KJL โกยกำไรปี 65 พุ่งกระฉูด 39.97% ปรับราคา ยอดขายโต คุมต้นทุน ดันมาร์จิ้นเพิ่ม

ศุกร์ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๑๖:๐๘
'KJL' โกยกำไรสุทธิปี 65 ที่ 131.63 ลบ. เพิ่มขึ้น 39.97% หลังปรับราคาขึ้นตามต้นทุน ยอดขายเฮ้าส์แบรนด์KJL-MTO โต EEC หนุนดีมานด์พุ่ง พร้อมใช้ Industry 4.0 คุมต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ดันมาร์จิ้นเพิ่ม
KJL โกยกำไรปี 65 พุ่งกระฉูด 39.97% ปรับราคา ยอดขายโต คุมต้นทุน ดันมาร์จิ้นเพิ่ม

นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า ในปี 2565 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,026.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 180.73 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 21.38% จากปีก่อนหน้าที่มีรายได้รวม 845.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 131.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 39.97% จากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 94.04 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทฯจะจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.63 บาท และหุ้นปันผลในอัตรา 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล รวมจ่ายปันผลเป็นจำนวน 1.13 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นและสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันจันทร์ที่ 13 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายปันผลในวันอังคารที่ 25 เมษายน 2566

โดยที่รายได้ของบริษัทฯที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดขายสินค้ามาตรฐานเคเจแอล ประกอบไปด้วยตู้สวิทซ์บอร์ด รางเดินสายไฟ และกล่องพูลบ๊อกซ์ ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 171.10 ล้านบาท ตามการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจ และการขยายการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวเนื่องกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC รวมถึงรายได้จากการขายสินค้าสั่งผลิต หรือ MTO ที่เพิ่มขึ้นจำนวน 35.64 ล้านบาท และรายได้จากการขายเศษเหล็กที่เพิ่มขึ้นจำนวน 5.68 ล้านบาท ตามยอดขายสินค้ามาตรฐานเคเจแอลที่เพิ่มขึ้น

ในขณะที่กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากการที่บริษัทฯปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น ตามราคาต้นทุนวัตถุดิบหลักที่สูงขึ้น รวมถึงบริษัทฯมีการใช้เทคโนโลยีระบบควบคุมการผลิตแบบ Industry 4.0 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ได้แก่ เครื่องตัดเลเซอร์ เครื่องเจาะด้วยระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องพับ และหุ่นยนต์พับอัตโนมัติ เป็นต้น ทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับพนักงานฝ่ายผลิตลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นของบริษัทฯปรับสูงขึ้นเป็น 28.62% จากปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 25.46% และอัตรากำไรสุทธิของบริษัทฯปรับสูงขึ้นเป็น 12.83% จากปีก่อนหน้าที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 11.12%

"ในปี 65 ที่ผ่านมาผลประกอบการของเราเติบโตได้จากยอดขายสินค้ามาตรฐาน และสินค้าสั่งผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น ถือว่าเป็นกลุ่มสินค้าที่มีสัดส่วนสูงที่สุดของบริษัทฯ ซึ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นไปตามการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงการขยายการลงทุนใน EEC ของภาครัฐยังเป็นปัจจัยหนุนให้ความต้องการสินค้าของเราเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปีก่อนต่อเนื่องจนถึงปีนี้ และที่สำคัญเรายังใช้เทคโนโลยีมาใช้ในกระบวนการผลิต ทำให้สามารถควบคุมต้นทุน และเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในกระบวนการผลิตอีกด้วย" นายเกษมสันต์กล่าว

ที่มา: กลอรี่ แบรนดิ้ง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑ เม.ย. อ.อ.ป. ร่วม พิธีสรงน้ำพระ ขอพร เนื่องในวันสงกรานต์ประจำปี 2567 ทส.
๑๑ เม.ย. 1 จาก 1,159 ศูนย์การค้า เดอะ พาลาเดียม เวิลด์ ช้อปปิ้ง ส่งมอบลอตเตอรี่ที่ไม่ถูกรางวัล จำนวน 125,500 ใบ ให้กับศูนย์สาธารณสงเคราะห์เด็กพิเศษ วัดห้วยหมู
๑๑ เม.ย. JPARK ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ผถห. อนุมัติปันผล 0.0375 บาทต่อหุ้น
๑๑ เม.ย. สเก็ตเชอร์ส สนับสนุนเทคโนโลยีเพื่อความสบายแก่บุคลากรทางการแพทย์ บริจาครองเท้ารุ่น GOwalk 7(TM) สำหรับบุคลากรทางการแพทย์
๑๑ เม.ย. ศูนย์คนหายไทยพีบีเอส ร่วมกับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ทำงานเชิงป้องกัน เก็บก่อนหาย ในผู้สูงอายุ
๑๑ เม.ย. จุฬาฯ อันดับ 1 ของไทย การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดย QS WUR by Subject 2024
๑๑ เม.ย. ครั้งแรกในไทย 'Pet Us' เนรมิตพื้นที่จัดกิจกรรม มะหมามาหาสงกรานต์ ชวนน้องหมาทั่วทั้ง 4 ภาคร่วมสนุกในช่วงสงกรานต์ 13-14 เมษายน ตอกย้ำความสำเร็จฉลอง 'Pet Us' ครบ 3
๑๑ เม.ย. LINE STICKER OCHI MOVE จาก OCEAN LIFE ไทยสมุทร คว้ารางวัลชนะเลิศ Best Sponsored Stickers in Insurance ในงาน LINE THAILAND AWARDS
๑๑ เม.ย. วว. ผนึกกำลังหน่วยงานเครือข่าย พัฒนาเชื่อมโยงการค้า ตลาด วิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม สู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
๑๑ เม.ย. บริษัท เค วัน วัน ดี จำกัด ถือฤกษ์ดีจัดพิธีบวงสรวง ซีรี่ส์ Girl's Love เรื่องใหม่ Unlock Your Love : รักได้ไหม ?