กรมวิชาการเกษตรเพิ่มมูลค่าเมล็ดมะม่วงวัสดุเหลือใช้จากการแปรรูป สู่โลชั่นผิวขาว ป้องกันการเกิดริ้วรอย

อังคาร ๐๖ กันยายน ๒๐๒๒ ๑๑:๕๒
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า มะม่วงเป็นผลไม้ที่สำคัญทางเศรษฐกิจของชนิดหนึ่งประเทศ นอกจากการขายผลเพื่อบริโภคสดแล้ว ยังมีการแปรรูปมะม่วงเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและเพิ่มมูลค่า โดยพันธุ์ที่นิยมใช้แปรรูปกันอย่างกว้างขวางคือ มะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้น ซึ่งในกระบวนการแปรรูปมะม่วงจะมีส่วนเหลือทิ้งสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ในจำนวนดังกล่าวเป็นเมล็ดมะม่วงกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้เกิดขยะเหลือทิ้งจากการกระบวนการแปรรูปมะม่วงเป็นจำนวนมากก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
กรมวิชาการเกษตรเพิ่มมูลค่าเมล็ดมะม่วงวัสดุเหลือใช้จากการแปรรูป สู่โลชั่นผิวขาว ป้องกันการเกิดริ้วรอย

ทั้งนี้ เมล็ดมะม่วงที่เหลือทิ้งจะมีส่วนที่เป็นเนื้อในเมล็ดมะม่วงอยู่ถึง 45-75 เปอร์เซ็นต์ของเมล็ดมะม่วงทั้งหมด ซึ่งเนื้อในเมล็ดมะม่วงมีไขมันเป็นองค์ประกอบ 7-12 เปอร์เซ็นต์ ไขมันที่สกัดได้จากเนื้อในเมล็ดมะม่วงมีคุณสมบัติพิเศษหลายประการ ทั้งการมีช่วงอุณหภูมิของการหลอมเหลวใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกาย ทำให้สามารถละลายและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมนุษย์ได้ดี นอกจากนี้ยังมีรายงานการค้นพบสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดในไขมันจากเนื้อในเมล็ดมะม่วง เช่น สารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ และสารประกอบฟินอลิก ที่สามารถทำให้ผิวขาวขึ้น และป้องกันการเกิดริ้วรอยที่เป็นผลมาจากปฏิกิริยาออกซิเดชั่นได้

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กองวิจัยและพัฒนาวิทยาการหลังการเก็บเกี่ยวและแปรรูปผลผลิตเกษตร กรมวิชาการเกษตร ได้วิจัยคุณสมบัติที่สำคัญของไขมันที่สกัดได้จากเนื้อในเมล็ดมะม่วงเพื่อใช้เป็นส่วนประกอบในการผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พบว่า ไขมันเนื้อในเมล็ดมะม่วงแก้วขมิ้นมีกรดไขมันอิ่มตัวและไม่อิ่มตัวเป็นองค์ประกอบ 37.89 และ 62.11 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ มีจุดหลอมเหลวที่ 36.67 องศาเซลเซียส ซึ่งใกล้เคียงกับอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ เมื่อตรวจสอบคุณสมบัติที่สำคัญทางเครื่องสำอาง พบว่ามีความสามารถในการยับยั้งปฏิกิริยาออกซิเดชัน และยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ไทโรซิเนสที่เป็นสาเหตุความหมองคล้ำของผิว รวมทั้งสามารถยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์ไฮยารูลอนิเดสที่ทำหน้าที่ในการย่อยกรดไฮยาลูรอนิคที่กักเก็บความชุ่มชื่นใต้ผิวหนัง และยังมีความสามารถในการยับยั้งกิจกรรมของเอนไซม์อีลาสเตสและคอลลาจีเนสที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยและความเหี่ยวย่น

งานวิจัยนี้ได้นำไขมันเนื้อในเม็ดมะม่วงมาทำเป็นส่วนผสมสำคัญในการให้ความชุ่มชื่นในโลชั่นทาผิว ที่ปริมาณ 1.0-3.0 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก พบว่า ค่าความเป็นกรด-ด่างของโลชันเป็นไปตามมาตรฐาน มอก. 478-2555 "ผลิตภัณฑ์ทาบำรุงผิว" และไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองโดยการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ดังนั้นไขมันเนื้อในเมล็ดมะม่วงพันธุ์แก้วขมิ้นที่ได้มาจากส่วนเหลือทิ้งจากกระบวนการแปรรูปจึงสามารถใช้เป็นส่วนผสมเพื่อให้ความชุ่มชื่นในเครื่องสำอางต่าง ๆ ได้ และยังสามารถใช้แทนไขมันจากพืชที่มีราคาแพงเช่น ไขมันจากเมล็ดโกโก้และเมล็ดเชียที่เป็นส่วนประกอบสำคัญในเครื่องสำอางที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งงานวิจัยนี้สอดรับกับนโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียนหนึ่งในกุญแจสำคัญของนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่โดยนำทรัพยากรและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ใช้ประโยชน์ในขั้นแรกไปแล้วนำมาใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอีกครั้ง โดยอาจนำกลับมาใช้ใหม่หรือผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับส่วนเหลือทิ้งในกระบวนการผลิตเพื่อปริมาณขยะจากภาคการผลิตให้เป็นศูนย์ (ZERO WASTE)

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๒:๑๔ องค์การบรรจุภัณฑ์โลก จับมือ อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ร่วมจัดกิจกรรมสัมมนาออนไลน์
๑๒:๑๒ การแข่งขันกีฬาขี่ม้าโปโลรายการ King Power International Ladies' Polo Tournament 2024
๑๒:๔๔ DEXON ปักธงรายได้ปี 67 ทะลุ 700 ลบ. โชว์ Backlog เฉียด 280 ลบ. ล็อคมาร์จิ้น 35-40%
๑๒:๑๐ JPARK ร่วมงาน Dinner Talk ผู้บริหารจดทะเบียนพบนักลงทุน จ.ราชบุรี
๑๒:๒๓ นีเวีย ซัน และ วัตสัน จับมือต่อปีที่สองชวนดูแลท้องทะเล กับโครงการ เพราะแคร์ จึงชวนแชร์ ร่วมพิทักษ์รักษ์ทะเลไทย
๑๒:๕๗ Cloud เทคโนโลยีที่อยู่ใกล้ตัว เพียงแค่คุณไม่รู้เท่านั้นเอง
๑๒:๒๘ โรยัล คานิน ร่วมกับ เพ็ทแอนด์มี จัดงาน Royal Canin Expo 2024: PAWRENTS' DAY เพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้นสำหรับน้องแมวและน้องหมา
๑๒:๑๐ STEAM Creative Math Competition
๑๒:๔๔ A-HOST ร่วมวาน MFEC Inspire ขึ้นบรรยายพร้อมจัดบูธ Cost Optimization Pavilion
๑๒:๔๗ ฟินเวอร์! ส่องความคิ้วท์ 'ฟอส-บุ๊ค' ควงคู่ร่วมงาน Discover Thailand เสิร์ฟโมเมนต์ฉ่ำให้แฟนๆ ได้ดับร้อนกันยกด้อมรับซัมเมอร์ และร่วมส่งต่อความสุขในกิจกรรม 'Exclusive Unseen Food Trip กับ คู่ซี้