เมื่อไม่นานมานี้ หลักสูตรนานาชาติ วิทยาลัยดุสิตธานี ได้นำนักศึกษาสาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ และ สาขาวิชาการจัดการการบริการ มาฟอร์มทีมผนึกกำลังกันแข่งขันประกอบอาหารในรูปแบบไฟน์ไดนิ่ง ภายใต้กติกาแสนท้าทาย โดยตั้งแต่เช้าผู้เข้าแข่งขันทั้งสองทีมจะต้องมารับฟังโจทย์และวางแผนร่วมกันในการรังสรรค์เมนูคาวหวาน รวมทั้ง appetizer และเครื่องดื่มด้วยระยะเวลาและงบประมาณที่จำกัด ก่อนที่จะเสิร์ฟให้แก่คณะกรรมการรวม 30 คน ซึ่งเป็นทั้งศิษย์เก่าของโรงเรียนการโรงแรมโลซาน ผู้บริหารของวิทยาลัยดุสิตธานี ตลอดจนบุคคลภายนอกที่ให้ความสนใจ ณ ห้องอาหารมะฮอกกานี ห้องอาหารหรูภายในวิทยาลัยที่เปิดขึ้นเพื่อจำลองธุรกิจบริการให้นักศึกษาได้ใช้เป็นสถานที่ฝึกภาคปฏิบัติอย่างสมจริงและเปิดบริการให้แก่บุคคลทั่วไปด้วย
"นี่เป็นครั้งแรกของวิทยาลัยดุสิตธานีที่จัดการแข่งขันนี้ขึ้น" คุณฟราวเกอะ เกอร์เบนส์ อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันอุดมศึกษาเอกชนชั้นนำทางด้านธุรกิจบริการในเครือโรงแรมดุสิตธานี กล่าวต้อนรับแขกผู้เข้าร่วมรับประทานอาหารและเป็นกรรมการตัดสิน "วิทยาลัยดุสิตธานีเป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกของไทยที่เปิดสอนด้านการโรงแรมและธุรกิจบริการโดยตรง และเป็นสถาบันแรกในเอเชียที่เป็นพันธมิตรด้านการศึกษากับ EHL เราจึงภูมิใจที่ได้นำประเพณีการแข่งขันของ EHL ซึ่งจัดขึ้นมานานกว่า 20 ปี มาประยุกต์และจัดการแข่งขันขึ้นเป็นครั้งแรกในเมืองไทย โดยนำองค์ความรู้จากทั้งด้านศิลปะการประกอบอาหารและด้านการบริการมาผสานเข้าด้วยกัน เพื่อให้นักศึกษาหลักสูตรนานาชาติทั้งสองสาขาได้นำทักษะที่ร่ำเรียนมามาใช้อย่างเต็มที่ อีกทั้งต่อยอดความเชี่ยวชาญจากกฎกติกาที่กดดันและท้าทาย ประสบการณ์เหล่านี้จะช่วยบ่มเพาะให้พวกเขากลายเป็น 'มืออาชีพ' ในที่สุด ทั้งนี้เราตั้งใจจะจัดการแข่งขันนี้ขึ้นในทุกปีเพื่อให้เป็นประเพณีหนึ่งของหลักสูตรนานาชาติเหมือนที่ EHL ทำมา"
สำหรับอาหารของทั้งสองทีมประกอบไปด้วยเมนูสุดสร้างสรรค์ เริ่มที่ทีม A เปิดคอร์สด้วย appetizer ที่เสิร์ฟอาหารไทยสามอย่าง คือ ม้าฮ่อ ส้มฉุน และแตงโมปลาแห้งท็อปด้วยไข่ปลาแซลมอน ตามมาด้วยอาหารจานหลักที่สร้างความน่าสนใจโดยนำเนื้อหมูมาม้วนกับไก่บดราดซอสปลาแห้ง กินพร้อมกับแกงแดงของไทยที่ถูกดัดแปลงมาในรูปแบบวิปปิ้งครีม ส่วนของหวานได้แรงบันดาลใจมาจากพะโล้ ให้กลายเป็นเค้กบราวน์ชูการ์ที่เสิร์ฟพร้อมมูสน้ำเต้าหู้ ขณะที่ทีม B เริ่มต้นด้วยกระทงทอง โครเกต์ปู และหอยเชลล์ในซอสต้มข่า ส่วนอาหารจานหลักเป็นเป็ดอบที่เสริมรสชาติด้วยซอสเบอร์รี่ ทางด้านขนมหวานได้รับแรงบันดาลใจมาจากขนมไทยอย่างขนมดอกโสนที่ยกระดับเสิร์ฟคู่เค้กมะพร้าวอ่อน ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่าทีม A ชนะทีม B ไปอย่างฉิวเฉียด
กิจกรรมการแข่งขัน "DTC Le Cordon Bleu x Ecole Hoteliere de Lausanne All Stars Culinary Challenge 2022" ครั้งนี้ไม่ได้มุ่งเน้นที่จะเฟ้นหาผู้ชนะ หากต้องการที่จะให้นักศึกษามีเวทีโชว์ฝีมือและทักษะทั้งด้านการประกอบอาหารและการบริการ ได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่น และมีโอกาสในการระดมไอเดียสร้างสรรค์ เหนือสิ่งอื่นใดคือ เป็นการติดอาวุธซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำงาน เพราะจะกลายเป็นแรงผลักดันให้พวกเขาก้าวไปเป็น "มืออาชีพ" ต่อไปในอนาคต
ที่มา: วิทยาลัยดุสิตธานี
