นางสาวบุปผา กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน ได้มีความห่วงใยต่อพี่น้องประชาชนที่ประสบอุทกภัย และได้ให้หน่วยงานในสังกัดในพื้นที่บูรณาการความช่วยเหลือกับทางจังหวัด ได้แก่ สำนักงาน/สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานในแต่ละจังหวัด สนับสนุนยานพาหนะขนส่งประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วมไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว ส่งเจ้าหน้าที่ทีมช่างเข้าไปดูแลอำนวยความสะดวกประชาชนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งเต้นท์ให้บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องยนต์เล็กการเกษตร เพื่อลดรายจ่ายของประชาชนที่อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายจากการถูกน้ำท่วม สนับสนุนเจ้าหน้าที่ในการจัดทำอาหารเพื่อนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิงและตามบ้านเรือนที่ประสบภัย และการสนับสนุนความช่วยเหลือกับหน่วยงานในพื้นที่ในการจัดทำสุขาลอยน้ำ สำนักงานจัดหางานจังหวัดจัดเตรียมถุงยังชีพนำไปมอบให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัด ทำหนังสือขอความร่วมมือไปยังนายจ้างให้ลูกจ้างที่บ้านน้ำท่วมและไม่สามารถมาปฏิบัติงานได้ให้หยุดโดยไม่ถือเป็นวันลาหรือเป็นความผิดต่อข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน สำนักงานประกันสังคม ดูแลในส่วนของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติธรรมชาติ น้ำท่วม และ ที่ทำงาน/โรงงาน หรือ บ้านพักอยู่ในพื้นที่ที่ราชการประกาศกำหนด และไม่สามารถไปทำงานได้จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีว่างงานด้วยเหตุฉุกเฉินเป็นเงิน 50 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง ซึ่งไม่เกิน 15,000 บาท เป็นเวลาสูงสุดถึง 180 วันอีกด้วย
ทั้งนี้ พี่น้องประชาชน นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในแต่ละพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือจากหน่วยงานของกระทรวงแรงงาน สามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506
ที่มา: กระทรวงแรงงาน