สจล. เริ่มกระบวนการสรรหาอธิการบดีใหม่ สานต่อสถาบันเทคโนโลยีชั้นนำแห่งเอเชีย พร้อมย้ำ 3 คุณสมบัติ ผู้นำ สจล. คนใหม่ "สร้างแรงบันดาลใจ - มีวิสัยทัศน์ระดับสากล - มีความคิดสร้างสรรค์"

ศุกร์ ๒๒ เมษายน ๒๐๒๒ ๑๓:๕๔
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดยคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี ได้กำหนดขั้นตอน กรอบเวลาดำเนินการ หลักเกณฑ์วิธีการสรรหา ตลอดจนคุณสมบัติผู้สมควรได้รับการ สรรหาอธิการบดีคนใหม่ เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ ในการเป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ใน 10 ของภูมิภาคอาเซียน และพันธกิจนำพา สจล. สู่การเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำระดับทวีปเอเชียที่มีความโดดเด่นด้านการวิจัยและเทคโนโลยี สรรหาผู้ที่มีคุณสมบัติเฉพาะบุคคลที่โดดเด่น 3 ประการ ได้แก่ 1. เป็นนักสื่อสารสร้างแรงบันดาลใจ 2. มีวิสัยทัศน์ในการบริหารระดับสากล 3. มีความคิดสร้างสรรค์ กำหนดกลยุทธ์ที่ทันสมัย เพื่อให้ได้อธิการบดีที่มีคุณสมบัติพึงประสงค์ตามข้อบังคับของสถาบัน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นว่ากระบวนการสรรหาอธิการบดีมีความโปร่งใสและอิสระในทุกขั้นตอน สภาสถาบัน สจล. ได้ยึดแนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา ตามประกาศของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นแนวทางสรรหาร่วมกับการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างทั่วถึง
สจล. เริ่มกระบวนการสรรหาอธิการบดีใหม่ สานต่อสถาบันเทคโนโลยีชั้นนำแห่งเอเชีย พร้อมย้ำ 3 คุณสมบัติ ผู้นำ สจล. คนใหม่ สร้างแรงบันดาลใจ - มีวิสัยทัศน์ระดับสากล - มีความคิดสร้างสรรค์

รศ. ดร.อนุวัฒน์ จางวนิชเลิศ รักษาการอธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง (สจล.) เผยว่า ขณะนี้ สจล.ได้เริ่มกระบวนการสรรหาอธิการบดีคนใหม่ เพื่อสานต่อวิสัยทัศน์ เป็นสถาบันอุดมศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 1 ใน 10 ของภูมิภาคอาเซียน และพันธกิจในการเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการจัดอันดับ 1 ของไทย ที่มีความโดดเด่นด้านงานวิจัย จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วเอเชีย (Times Higher Education World University Rankings 2021 Asia-Pacific) โดยอธิการบดี สจล. คนใหม่ นอกจากจะมีคุณสมบัติทั่วไปตามข้อบังคับของสถาบัน อาทิ ด้านการศึกษา ประสบการณ์การทำงาน ผลงานการวิจัยที่ได้รับการยอมรับในวงวิชาการ ฯลฯ ยังต้องเป็นผู้นำที่มีความสามารถในการผลักดัน สจล. สร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่เอื้อประโยชน์ต่อสังคม ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ภายใต้การบูรณาการองค์ความรู้ที่หลากหลาย กล่าวคือจะต้องมีคุณสมบัติเฉพาะบุคคลที่มีความโดดเด่น 3 ประการ ได้แก่

ประการที่ 1 เป็นนักสร้างแรงบันดาลใจ มีความเป็นผู้นำในการสื่อสารเพื่อสร้างความไว้วางใจ ความผูกพัน และความสามัคคี แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ได้แก่ บุคลากร นักศึกษา ศิษย์เก่า และอื่นๆ สร้างทีมที่ดี กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงสามารถตัดสินใจในภาวะวิกฤติ มีความเชื่อมั่นและแรงบันดาลใจให้กับทีมและบุคลากร ด้วยการจูงใจหรือโน้มน้าวให้บุคลากรทุกระดับและทุกหน่วยงานภายในสถาบันช่วยกันขับเคลื่อนหรือผลักดันยุทธศาสตร์ไปสู่วิสัยทัศน์ของสถาบันที่กำหนดไว้

ประการที่ 2 มีวิสัยทัศน์ระดับสากล มีประสบการณ์ในการบริหาร โดยมีวิสัยทัศน์และสามารถปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ในการบริหารงานที่ดี และนำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ต่อสถาบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีมุมมองในระดับนานาชาติ/ระดับสากล สามารถเข้าใจกระแสสังคมได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งมีความสามารถในการสร้างเครือข่าย หรือประสานงานและสร้างระบบความร่วมมือที่หลากหลายในด้านต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ประการที่ 3 มีความคิดสร้างสรรค์ที่โดดเด่น สามารถกำหนดวิสัยทัศน์และมาตรการเพื่อพัฒนาสถาบันในการนำพาสถาบันไปสู่สถาบันชั้นนำระดับโลกตามวิสัยทัศน์ที่กำหนดไว้ด้วยกลยุทธ์และวิธีการที่ทันสมัยและหลากหลายชัดเจนโดยยึดหลักธรรมาภิบาล

อย่างไรก็ดี เพื่อให้ได้การสรรหาอธิการบดีใหม่มีคุณสมบัติพึงประสงค์ตามข้อบังคับของสถาบัน สจล. จึงได้ยึดแนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษา หมวดที่ 3 ธรรมาภิบาลในระดับผู้บริหารในสถานศึกษา ตามประกาศของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มาเป็นแนวทางในการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี รวมถึงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา และคุณสมบัติผู้ควรได้รับการสรรหาอธิการบดี ดังนั้น นายกสภาสถาบัน สจล. ได้ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีชุดดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน 2565 เป็นต้นมา

โดยการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี สภาสถาบัน สจล. ได้ดำเนินการตามข้อบังคับสถาบันว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาอธิการบดี พ.ศ. 2552 และข้อบังคับสถาบัน ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการสรรหาอธิการบดี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 ซึ่งสอดคล้องกับประกาศแนวปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาลในสถาบันอุดมศึกษาที่คำนึงถึงความโปร่งใส และความมีประสิทธิภาพในการบริหารงานของสถาบันเป็นสำคัญ โดยคณะกรรมการสรรหาอธิการบดีที่แต่งตั้งครั้งนี้มีจำนวน 9 คน มาจากบุคคลภายนอก 7 คน ซึ่งเกินกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการสรรหาอธิการบดีทั้งหมด และบุคคลภายในที่มาจากการคัดเลือกและไม่ได้เป็นผู้บริหารจำนวน 2 คน ซึ่งไม่เกิน 1 ใน 3 ของกรรมการสรรหาอธิการบดีทั้งหมด ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาอธิการบดี ได้ประกาศกำหนดการ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • วันที่ 20 เมษายน 2565 ถึงวันที่ 19 พฤษภาคม 2565 ในวันและเวลาทำการ ของ สจล. เป็นช่วงเวลาการรับสมัครเข้ารับการสรรหาอธิการบดี โดยสมัครผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ที่ [email protected] โดยให้ระบุหัวเรื่อง "การสมัครอธิการบดี พร้อมระบุชื่อผู้สมัคร"
  • คณะกรรมการสรรหาฯ ได้ให้ความสำคัญในการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยได้เพิ่มระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นจากที่เคยดำเนินการอยู่เดิมเป็น 2 วัน คือในวันที่ 28 เมษายน 2565 และ วันที่ 29 เมษายน 2565 เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาคม สจล. อย่างทั่วถึง โดยจะจัดให้มีการประชุมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียกลุ่มต่างๆ ร่วมกับคณะกรรมการสรรหาฯ
  • วันที่ 25 พฤษภาคม 2565 คณะกรรมการสรรหาฯ ประชุมตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัครเข้ารับการสรรหา และพิจารณาหลักเกณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
  • วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 คณะกรรมการสรรหาฯ ประกาศรายชื่อผู้สมัครเข้ารับการสรรหาที่มีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม
  • วันที่ 1 มิถุนายน 2565 ให้ผู้สมัครรับการสัมภาษณ์ และแสดงวิสัยทัศน์เพื่อเสนอแนวนโยบาย และแผนงานการบริหารสถาบันต่อคณะกรรมการสรรหาฯ โดยในวันดังกล่าว คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีการพิจารณากลั่นกรองรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีรวมทั้งพิจารณารายงานผลการดำเนินการสรรหาอย่างละเอียด

หลังจากวันที่ 1 มิถุนายน 2565 คณะกรรมการสรรหาฯ จะเสนอรายชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดีพร้อมรายงานผลการดำเนินการสรรหาอย่างละเอียด เข้าที่ประชุมสภาสถาบันเพื่อพิจารณาในการประชุมครั้งที่ 6/2565 วันที่ 31 มิถุนายน 2565 ซึ่งสภาสถาบันจะได้คัดเลือกผู้สมควรดำรงตำแหน่งอธิการบดี โดยให้ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อ แถลงวิสัยทัศน์ นโยบายและแผนงานการบริหารสถาบันเพื่อให้คณะกรรมการสภาสถาบัน สจล. พิจารณาต่อไป

สจล. ยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารและการดำเนินงานภายในตามหลักความรับผิดชอบต่อสังคม หลักเสรีภาพทางวิชาการ หลักความเป็นอิสระ และหลักความเสมอภาค ดำเนินการสรรหาอธิการบดี ด้วยกระบวนการที่โปร่งใส บริสุทธิ์ และยุติธรรม เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดการอุดมศึกษา ตามพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 2562 ประกอบกับการพิจารณาผู้สมควรได้รับตำแหน่งโดยคณะกรรมการสรรหาฯ ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งในและนอกสถาบัน ร่วมกับการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างทั่วถึง ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าอธิการบดี สจล. คนต่อไปจะมีคุณสมบัติเหมาะสมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาอาจารย์และบุคลากร พร้อมยกระดับคุณภาพบัณฑิต งานวิจัยและนวัตกรรม เพื่อตอบโจทย์ประเทศ รศ. ดร. อนุวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

โดยผู้สนใจสามารถศึกษารายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครที่เว็บไซต์ www.kmitl.ac.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ สำนักงานสภาสถาบัน สจล. โทรศัพท์ 02-239-8242

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. DEK ดิจิทัลมีเดีย SPU บุก Thailand Toy Expo 2024 โชว์ผลงานสุดคูล!
๑๘ เม.ย. Zoho ยกระดับแอปพลิเคชันทางธุรกิจ ด้วยการทำงานร่วมกันของ Generative AI และ Low-Code
๑๘ เม.ย. Dent Talk : Fresh Up Your Knowledge ไม่รู้.ไม่ได้แล้ววว สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้า
๑๘ เม.ย. โรงแรมเชอราตันหัวหิน รีสอร์ทแอนด์สปา ต้อนรับนักหมากรุกรวม 300 คน กว่า 50 ประเทศ ในการแข่งขัน Bangkok Chess Club Open ครั้งที่ 21 ประจำปี
๑๘ เม.ย. 'Water War Chiang Mai 2024' เทศกาลดนตรีใหญ่ที่สุด เปียกสุด! เดือดสุด! จัดเต็มอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมืองเชียงใหม่
๑๘ เม.ย. TB Media Global จับมือ MQDC จัดกิจกรรมสงกรานต์ The Vibrant Forestias :Sook-San Songkran บนผืนป่าของ The
๑๘ เม.ย. SE Life อาคเนย์ประกันชีวิต รับรางวัลแบรนด์ยอดเยี่ยมประจำปี 2023
๑๘ เม.ย. โรงพยาบาลหัวเฉียว จัดโครงการธรรมโอสถ บรรยายธรรมะเรื่อง สุขในงานเบิกบานในชีวิต
๑๘ เม.ย. หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ
๑๘ เม.ย. คณะดิจิทัลมีเดีย SPU ขอเชิญร่วมกิจกรรมเสวนา หัวข้อ AI Trends Unlock Limitless Creative Potential in Digital