POLY แวลูเพียบ งบ 9 เดือนกำไรทะยานกว่า 60% เหนือทั้งปี 64 คาดปี 65 All Time High โบรกฯ ให้มูลค่าพื้นฐาน 8.00-8.50 บ./หุ้น

พุธ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๐๒๒ ๑๗:๑๒
POLY ผู้ผลิตชิ้นส่วนครบวงจร อวดผลงาน 9 เดือนแรกปี 65 กำไรสุทธิโตระเบิดอยู่ที่ 123 ลบ. เพิ่มขึ้นกว่า 60% ทำนิวไฮสูงกว่าปี 64 ทั้งปีเรียบร้อยแล้ว ส่วนรายได้รวมทำได้ 790 ลบ. โตเกือบ 49% ด้านบอร์ดไฟเขียวเคาะแจกปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทันทีหลังเข้าตลท. 0.08 บ./หุ้น สะท้อนความเชื่อมั่นในการเติบโต ขณะที่บทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำ ให้มูลค่าพื้นฐานของ POLY ปี 66 เฉลี่ยที่ 8.00-8.50 บ./หุ้น
POLY แวลูเพียบ งบ 9 เดือนกำไรทะยานกว่า 60% เหนือทั้งปี 64 คาดปี 65 All Time High โบรกฯ ให้มูลค่าพื้นฐาน 8.00-8.50 บ./หุ้น

ทั้งนี้ ราคาหุ้น POLY ปิดเทรดวันแรกอยู่ที่ 7.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 7.35% มูลค่าซื้อขายกว่า 2 พันล้านบาท จากราคา IPO 6.80 บาท/หุ้น

นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) (POLY) เปิดเผยว่า วันนี้ POLY เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก (วันที่ 16 พฤศจิกายน 2565) ขอขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่นในการเติบโต โดยล่าสุด ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีรายได้รวม 790.4 ล้านบาท เติบโต 48.6% กำไรสุทธิอยู่ที่ 122.5 ล้านบาท เติบโต 60.1 % จากงวดเดียวกันของปีก่อน และนับเป็นกำไรสุทธิที่เติบโตกว่าปี 2564 ทั้งปีเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากการเติบโตของรายได้จากทุกกลุ่มธุรกิจ และความสำเร็จในการขยายตลาดไปยังลูกค้าในกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ ทิศทางไตรมาส 4/2565 มีแนวโน้มที่ดีไม่มีแผ่ว สนับสนุนปี 2565 ให้เป็นปีที่ดีที่สุดของ POLY ในการบันทึกผลประกอบการทำสถิติสูงสุด ทั้งรายได้และกำไร เมื่อเทียบกับปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 787.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 120.9 ล้านบาท

ด้านที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล (จ่ายจากกำไรสะสมงวดเดือนมกราคม - กันยายน 2565) ในอัตรา 0.08 บาท/หุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 29 พฤศจิกายน 2565 และกำหนดวันที่ได้รับเงินปันผล วันที่ 13 ธันวาคม 2565 เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน และแผนขยายธุรกิจ หลังจากบริษัทฯ เข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2565 เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ ใช้สำหรับจ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้ลงทุนในโครงการขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม เพื่อรองรับโอกาสทางธุรกิจ

โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษา และเจรจากับลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มเติม การเข้าตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้ เพื่อสร้าง New S-Curve ทางธุรกิจ ตั้งเป้าสำหรับการเติบโตในอนาคตของ POLY รายได้จาก 3 ธุรกิจหลัก ในกลุ่มยานยนต์ กลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมีสัดส่วนใกล้เคียงกัน โดยจะลดสัดส่วนรายได้จากกลุ่มยานยนต์ให้ต่ำกว่า 50% ภายในระยะเวลา 1-2 ปี โดยไม่ลดปริมาณรายได้จากการขาย ขณะที่อีก 2 กลุ่มธุรกิจ POLY มุ่งเน้นการขยายตลาด และขยายฐานลูกค้า เพื่อสนับสนุนคำสั่งซื้อที่จะเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ เตรียมพร้อมสำหรับขยายไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ใช้วัตถุดิบยางและซิลิโคน ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เช่น กลุ่มไฟฟ้า และพลังงาน เป็นต้น ส่วนเป้าหมายรายได้คาดโตในระดับ 25-30% ต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งในปีนี้ มั่นใจ สามารถทำได้ทะลุเป้า

นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) (POLY) เปิดเผยว่า POLY เป็นอีกหุ้นพื้นฐานดีที่ไม่ควรมองข้าม โดยบทวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำรวม 6 บริษัทหลักทรัพย์ ที่จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น IPO ของ POLY ให้มูลค่าพื้นฐานปี 2566 เฉลี่ยที่ 8.00-8.50 บ./หุ้น

โดยบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุ POLY เป็นหนึ่งในผู้ผลิตยางและพลาสติกชั้นนำของไทย โดยสินค้าของบริษัทมีทั้งยาง ซิลิโคน ผลิตภัณฑ์พลาสติก และการออกแบบแม่พิมพ์ ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และอุปโภคบริโภค โครงสร้างรายได้ของบริษัทในปี 2564 แบ่งเป็น ยานยนต์ (62%), อุปโภคบริโภค (25%) และ อุปกรณ์การแพทย์ (13%)

และคาดว่ากำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งถึง 30% CAGR ในอีก 2 ปีข้างหน้าเป็น 203 ล้านบาทในปี 2566 จาก 119 ล้านบาทในปี 2564 โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ ได้แก่ (1) รายได้รวมที่คาดเติบโต 28% CAGR ในอีกสองปีข้างหน้า เป็น 1.29 พันล้านบาทในปี 2566F จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของกลุ่มอุปโภคบริโภคและอุปกรณ์การแพทย์ และ (2) อัตรากำไรขั้นต้นที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวจากปี 2566 เป็นต้นไป จากการประหยัดต่อขนาด ผลกระทบที่ลดลงจากเงินเฟ้อ และสัดส่วนยอดขายที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มอุปโภคบริโภค และอุปกรณ์การแพทย์ ทั้งนี้ รายได้จากกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภค และอุปกรณ์การแพทย์ ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง

จากแนวโน้มการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicles หรือ BEVs) นักวิเคราะห์คาดว่า POLY จะไม่เผชิญกับความเสี่ยงมากนักเพราะสินค้าส่วนใหญ่ของบริษัทปรับใช้กับ EVs ได้ (อย่างเช่น Airbag Covers, และยางขอบประตู) นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ยังคาดว่าพอร์ตรายได้ของบริษัทจะสมดุลมากขึ้นด้วย โดยคาดว่าสัดส่วนรายได้จากกลุ่มยานยนต์จะลดลงจาก 70% ในปี 2562 เหลือ 50% ในปี 2566 รวมทั้ง งบดุลจะแข็งแกร่งขึ้นหลัง IPO

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๙ เม.ย. บิทูเมน มารีน บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
๑๙ เม.ย. รมว.เกษตรฯ ลุยร้อยเอ็ด ผลักดันโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 3 แห่ง
๑๙ เม.ย. กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น ยอดขายพุ่ง-หนี้ลด ดันกำไรปี 67 ออลไทม์ไฮ ดีล MA สร้าง New S-Curve
๑๙ เม.ย. ข้าวกล้อง-จักรีภัทร พร้อมเต็มร้อย! ประเดิม จูเนียร์จีพี สนามแรก ประเทศอิตาลี
๑๙ เม.ย. กรมประมงขอเชิญร่วมแข่งขันตกปลาชะโด
๑๙ เม.ย. เชลล์ดอน การ์ตูนดังร่วมสาดความสนุกในเทศกาลสงกรานต์
๑๙ เม.ย. สปสช. ติดปีกเทคโนโลยีไอทีด้วยคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ยกระดับบริการบัตรทองรวดเร็วทันสมัย ดูแลสุขภาพคนไทยยุคดิจิทัล
๑๙ เม.ย. GSK ร่วมงาน Re-imagining UK Aging Care Event ของสถานทูตอังกฤษ มุ่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันผู้สูงอายุ
๑๙ เม.ย. เอส เอฟ จับมือ กปน. มอบสิทธิ์ดูฟรีรวม 1,000 ที่นั่ง เพียงใช้ MWA Point ที่ เอส เอฟ!!
๑๙ เม.ย. เตรียมพร้อมนับถอยหลัง 12 ชั่วโมงสุดท้าย! ก่อนเริ่มประวัติศาสตร์ครั้งใหม่ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4