กระทรวงวัฒนธรรมจับมือ 7 องค์กรเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงส่งเสริมตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย ขยายผลจากงาน CCPOT GRAND EXPOSITION หนุนชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน

พฤหัส ๑๗ มีนาคม ๒๐๒๒ ๑๔:๒๓
กระทรวงวัฒนธรรม ลงนามบันทึกข้อตกลงกับ 7 องค์กรเอกชนเพื่อร่วมกันส่งเสริมตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย พร้อมเดินหน้าสานต่อโครงการและขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ชุมชนสร้างรายได้อย่างยั่งยืน หลังบรรลุเป้าหมายงาน CCPOT GRAND EXPOSITION ผลตอบรับดีเกินคาด สร้างมูลค่าการค้าสูง ถึง 600 ล้าน
กระทรวงวัฒนธรรมจับมือ 7 องค์กรเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงส่งเสริมตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย ขยายผลจากงาน CCPOT GRAND EXPOSITION หนุนชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน

วันที่ 16 มีนาคม 2565 นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานแถลงข่าวผลการดำเนินงาน "โครงการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย" (CCPOT) สู่สากล และพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการส่งเสริมการตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย โดยมีนายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงวัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร องค์กรเอกชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ผู้แทนชุมชนวัฒนธรรมและสื่อมวลชน เข้าร่วม ณ ห้องแกลเลอรี่ 5 ชั้น 1 หอศิลป์แห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม

นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า โครงการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย โดยดำเนินโครงการงานแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย CCPOT GRAND EXPOSITION ที่จัดไปเมื่อวันที่ 16-20 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งผลของการจัดงานดังกล่าวประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เกิดการเจรจาธุรกิจมากกว่า 260 คู่ สามารถสร้างมูลค่าการค้าได้กว่า 600 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับมหภาค นอกจากนี้ กระทรวงวัฒนธรรมยังได้รับการสนับสนุนจากองค์กรเอกชนรายใหญ่มาช่วยต่อยอดขยายตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชน ทำให้ชุมชนมีงานทำ มีรายได้ เศรษฐกิจชุมชนสามารถดำรงต่อไปได้อย่างยั่งยืน นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีของกระทรวงวัฒนธรรม(วธ.)ที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ 7 องค์กรเอกชนที่จะร่วมกันส่งเสริมตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทยให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือหลักที่จะดำเนินการร่วมกันจะอยู่ในกรอบระยะเวลา 3 ปี ได้แก่ การส่งเสริมกิจกรรมความรู้พัฒนาศักยภาพตลาดและเพิ่มช่องทางการจำหน่ายรวมถึงความร่วมมือกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทยให้เป็นที่รู้จักผ่านสื่อในช่องทางต่างๆ และสนับสนุนพื้นที่จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทั้งในและต่างประเทศ สำหรับความร่วมมือดังกล่าวกระทรวงวัฒนธรรมและองค์กรเอกชนจะร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหา/อุปสรรค เพื่อร่วมกันผลักดันให้โครงการเป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้โครงการนี้เป็นรูปธรรมอย่างยั่งยืนต่อไป

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวต่อว่า จากการหารือกับ 7 องค์กรเอกชน เบื้องต้นได้รับคำแนะนำว่าผลิตภันฑ์วัฒธรรมชุมชนไทยกำลังเป็นที่จับตามองจากตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์หัตถศิลป์ที่หาได้ยากเป็นงานฝีมือที่มีคุณค่า ซึ่งภาคเอกชนมีความสนใจและต้องการที่จะซื้อผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทยเป็นจำนวนมาก เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคนำไปจำหน่ายในช่องทางการตลาดของตนเองที่เป็นการตลาดที่จำหน่ายสินค้าในพื้นที่จริง (offline) และ ตลาดออนไลน์ (online) โดยเน้นว่าผลิตภัณฑ์จะต้องมีเรื่องเล่าทางวัฒนธรรมและแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์ของชุมชน สำหรับองค์กรเอกชนทั้ง 7 หน่วยงานที่ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงกับทางกระทรวงวัฒนธรรมในวันนี้ ได้แก่

  1. สมาคมการค้าส่งเสริมหัตถกรรมไทย (THTA) และสมาคมส่งเสริมและพัฒนาหัตถกรรมอาเซียน (AHPADA)
  2. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กลุ่มอุตสาหกรรมหัตถกรรมสร้างสรรค์ (Creative Craft Industry Club)
  3. สมาคมการค้าเพื่อความยั่งยืนของเกษตรกร (CASA Association) สนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการเพื่อขยายตลาดสู่ประเทศจีน
  4. Thai Pavilion Corporate Co., Ltd. ตัวแทนการค้ารายใหญ่ เพื่อนำสินค้าไทยไปจำหน่ายในประเทศจีน ในหลากหลายช่องทางร่วมถึงสนามบิน
  5. บริษัท เจียเม้งมาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ดำเนินการร้านใบเมี่ยง ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รายใหญ่
  6. บริษัท บางกอก อินสตรูเม้นท์ เซ็นเตอร์ จำกัด ดำเนินธุรกิจนำสินค้าจากผู้ประกอบการเข้าสู่ห้างค้าปลีกทั้งในและต่างประเทศ
  7. บริษัท ครีเอทีฟ สเปซชิพ จำกัด บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์ในประเทศจีนและฮ่องกงมากกว่า 10 ปี อาทิ ALIBABA.COM TMALL.COM TAOBAO WEIBO.COM GOOD ROUGTHER

"ความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นเพียงก้าวแรกของการดำเนินงานในโครงการกระตุ้นและส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทยสู่สากล นับจากนี้ต่อไปกระทรวงวัฒนธรรมยังมีแผนที่จะขยายไลน์ของกลุ่มผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนจากที่ทำอยู่ในปัจจุบันในกลุ่ม ผ้าทอ งานจักสาน ของที่ระลึก งานหัตถกรรม อาหารแปรรูปต่างๆ จะขยายไปสู่ไลน์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมถึงการสานต่อความร่วมมือกับภาคเอกชนรายใหญ่อื่นๆ เพื่อส่งเสริมช่องทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการฐานราก ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการตามนโยบายการนำวัฒนธรรมมาสร้างเศรษฐกิจด้วยการพัฒนายกระดับสินค้าและบริการทางวัฒนธรรม เพื่อมุ่งพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่อุตสาหกรรมวัฒนธรรม และขยายตลาดสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมทั้งในและต่างประเทศ และพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่นให้เป็นสินทรัพย์ทางวัฒนธรรมและทรัพย์สินทางปัญญาบนหลักการของโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG นั่นเอง" รมว.วธ. กล่าว

ทั้งนี้ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กองเศรษฐกิจวัฒนธรรม โทร. 02 209 3597 หรือ 02 209 3599 สายด่วนวัฒนธรรม 1765

ที่มา: สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม

กระทรวงวัฒนธรรมจับมือ 7 องค์กรเอกชน ลงนามบันทึกข้อตกลงส่งเสริมตลาดผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมชุมชนไทย ขยายผลจากงาน CCPOT GRAND EXPOSITION หนุนชุมชนเติบโตอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๘ 'AKS' เดินหน้าปรับพอร์ตสินเชื่อในบริษัทย่อย 'BYC' พร้อมดันมูลค่ากิจการทะลุ 400 ล้านบาท
๑๓:๔๑ ผถห.TPCH อนุมัติจ่ายปันผลปี 66 อัตรา 0.40 บ./หุ้น เตรียมรับทรัพย์ 20 พ.ค.67-มั่นใจผลงานปี 67 โตแกร่ง ลุยพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะเพิ่มอีก 4
๑๓:๒๖ เกมเศรษฐี 2: Meta World คว้ารางวัล 'The Most Popular Rising Game of The Year' จากงาน Thailand Social AIS Gaming Awards
๑๓:๑๗ ผู้ถือหุ้น AGE ไฟเขียวปันผล 0.20 บาท ฉลุย
๑๓:๒๙ ไทยเวียตเจ็ทเสนอ โปรส่งท้าย เที่ยวคลายร้อน ตั๋วเริ่มต้น 100 บาท
๑๓:๔๗ TERA เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่งเหนือจอง 122.86 %
๑๓:๔๑ LINE TODAY ปักธง 'LIVE TODAY' ออนไลน์ไลฟ์แห่งชาติ เดินหน้าดันพันธมิตรโต ตอกย้ำกลยุทธ์สร้างอิมแพคให้ธุรกิจคอนเทนต์
๑๓:๒๐ Coach เปิดตัว The Coach Tabby Shop ลาน PARC PARAGON ต่อยอดกระเป๋ารุ่น Tabby Bag สู่การสร้างประสบการณ์ใหม่ที่เหนือความคาดหมาย
๑๓:๔๒ YLG ชี้ทองคำผันผวนระยะสั้นรับแรงขายทำกำไร หลังคลายกังวลเหตุปะทะตะวันออกกลาง ระยะสั้นแนะขาย ระยะยาวหาจังหวะเก็บรับเทรนด์ระยะยาว 2-3
๑๓:๒๒ สสวท. จับมือ องค์การค้าของ สกสค. อบรมครู สควค. สร้างพลังครูวิทย์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ