กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 37.60-38.40 ลุ้นประชุมเฟด

อังคาร ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ ๐๙:๐๘
กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า เงินบาทสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 37.60-38.40 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดอ่อนค่าที่ 37.86 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในช่วง 37.64-38.34 บาท/ดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์อ่อนค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินสำคัญในสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่บอนด์ยิลด์สหรัฐฯย่อตัวลงท่ามกลางความคาดหวังที่ว่าสหรัฐฯอาจลดความแข็งกร้าวในการคุมเข้มนโยบายการเงินก่อนสิ้นปีนี้ ทางด้านการธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝาก 75bp สู่ 1.5% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 เพื่อต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อและจะหารือเรื่องการลดขนาดงบดุลในการประชุมเดือนธ.ค. โดยอีซีบีระบุว่าจะขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมอีกหลายครั้ง อย่างไรก็ดี นักลงทุนตีความถ้อยแถลงของอีซีบีที่ว่าการคุมเข้มนโยบายในส่วนสำคัญเสร็จสิ้นไปแล้วเป็นสัญญาณว่าดอกเบี้ยปลายทางอาจไม่สูงเท่ากับที่เคยคาดไว้ ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) สวนกระแสธนาคารกลางทั่วโลกด้วยการคงนโยบายผ่อนคลายมากเป็นพิเศษต่อไป ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นและพันธบัตรไทยสุทธิ 8,464 ล้านบาท และ 4,306 ล้านบาท ตามลำดับ

สำหรับสถานการณ์ในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า เหตุการณ์สำคัญจะอยู่ที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)วันที่ 1-2 พ.ย. ซึ่งคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ย 75bp เป็นครั้งที่สี่ติดต่อกันสู่ระดับ 3.75-4.00% นักลงทุนจะจับตาท่าทีของเฟดเพื่อประเมินความแข็งกร้าวในการขึ้นดอกเบี้ยเดือนธ.ค. โดยหากมีสัญญาณว่าเฟดจะเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่ชะลอลงหลังเดือนพ.ย.ค่าเงินดอลลาร์อาจย่ำฐานในกรอบที่อ่อนค่าลง อนึ่ง เรามองอย่างระมัดระวังว่าเฟดอาจทำให้ตลาดผิดหวังและตอกย้ำความไม่แน่นอนของแนวนโยบายในระยะถัดไปซึ่งจะทำให้ดอลลาร์กลับมาแข็งค่าได้ นอกจากนี้ ตลาดจะให้ความสนใจกับการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ(บีโออี)และตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเช่นกัน

สำหรับปัจจัยในประเทศ นักลงทุนจะติดตามข้อมูลดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.ย.และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. โดยเราคาดว่าจะขาดดุลลดลงและเงินเฟ้อทั่วไปผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ทางด้านสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ปรับลดประมาณการจีดีพีปี 65 ลงเล็กน้อยเป็นขยายตัว 3.4% โดยเป็นผลจากการชะลอตัวของการลงทุนเนื่องจากต้นทุนสูงขึ้น พร้อมทั้งคาดว่าจีดีพีปี 66 จะเพิ่มขึ้น 3.8% และประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 21.5 ล้านคน โดยให้ความเห็นว่าหากเศรษฐกิจโลกถดถอย ไทยยังสามารถใช้มาตรการทางคลังประคองเศรษฐกิจโดยเน้นการช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มและเป็นมาตรการชั่วคราวมากขึ้น

ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐:๕๙ ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ให้การต้อนรับอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม
๒๐:๓๑ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่เพื่อติดตามความก้าวหน้าตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
๒๐:๕๒ Vertiv เปิดตัวดาต้าเซ็นเตอร์ไมโครโมดูลาร์รุ่นใหม่ที่มี AI ในเอเชีย
๒๐:๐๙ พิธีขึ้นเสาเอก เปิดไซต์ก่อสร้าง โครงการ แนชเชอแรล ภูเก็ต ไพรเวท พูลวิลล่า บ้านเดี่ยวบนทำเลทองใจกลางย่านเชิงทะเล
๒๐:๔๖ เขตบางพลัดประสาน รฟท.-กทพ. ปรับภูมิทัศน์ เพิ่มพื้นที่สีเขียวหน้าสถานีรถไฟบางบำหรุ
๒๐:๕๘ ร่วมแสดงความยินดีแก่อธิบดีกรมยุโรป ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ เซ็นทรัลเวิลด์
๒๐:๐๓ กทม. เดินหน้าจัดกิจกรรมริมคลองโอ่งอ่าง ส่งเสริมอัตลักษณ์ กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยว
๒๐:๔๙ พาราไดซ์ พาร์ค ร่วมกับ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก พาคุณไปสัมผัสการนวดเพื่อสุขภาพจาก 4 ภูมิภาคของไทย
๒๐:๒๔ Digital CEO รุ่นที่ 7 เรียนรู้เข้มข้นต่อเนื่อง จากวิทยากรชั้นนำของวงการ
๒๐:๒๔ เด็กไทย คว้ารางวัลระดับโลก โดรนไทย ชนะเลิศนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ทางด้านอากาศยานไร้คนขับ UAV ณ กรุงเจนีวา