เชฟโรเลต ครูซ 2012 ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดีเซลเทอร์โบบล็อกใหม่ ความจุ 2.0 ลิตร DOHC แรงขึ้นด้วยตัวเลขพละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 360 นิวตันเมตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยมาตรฐานมลพิษไอเสียยูโร 4
เครื่องยนต์บล็อกใหม่ของครูซ 2012 ได้รับการพัฒนาหลายจุด ทั้งความดันคอมมอนเรล 180 บาร์ การลดอัตราส่วนกำลังอัด การปรับปรุงหัวเผาใหม่ ปรับแต่งพอร์ทฝาสูบเพื่อเพิ่มความไหลลื่นของอากาศเข้าเครื่องยนต์ นอกจากเพิ่มอัตราเร่งและความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงให้ดียิ่งขึ้นแล้ว เครื่องยนต์ของเชฟโรเลต ครูซ 2012 ยังได้รับปรับแต่งเพลาถ่วงสมดุล เพื่อลดเสียงรบกวนและลดอาการสั่น เพิ่มความนุ่มนวลขณะขับขี่ได้มากกว่าเดิม
นับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยที่ขุมพลังดีเซลผ่านมาตรฐานมลพิษไอเสีย ยูโร 4 พร้อมติดตั้งตัวกรองอนุภาคน้ำมันดีเซล (Diesel Particulate Filter) ที่ช่วยกรองฝุ่นเขม่าที่เป็นอันตรายออกจากก๊าซไอเสีย
“การแนะนำเชฟโรเลต ครูซ เป็นความมุ่งมั่นของเราในการนำเสนอยานยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยลูกค้าสามารถเชื่อมั่นได้ว่า เชฟโรเลต ครูซ 2012 ที่จะออกจำหน่ายนับจากนี้เป็นต้นไปจะมีสมรรถนะที่ขับสนุก และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม” มร.อันโตนิโอ ซาร่า รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการหลังการขาย ประจำประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว
มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าวเพิ่มเติมว่า “เชฟโรเลต ครูซ 2012 มีพละกำลังทั้งแรงม้าและแรงบิดเพิ่มขึ้นราว 10 เปอร์เซ็นต์ ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีดพร้อม DSC และช่วงล่างยูโรไรด์ ตอบสนองทุกการขับขี่ทั้งในเมือง และถนนทางไกล”
ถึงแม้เชฟโรเลต ครูซ 2012 จะสามารถใช้เชื้อเพลิงดีเซลยูโร 4 เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แต่กับครูซ ขุมพลังดีเซลรุ่นก่อนหน้าก็สามารถเติมน้ำมันเชื้อเพลิงดีเซลยูโร 4 ได้เช่นเดียวกัน
สำหรับเชฟโรเลต ครูซ เบนซิน 1.8 ลิตร มาพร้อมเครื่องยนต์ที่รองรับเชื้อเพลิง E20 ซึ่งประหยัดมากขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่าเดิม
นอกจากขุมพลังบล็อกใหม่แล้ว เชฟโรเลต ครูซ รุ่นปี 2012 ยังเสริมความโดดเด่น ด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกและความบันเทิงเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า (EPS) และระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์บลูทูธแฮนด์ฟรี ซึ่งมีอยู่ในรถทุกรุ่นย่อย
ระบบพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้า ไม่เพียงช่วยให้การขับขี่ในเมืองทำได้อย่างง่ายดายยิ่งขึ้น แต่ยังช่วยลดการทำงานของเครื่องยนต์ เนื่องจากไม่ต้องทำงานร่วมกับปั๊มไฮโดรลิกเหมือนระบบบังคับเลี้ยวแบบเดิม ส่งผลต่ออัตราบริโภคน้ำมันที่ประหยัดมากกว่า
“เชฟโรเลต ครูซ ประสบความสำเร็จนับตั้งแต่เปิดตัว และยังได้รับเสียงตอบรับที่ดีต่อเนื่อง สำหรับครูซ รุ่นปี 2012 สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของเชฟโรเลต ที่ต้องการนำเสนอรถที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะ ประหยัด และใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อความประทับใจสูงสุดของลูกค้าทุกคน” มร.อันโตนิโอ ซาร่า กล่าว
เชฟโรเลต ครูซ ดีเซล ยูโร 4 และเบนซิน E20 เติบเต็มไลน์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถัดจากเชฟโรเลต แคปติวา E85 โคโลราโดและเทรลเบลเซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังดูราแม็กซ์ รองรับเชื้อเพลิงดีเซล B5 รวมถึงอาวีโอ CNG
ขณะที่รูปลักษณ์ภายนอกของเชฟโรเลต ครูซ รุ่นปี 2012 โดดเด่นด้วยเฉดสีตัวถังภายนอกแบบใหม่อีกด้วย ทั้งสีบรอนซ์ Switchblade Silver สีแดง Sizzle Red และสีขาว Summit White เริ่มต้นในรุ่น 1.8LS ที่ราคา 895,000 บาท และรุ่นท็อปไลน์ ดีเซล 1,248,000 บาท