นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ สายงานวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ FTI ประกอบธุรกิจนำเข้า ประกอบผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) ครบวงจร ทั้งในประเทศไทยและกลุ่มอาเซียน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 ทีมผู้บริหารFTI และที่ปรึกษาทางการเงินได้ร่วมนำเสนอข้อมูล(โรดโชว์)ให้กับนักลงทุนทั่วไป ซึ่งผลการนำเสนอข้อมูลในครั้งนี้มีผลการตอบรับที่ดีเยี่ยมจากนักลงทุน และน่าจะเป็นผลมาจาก FTI เป็นผู้นำในธุรกิจนำเข้า ประกอบผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับระบบบำบัดน้ำ (Water Treatment) ครบวงจร ได้แก่ เครื่องกรองน้ำ ไส้กรอง สารกรอง ตลอดจนอุปกรณ์สำหรับเครื่องกรองน้ำ รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งครอบคลุมฐานผู้บริโภคสินค้ากลุ่มหลักทุกกลุ่มได้แก่ กลุ่มใช้เชิงพาณิชย์ ผู้บริโภคในครัวเรือน และกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ภายใต้แบรนด์สินค้ากว่า 23 แบรนด์ และมีทีมงานที่มีประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในธุรกิจมานานกว่า 25 ปี
ประกอบกับแนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคต ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ตามความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และการขยายตัวแทนจำหน่าย ภายใต้ร้าน Aquatek และร้าน Water Store ซึ่งเชื่อว่าผลจากการทำโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลการประกอบธุรกิจและข้อมูลฐานะการเงินที่มีความแข็งแกร่งอย่างครบถ้วน สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่มีต่อ FTI มากยิ่งขึ้น และทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อเปิดให้จองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 11-13 พฤษภาคมนี้ จะมีนักลงทุนแสดงความสนใจจองซื้อหุ้นอย่างคึกคัก โดยบริษัทฯ จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค / หมวดธุรกิจของใช้ในครัวเรือนและสำนักงาน
ดร.วิกร ภูวพัชร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟังก์ชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) FTI กล่าวว่า ผลการโรดโชว์ในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างคึกคัก สะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจในธุรกิจของบริษัทฯ ซึ่งเป็นธุรกิจค้าส่งในตลาดประเภท B2B ผ่านร้าน Water Store และมีแผนจะรุกขยายไปสู่ตลาดแบบ B2C เพิ่มขึ้น ผ่านช่องทางร้าน Aquatek โดยจะผลักดันความสามารถของการทำกำไรเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดีในอนาคต อีกทั้งเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐาน เพราะมองเห็นถึงศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างยั่งยืน เมื่อเข้าจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จะทำให้บริษัทฯมีศักยภาพฐานทุนต่อยอดธุรกิจ ยกระดับองค์กรให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ซึ่งในแผนธุรกิจระยะ 3 ปีข้างหน้า บริษัทฯมีเป้าหมายผลักดันให้รายได้ และกำไรเติบโตอย่างก้าวกระโดด
"เชื่อว่าผลจากการโรดโชว์จะทำให้นักลงทุนได้รับข้อมูลของบริษัทฯอย่างครบถ้วน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่มีต่อ FTI มากยิ่งขึ้น และเชื่อว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้บริษัทฯ มีศักยภาพด้านฐานะทางการเงินและจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจในอนาคต เพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่ลูกค้า คู่ค้า ทั้งในและต่างประเทศ ที่สำคัญเพิ่มความสามารถด้านการแข่งขัน ทำให้บริษัทมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่ง FTI จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น" ดร.วิกรกล่าวในที่สุด
ที่มา: ไออาร์ เน็ตเวิร์ค