ปัจจัยสัปดาห์นี้
ด้านตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศจะค่อนข้างเงียบๆไม่มีตัวเลขใดๆโดดเด่น แต่ประเทศไทยจะมีการรายงานการค้าระหว่างประเทศของเดือน ก.พ. ในวันที่ 23 มี.ค. Bloomberg คาดว่ามูลค่าส่งออกจะขยายตัว 10%YoY และนำเข้าขยายตัว 19%YoY หากตัวเลขออกมาดีกว่าคาดก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อการลงทุนได้ (2) สถานการณ์ยูเครน - รัสเซีย ต้องติดตามว่าจะมีพัฒนาการเชิงบวกออกมาหรือไม่หลังหลายประเทศเห็นว่าควรใช้การเจรจามากกว่าใช้ความรุนแรง ซึ่งหากมีปัจจัยบวกออกมาก็เชื่อตลาดหุ้นทั่วโลกจะตอบรับเชิงบวก โดยเฉพาะการประชุม NATO ในวันที่ 24 มี.ค. (3) ประชุม ครม. วันอังคาร เบื้องต้นมีรายงานออกมาว่ารัฐบาลจะออกมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพประชาชน ดังนั้นจากปัจจัยทั้งหมดจะค่อนข้างทรงตัวประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1655 - 1690
กลยุทธ์การลงทุน
กลุ่ม Domestic หรือหุ้นอิงภายในประเทศยังมองเป็นกลุ่มน่าสนใจเพราะผลกระทบจากปัจจัยรบกวนภายนอกประเทศมีจำกัด แต่ควรพิจารณาหุ้นที่มีความสามารถในการส่งผ่านต้นทุนออกไป อาทิ (BJC CPALL HMPRO GLOBAL) ร้านอาหาร (M) เครื่องดื่ม (CBG OSP TACC) โดยยังคงเน้นการเพิ่มการถือครองเงินสดมากขึ้น
M (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 61 บาท) เชื่อว่าบริษัทมีความสามารถพอในการส่งผ่านต้นทุนออกไปสะท้อนจากกำไรขั้นต้นที่ค่อนข้างโดดเด่นในอดีตที่ผ่านมาย้อนหลัง 7 ปี ขณะที่ราคาหุ้นยังค่อนข้าง Laggard และอยู่บนเส้นทางการฟื้นตัว
TACC (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 9.5 บาท) แนวโน้มปี 22 คาดได้รับผลดีต่อเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของ 7-11 และการเข้าไปขายในโลตัสได้เพิ่ม เช่นเดียวกับธุรกิจ Character ที่ประเมินว่าลูกค้าจะกลับมาทำการตลาดมากขึ้นหลังชะลอไปในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
ที่มา: บางกอก ออทัม