นาย โอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด เปิดเผยถึงงาน “Thailand Mobile Expo 2009 Showcase” ที่ผ่านมาว่า ทางบริษัทฯ ตั้งใจจัดงานนี้ขึ้นเพื่อเป็นเวทีกลางให้เจ้าของแบรนด์และผู้ผลิตสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และยังเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปี ตั้งแต่ต้นปี 2552 ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งปัญหาภาวะการเมือง เศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ อันเนื่องมาจากเศรฐกิจที่ยังคงชะลอตัวอยู่ อีกทั้งยังอยู่ในช่วงของการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ล้วนส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการใช้จ่าย ซึ่งทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลง ดังนั้น บริษัทจึงทำการจัดงาน ครั้งนี้เพื่อเป็นเวทีกลางให้เจ้าของแบรนด์ และผู้ผลิตสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้โดยตรง และยังเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายของปีอีกเช่นกัน
ทั้งนี้ จากความสำเร็จในงาน “Thailand Mobile Expo 2009 Showcase” ครั้งนี้ ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก เพราะตลอด 4 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าชมงานถึง 7 แสนคน และมียอดเงินสะพัด 1,200 ล้านบาท นับว่าเป็นการปิดท้ายยอดขายในปลายปีอย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นตลาด ทั้งในด้านการซื้อขายและเป็นการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร นวัตกรรม เทคโนโลยีใหม่ๆ ต่อผู้ใช้งานจริง ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชลอตัวในภาวะปัจจุบัน
นาย โอภาส กล่าวต่อว่า ตลอดการจัดงานที่ผ่านมาครั้งนี้ ได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้เข้าชมงานอายุ 25-35 ปี กว่า 40% ของผู้เข้าชมงานทั้งหมด โดยเฉพาะเพศชาย เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยีมากที่สุด รองลงมาคือกลุ่มผู้เข้าชมงานอายุ 18-25 ปี กว่า 32% ส่วนในเรื่องของระดับราคาของการเลือกซื้อสินค้านั้น พบว่า มีแนวโน้มการซื้อสินค้าในระดับราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องอยู่ในกลุ่มโทรศัพท์จำพวก BlackBerry, iPhone 3GS และ Windows Phone รวมถึงสินค้าในระดับราคา 8,000-12,000 บาท ที่จากเดิมจะเลือกซื้อสินค้าในระดับราคาต่ำกว่า 5,000 บาท ส่งผลทำให้สินค้าเฮ้าส์แบรนด์ยอดจำหน่ายลดลงประมาณ 10%จากครั้งที่แล้ว ส่วนอินเตอร์แบรนด์ยอดจำหน่ายเครื่องลดลงประมาณ 3% แต่เนื่องจากเครื่องกลุ่มไฮเอนด์ที่กล่าวข้างต้น ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในครั้งนี้ ระดับราคาส่วนใหญ่อยู่ที่ 21,000- 27,000 บาท ส่งผลให้ยอดเงินสะพัดภายในงาน ไม่ได้ลงลงจากครั้งก่อนมากนัก ประกอบกับลักษณะการซื้อที่มุ่งเน้นไปทางแบรนด์ใหญ่เป็นหลัก โดยปัจจัยเรื่องราคาไม่ได้เป็นตัวแปรในการซื้อมากนัก แสดงให้เห็นกว่าเศรษฐกิจโดยรวมมีแนวโน้มดีขึ้น ส่งผลให้กำลังซื้อกลับมาอีกครั้ง
ภายในงาน ได้รับความร่วมมือจากกลุ่มพันธมิตรโทรศัพท์มือถือกว่า 30 แบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากมาย รวมถึงการเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ล่าสุด 4 แบรนด์กว่า 10 รุ่น ได้แก่
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด นำโทรศัพท์มือถือโชว์ในงาน ภายใต้คอนเซ็ปท์ Joy Together พร้อมจัดแคมเปญให้ลูกค้า พร้อมมอบความสนุกและเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับโทรศัพท์มือถือแอลจีอย่างใกล้ชิดในบรรยากาศที่มีสีสันสดใส โดยรุ่นที่เป็นไฮไลท์และจะนำมาเปิดตัวกับผู้บริโภคอย่างเป็นทางการพร้อมกันในงานนี้ ได้แก่ “LG GM730 อีซี่สมาร์ทโฟน” ที่มาในคอนเซ็ปท์ “ง่าย…สนุกทุกฟังก์ชั่น” สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ทุกฟังก์ชั่นการใช้งานง่ายต่อการเข้าถึงด้วยเทคโนโลยี S Class User Interface ลิขสิทธิ์เฉพาะของแอลจี ที่ผสานกันอย่างลงตัวกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โมบายล์เวอร์ชั่นล่าสุด, “LG GT505” โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสที่โดดเด่นด้วย WisePilot Navigation ด้วยการติดตั้งเครื่องรับสัญญาณ GPS ไว้ในตัวเครื่อง ทำให้สามารถรองรับระบบนำทางด้วยเสียงผ่านดาวเทียม GPS (in-car GPS navigation) และแสดงผลผ่านหน้าจอระบบสัมผัสความละเอียดระดับ WQVGA (400 x 240 pixels) ขนาด 3 นิ้ว และอีกหนึ่งคุณสมบัติพิเศษ คือ การรองรับอินเทอร์เน็ตแบบ Wi-Fi และเครือข่าย 3G, “LG Viewty Smart” หรือ LG GC900 โทรศัพท์มือถือติดกล้องที่มีความละเอียดสูงถึง 8 ล้านพิกเซล พร้อมระบบสัมผัสแบบ 3D S Class User Interface และ Intelligent Shot Mode, สุดท้าย “LG Crystal” หรือ LG GD900 โทรศัพท์มือถือดีไซน์โปร่งแสงเครื่องแรกของโลก ทั้งยังโดดเด่นในเรื่องการถ่ายรูปเช่นเดียวกับ LG Viewty Smart
บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ “ซัมซุง แคนดี้ (Samsung Candy)” โดนใจวัยรุ่นด้วยดีไซน์สีสันแบบลูกกวาดสดใสที่มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ เหลืองสดใส ส้มจี๊ดจ๊าด ชมพูโรแมนติก และสีขาวเรียบหรู ในสไตล์โค้งมนที่แตกต่าง เส้นลายด้านข้างมีลูกเล่นแนวโค้งตัดกับตัวฝาหลังที่สามารถถอดเปลี่ยนลายได้ตามใจชอบ มาพร้อมฟังก์ชันการทำงานที่รองรับการใช้ชีวิตออนไลน์ง่ายดายยิ่งขึ้นด้วย SNS Widgets ที่ตั้งอัพเดตอัตโนมัติให้ติดตามทุกการเคลื่อนไหวของเพื่อนๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัดไม่ว่าจะเป็นFacebook, MySpace และ Twitter ตอบรับสไตล์การใช้งานสุดคูลของวัยทีนด้วยระบบสัมผัสเต็มรูปแบบ กล้องดิจิตอล 2 ล้านพิกเซลและฟังก์ชัน One Finger Zoom ช่วยให้การซูมภาพง่ายเพียงปลายนิ้วเดียว อีกทั้งเทคโนโลยี Smart Unlock ที่ใช้เพียงปลายนิ้วเขียนตัวอักษรบนจอก็สามารถปลดล็อคการใช้งานหรือสั่งงานโทรออก ได้ทันที วางจำหน่ายในราคา 5,990 บาท
บริษัท โซนี่ อีริคสัน โมบายล์ คอมมูนิเคชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวโทรศัพท์มือถือโซนี่ อีริคสัน 3 รุ่นใหม่ ได้แก่ SATIO, AINO และ YARI ภายใต้คอนเซ็ปต์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ อันลิมิเต็ด (ENTERTAINMENT UNLIMITED) นำเสนอความบันเทิงแบบไม่มีขีดจำกัด โดยโซนี่ อีริคสัน “รุ่นซาติโอ” (Satio) โทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสสุดหรู เครื่องแรกของโซนี่ อีริคสัน ที่รวมสุดยอดเทคโนโลยีความบันเทิงมาไว้ด้วยกัน พร้อมกับหน้าจอขนาด 3.5 นิ้ว ให้ความละเอียดสีถึง 16 ล้านสี กล้องดิจิตอลความละเอียดสูงถึง 12.1 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช Xenon รองรับเครือข่าย 3G พร้อมด้วย GPS ในตัวเครื่อง และเพิ่มเมมโมรี่ภายนอกแบบ microSD? ได้ถึง 32GB จำหน่ายในราคา 24,990 บาท, “รุ่นไอโน” (AINO) โทรศัพท์มือถือสไลด์โฟน หน้าจอกึ่งสัมผัสแบบ Semi — Touch สามารถใช้ระบบสัมผัสในโหมดมัลติมีเดีย เพื่อใช้ในการฟังเพลง, ดูวีดีโอและภาพถ่าย จุดเด่นอยู่ที่การสั่งงาน และควบคุม PS3 ได้จากโทรศัพท์มือถือ สามารถใช้งานรีโมท เพลย์ ผ่าน PLAYSTATION ? 3 ทำให้สามารถเข้าถึงความบันเทิงในโลกของไซเบอร์ได้ทุกที่ ทุกแห่ง และทุกเวลาทั่วโลก รองรับการเชื่อมต่อทุกรูปแบบ กล้องดิจิตอล 8.1 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช จำหน่ายในราคา 16,000 บาท และ“รุ่นยาริ” (YARI) เป็นมือถือที่มีระบบเกมส์แบบ GESTURE GAMING ซึ่งโดยปกติจะวางขายเฉพาะตลาดในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น นี่จึงเป็นครั้งแรกที่ลูกค้าเอเชีย แปซิฟิก จะได้สัมผัสความบันเทิงและความสนุกสนานจากการเล่นเกมส์ที่เสมือนจริง โดยใช้เซ็นเซอร์ที่ใช้จับการเคลื่อนไหวของร่างกายเกมส์ (ระบบ Gesture และ Motion Gaming) มาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล หน่วยความจำในตัวเครื่อง 60MB รองรับหน่วยความจำภายนอกแบบ microSD? จำหน่ายในราคา 11,990 บาท
บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ 6 รุ่นล่าสุด ในสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มฟังก์ชั่นล้ำสมัยตอบสนองไลฟ์สไตล์ ได้แก่ i-mobile TV 650 Touch & Move, i-mobile TV 658 Touch & Move และ i-mobile TV 640 QWERTYโดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นทัชสกรีน สองซิม ดูทีวีฟรี คีย์บอร์ด QWERTY และรองรับการใช้งาน i-mail เพื่อรับ-ส่งเมลผ่านโทรศัพท์มือถือในรูปแบบ Push mail รวมทั้งกลุ่มฮิตส์ซีรีส์ที่ฟังก์ชั่นครบ ในราคาสุดคุ้ม ได้แก่ i-mobile Hitz 210, i-mobile Hitz 212 และ i-mobile Hitz 204 มั่นใจได้กับการรับประกันเครื่อง 2 ปี ฟรีค่าอะไหล่ และค่าบริการ ผ่านศูนย์บริการมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ โดย ไอ-โมบาย วางแผนใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ และตอกย้ำประสิทธิภาพที่เหนือกว่ากับแคมเปญ “ครบจริง ได้ใจ ต้อง ไอ-โมบาย เท่านั้น”
ตลอดทั้ง 4 วัน มีกิจกรรมน่าสนใจมากมายโดยได้รับเกียรติ์ จากศิลปิน นักร้อง นักแสดง มาร่วมกันให้ความสนุกสนาน ความบันเทิง อาทิ การเปิดตัว “น้องแพนเค้ก”พรีเซนเตอร์สาวสวย จาก ซัมซุงแคนดี้ ,Boy Band วง C-Quint จากทางบูธโนเกีย ตามด้วย มินิคอนเสิร์ตจาก nice2meet U, Tatoo colour , น้องๆจาก The Trainer และสาวๆจาก Miss Teen Thailand จากบูธไอโมบาย อีกทั้ง แอนดี้ เข็มพิมุก, มด ทรีจี และน้องเบเบ้ จากบูธเอ็มเอ็กซ์เนค รวมถึงการโชว์พลังเสียงของ ว่าน AF2 จากบูธไอโนว่า ปิดท้ายด้วย ดีเจกฤษณ์ มดดำ จากรายการแฉแต่เช้า จากบูธเอไอเอส ซึ่งมาแฉเรื่องลับๆของดาราในบรรยากาศสดๆ สร้างความบันเทิงและเสียงหัวเราะให้กับผู้เยี่ยมชมงาน
สำหรับการจัดงานครั้งนี้ ทางคณะผู้จัดงานได้รับความร่วมมือจากกลุ่มพันธมิตรโทรศัพท์มือถือกว่า 30 แบรนด์ชั้นนำเข้าร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้า โดยแต่ละแบรนด์ นอกจากจะอาศัยเวทีนี้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่แล้ว ต่างงัดกลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย ไม่ว่าจะเป็น ลด แลก แจก แถม รวมถึง การให้บริการสินเชื่อโดยคิดดอกเบี้ย 0% จากบัตรเครดิตต่างๆมากมาย ซึ่งโปรโมชั่นทั้งหมดได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานอย่างล้นหลาม “ นายโอภาส กล่าวปิดท้าย
แล้วพบกันใหม่งาน “Thailand Mobile Expo 2010” ครั้งที่ 7 มหกรรมโทรศัพท์มือถือครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4-7 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. เป็นต้นไป
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด
เกษฎา วีระตระกูล (เกษ)
โทร.02-734-7707-9