพิจารณาเร่งลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ (QE Tapering) อีกเดือนละ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เป็น 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ตลาดจะจับตาประมาณการอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเจ้าหน้าที่เฟด (Dot Plot) โดยแม้ว่าข้อมูลเงินเฟ้อเดือนพฤศจิกายนของสหรัฐฯออกมาตามคาดที่ 6.8% เมื่อเทียบปีต่อปี แต่บ่งชี้ถึงอัตราการปรับตัวขึ้นของระดับราคาที่มากที่สุดในรอบเกือบ 40 ปี และมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องถึงต้นปี 2565 ซึ่งกรุงศรีคาดว่าจะทำให้เฟดเร่งปรับนโยบายเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ดี ตลาดตอบรับการคาดการณ์ไปพอสมควร หากเฟดไม่แสดงท่าทีแข็งกร้าวจนเกินไป คาดว่าค่าเงินดอลลาร์อาจย่ำฐานก่อนเข้าสู่ช่วงเทศกาลคริสต์มาสซึ่งปริมาณการซื้อขายในตลาดจะบางลง

นอกเหนือจากการประชุมธนาคารกลาง ในสัปดาห์นี้ ตลาดจะติดตามตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ การตอบโต้ของชาติตะวันตกต่อประเด็นรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดในอังกฤษซึ่งรุนแรงขึ้นอีกครั้ง

สำหรับปัจจัยในประเทศ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับไปสู่ระดับก่อนการแพร่ระบาดได้ในไตรมาส 1/66 โดยย้ำว่าธปท.จะดูแลนโยบายการเงินให้เอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ท่าทีดังกล่าวสนับสนุนมุมมองของกรุงศรีว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงนโยบายและประเมินสถานการณ์อย่างระมัดระวังในการประชุมวันที่ 22 ธันวาคม ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากไวรัสกลายพันธุ์

ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4