สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่านักลงทุนจะติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 และค่าใช้จ่ายผู้บริโภคเดือนก.ย.ของสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นบททดสอบความหวังของตลาดอีกครั้งว่าเฟดจะยังคงเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยอย่างดุดันต่อไปอีกหลายรอบการประชุมหรือไม่ โดยนักลงทุนมั่นใจว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นครั้งละ 75bp เป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน แต่ขนาดของการปรับขึ้นในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.ยังมีความไม่แน่นอนสูง นอกจากนี้ ตลาดคาดว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะขึ้นดอกเบี้ย 75bp สู่ 1.50% ส่วนธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ)มีแนวโน้มคงนโยบายผ่อนคลายมากเป็นพิเศษตามเดิมในสัปดาห์นี้ ทางด้านค่าความเสี่ยงด้านการคลังของอังกฤษลดลงหลังคุณซูนัคได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำคนใหม่ของพรรคอนุรักษ์นิยมเพื่อดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่ซึ่งน่าจะลดความปั่นป่วนในสินทรัพย์สกุลเงินปอนด์ในระยะนี้
สำหรับปัจจัยในประเทศ ธปท.ระบุว่าค่าเงินบาทผันผวนท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลก โดยทางการได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด อนึ่ง เรามองว่าภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วจะทำให้เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวสองทางมากขึ้น อย่างไรก็ดี การอ่อนค่าของเงินหยวนจะจำกัดการฟื้นตัวของค่าเงินบาทได้เช่นกัน
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา