นายอเล็กซ์ โลท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโครงข่ายโทรคมนาคมชั้นนำหรือ SYMC กล่าวว่า "ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ตอกย้ำถึงความก้าวหน้าของการดำเนินการตามกลยุทธ์ช่วงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังผ่านพ้นการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ปี 2563 โดยถือเป็นการฟื้นตัวครั้งใหญ่ของธุรกิจหลักของบริษัทฯ สืบเนื่องจากเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของภาคธุรกิจในประเทศ และการเติบโตด้านการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างประเทศ"
นายอเล็กซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 นี้ ถือเป็นผลการดำเนินงานที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงธุรกิจถดถอย ส่งผลให้มีการพลิกฟื้นธุรกิจครั้งใหญ่ (ระหว่างปี 2561-2562) และได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน โดยทางบริษัทฯ มีความคืบหน้าด้านการดำเนินงานที่ดี ตามเป้าหมายระยะยาวที่มุ่งสู่การเป็นผู้ให้บริการรับส่งข้อมูลผ่านโครงข่ายโทรคมนาคมพื้นฐานที่ดีที่สุดในประเทศและในระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง คณะกรรมการบริษัทฯ จึงได้เสนอการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2565 ในอัตราหุ้นละ 0.0935 บาท โดยจะเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี 2566 ที่จะจัดในวันที่ 11 เมษายน 2566
สำหรับในปี 2566 คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะเผชิญความท้าทายอย่างต่อเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ และค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งยังคงจะเป็นปัจจัยฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะฝ่าฟันอุปสรรคด้วยความรอบคอบผ่านการควบคุมค่าใช้จ่ายและพัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน ตลอดจนเน้นการลงทุนด้านบุคลากรและการพัฒนาขีดความสามารถของพนักงานเพื่อสร้างมูลค่าอันยั่งยืนในระยะยาว
"SYMC ยังคงสัดส่วนการลงทุนที่ 15-20% ของรายได้ในปีนี้ โดยเป็นการลงทุนด้านสินทรัพย์ระยะยาว หรือ Capex (Capital Expenditures) ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทางบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจสู่การเติบโตในด้านใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของทุกองค์กร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้าน เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ICT บริการระบบคลาวด์และการบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัย ตลอดจนการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาระบบเครือข่ายที่แข็งแกร่งและเป็นที่ไว้วางใจ รวมถึงมอบประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าและความเป็นเลิศในบริการด้านวงจรสื่อสาร" นายอเล็กซ์ กล่าว
ที่มา: เอ พับลิซิสท์