หลังจากต่อสู้กับการอดนอน ความหิวโหย และสภาพอากาศที่รุนแรงเป็นเวลาถึง 4 วัน มอคห์ทาร์รู้สึกตื้นตันกับชัยชนะอย่างเห็นได้ชัด เธอกล่าวว่า "การแข่งขันในปีนี้ยากมากๆสำหรับดิฉัน เพราะว่าดิฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย และสภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้ก็คือบททดสอบที่ท้าทายจริงๆ แต่ดิฉันเชื่อเสมอว่าถ้าเราตั้งใจจริงกับการไปให้ถึงความฝัน ก็ไม่มีที่ว่างสำหรับข้อแก้ตัว หลังจากที่เข้าร่วมการแข่งขันมาเป็นเวลา 12 ปี และได้รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ถึง 2 ครั้ง ค่ำคืนนี้ดิฉันก็คว้ารางวัลที่ 1 มาได้แล้วจริงๆ มันก็เป็นช่วงเวลาที่ค่อนข้างหวานอมขมกลืนเหมือนกันค่ะ เพราะว่าดิฉันคงจะคิดถึงการแข่งขันนี้มากๆ"
เราได้เห็นการขับเคี่ยวระหว่างมอคห์ทาร์ และรองชนะเลิศอันดับ 1 คุณไพทูน สงวนนาม อายุ 33 ปี จากประเทศไทยที่ยกธงขาว ณ เวลารวม 75 ชั่วโมงและ 17 นาที ห่างจากเวลาของอนาลิซาเพียง 58 วินาทีเท่านั้น ส่วนรองชนะเลิศอันดับ 2 คือคุณมัซลินาห์ อาห์มัด (Mazlinah Ahmad) อายุ 53 ปี จากสิงคโปร์ ที่ทำเวลาไป 74 ชั่วโมงและ 35 นาที
คุณไพทูน สงวนนาม กลับบ้านพร้อมกับรางวัลเงินสดมูลค่ารวม 12,300 เหรียญสิงคโปร์ ซึ่งมาจากรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 มูลค่า 5,000 เหรียญสิงคโปร์ รางวัลผู้ชนะระดับทวีปเอเชีย (ผู้เข้าแข่งขันระดับภูมิภาคที่ยืนหยัดอยู่เป็นคนสุดท้าย) มูลค่า 5,000 เหรียญสิงคโปร์ รางวัลผู้ชนะระดับประเทศ (ผู้เข้าแข่งขันที่ยืนหยัดอยู่เป็นคนสุดท้ายของประเทศ) มูลค่า 1,000 เหรียญสิงคโปร์ และอีก 1,000 เหรียญสิงคโปร์ ซึ่งเป็นส่วนแบ่งที่ได้รับจากรางวัล Country Team Winner หรือรางวัลทีมชนะเลิศระดับประเทศ นอกจากนี้เขายังได้รับเงินเพิ่มอีก 100 เหรียญสิงคโปร์ หลังจากที่ทำเวลาครบ 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง
ทีมไทยได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศและได้รับเงินรางวัล 10,000 เหรียญสิงคโปร์ ซึ่งถูกแบ่งออกอย่างเท่าๆกันให้กับสมาชิก 10 คนในทีม ซึ่งเวลารวมของผู้แข่งขันทั้ง 10 คนนี้ คือ 475 ชั่วโมงและ 15 นาที ถือว่าเป็นเวลาที่ยาวนานที่สุด และเพื่อแสดงความชื่นชมในความพยายามของผู้เข้าแข่งขันระดับภูมิภาคคนอื่นๆ ตัวแทนผู้เข้าแข่งขันที่ได้รับการแต่งตั้งจากประเทศในภูมิภาคที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายจะยังได้รับรางวัลผู้ชนะระดับประเทศ (Country Winner) และรางวัลเงินสดมูลค่า 1,000 เหรียญสิงคโปร์อีกด้วย (โปรดดูภาคผนวก ก สำหรับรายชื่อผู้ชนะระดับประเทศ)
มร. เกลน ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (Tan Chong International Limited) และ มร. วินเซ็นต์ โกอิ หัวหน้าฝ่ายการตลาดระดับภูมิภาคของ จากบริษัทมอเตอร์ อิมเมจ เอ็นเทอร์ไพรส์ (Motor Image Enterprises) พร้อมด้วยคุณไอรีณ ลิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้า จากบริษัทมีเดีย คอร์ป (Mediacorp) เป็นผู้มอบรางวัลแก่ผู้ชนะ
"ในปีนี้ การแข่งขัน Subaru Car Challenge ได้ต้อนรับผู้เข้าแข่งขันทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับภูมิภาค ซึ่งต่างก็แข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยแต่ละคนแสดงถึงความแข็งแกร่งภายใต้สภาพอากาศที่คาดเดาไม่ได้" มร. เกลน ตัน รองประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าว "อนาลิซากล่าวกับผมว่าเธอต้องการเป็นแรงบันดาลใจให้กับลูกสาวของเธอ ให้ลูกสาวได้เห็นว่าเราต้องไม่ยอมแพ้ไม่ว่าจะเกิดอะไร ถ้าเรามีความมุ่งมั่นที่เต็มเปี่ยม ก็ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ และเราจะประสบความสำเร็จไม่ว่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายใดๆก็ตาม ชัยชนะของอนาลิซาสร้างแรงบันดาลใจให้ผมอย่างมาก ซึ่งทำให้ผมรู้สึกยินดีกับเธอด้วยจริงๆที่ในท้ายที่สุดเธอก็ได้รับชัยชนะหลังจากเข้าแข่งขันมาถึง 12 ครั้ง"
"เราไม่สามารถคาดเดาอะไรในการแข่งขัน MediaCorp Subaru Car Challenge ได้เลย แต่ปีนี้เราเจอกับฝนที่ตกอย่างต่อเนื่อง และ 2 ใน 3 ของผู้เข้าแข่งขันที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายคือผู้หญิง และผู้ชนะเลิศในท้ายที่สุดก็เป็นผู้ชนะหญิง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและจิตวิญญาณของผู้ไม่แพ้" คุณไอรีน ลิม ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายลูกค้าของบริษัท มีเดีย คอร์ป กล่าว "ขอแสดงความยินดีกับอนาลิซากับชัยชนะที่ได้มาอย่างไม่ง่ายเลย ต้องใช้เวลาถึง 12 ปีกว่าจะมาถึงจุดนี้! เราหวังว่าเธอจะมีความสุขกับรถคันใหม่ของเธอ และในขณะเดียวกัน ดิฉันก็อยากจะขอบคุณผู้เข้าแข่งขันทุกท่าน พนักงานทุกคนที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย พาร์ทเนอร์ของเราและแน่นอนพรีเซ็นเตอร์ของเรา ซูบารุค่ะ"
สภาพอากาศที่ไม่สามารถคาดเดาได้ตลอดช่วง 4 วันที่ผ่านมา รวมถึงพายุฝนฟ้าคะนองอย่างหนักหลายลูก ซึ่งทำให้ต้องชะลอการแข่งขันในบางช่วง ถือเป็นบททดสอบความอดทน และขีดจำกัดของผู้เข้าแข่งขันทุกคนอย่างแท้จริง แต่ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก ผู้คนที่มาให้กำลังใจก็ยังคงยืนหยัดมั่นคงตลอดการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นสมาชิกครอบครัวและเพื่อนฝูงที่คอยยืนอยู่ข้างๆ หลายๆคนก็ช่วยผู้เข้าแข่งขันผ่านการเล่นเกมออนไลน์ ซึ่งหากชนะจะสามารถเลือกผู้เข้าแข่งขันและช่วยให้ได้รับเวลาพักเพิ่ม 5 นาที นอกจากเวลาพักตามปกติทุกหกชั่วโมง
เกี่ยวกับ มีเดีย คอร์ป (Media Corp)
มีเดีย คอร์ป คือผู้สร้างเนื้อหาและแพลตฟอร์มการสื่อสารข้ามสื่อ (transmedia) ที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ บริหารสถานีโทรทัศน์ 7 ช่อง สถานีวิทยุ 11 สถานี และแพลตฟอร์มดิจิทัลมากมาย รวมทั้งช่องข่าว Channel NewsAsia (CNA) ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นข่าวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในสิงคโปร์ และ Toggle ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสำหรับวิดีโอดิจิตอล พันธกิจขององค์กรคือการสร้างการมีส่วนร่วม ความบันเทิง และเปิดโลกทัศน์ให้ผู้ชมด้วยการใช้พลังแห่งความคิดสร้างสรรค์
มีเดีย คอร์ป คือผู้บุกเบิกการพัฒนาอุตสาหกรรมกระจายเสียงของสิงคโปร์ โดยเริ่มออกอากาศวิทยุใน พ.ศ. 2479 และออกอากาศทางโทรทัศน์ในปี พ.ศ. 2506 ปัจจุบันสื่อจากมีเดีย คอร์ป สามารถเข้าถึงชาวสิงคโปร์ได้ 99% และสื่อสารด้วย 4ภาษา และยังมีฐานผู้ชมที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆในเอเชียที่รับชมสื่อจากช่อง CNA และเนื้อหาด้านบันเทิงที่เผยแพร่ไปยังตลาดของประเทศต่างๆในภูมิภาค
การลงทุนของมีเดีย คอร์ป ประกอบด้วยการถือหุ้นในบริษัท Reebonz ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ค้าปลีกสินค้าหรูหราออนไลน์ที่เติบโตเร็วที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาค และบริษัท International Media Corporation ในประเทศเวียดนาม เครือข่ายพาร์ทเนอร์ของมีเดีย คอร์ป (MediaCorp Partner Network) ช่วยให้มีเดีย คอร์ป ได้ทำงานร่วมกับแบรนด์ชั้นนำมากมายในอุตสาหกรรม เช่น ESPN และ 99.co เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่หลากหลายสำหรับผู้ชม และโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพสำหรับผู้ลงโฆษณา
มีเดีย คอร์ป ได้รับรางวัลผู้แพร่ภาพกระจายเสียงภาคพื้นดินแห่งปี เป็นครั้งที่ 14 (Terrestrial Broadcaster of the Year)ในงาน Asian Television Awards ในปี พ.ศ. 2560
เกี่ยวกับ มอเตอร์ อิมเมจ (Motor Image)
มอเตอร์ อิมเมจ เป็น บริษัท ในเครือของ TCIL และผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ Subaru ใน 9 ประเทศของเอเชีย บริษัทก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2529 และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ จากนั้นบริษัทได้เปิดสำนักงานในประเทศกัมพูชา จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม กลยุทธ์การเติบโตของมอเตอร์ อิมเมจได้ระบุว่าอาเซียนเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตของบริษัทในอนาคต และในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 บริษัทได้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับบริษัท ซูบารุ คอร์ปอเรชั่น (เดิมชื่อ บริษัท ฟูจิ เฮฟวี่ อินดัสตรีส์ จำกัด ) เพื่อผลิตรถยนต์ซูบารุที่โรงงานประกอบรถยนต์ CKD ในประเทศมาเลเซีย และเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 บริษัท ซูบารุ คอร์ปอเรชั่น และ บริษัทผลิตและประกอบรถนต์ ที.ซี.(ประเทศไทย) จำกัด (หรื TCMA TH) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ TCIL ได้ร่วมทำสัญญาร่วมทุน (Joint Venture) เพื่อประกอบรถยนต์ซูบารุในเมืองไทย และเสริมสร้างรากฐานทางธุรกิจที่มีอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รถยนต์ที่ผลิตในมาเลเซียและไทยจะจัดถูกจำหน่ายโดยมอเตอร์ อิมเมจ ผ่านเครือข่ายของซูบารุ www.subaru.asia
เกี่ยวกับซุบารุ (Subaru)
บริษัทซูบารุก่อตั้งขึ้นในประเทศญี่ปุ่นใน พ.ศ. 2498 และได้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลก ในปี พ.ศ. 2515 ซูบารุกลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่เปิดตลาดรถยนต์โดยสารแบบขับเคลื่อนทุกล้อ (All-Wheel Drive) และเป็นผู้บุกเบิกตลาดในญี่ปุ่นสำหรับรถ station wagon สมรรถนะสูง โดยผสมสานเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ เข้ากับระบบ All-Wheel Drive ซูบารุได้พัฒนาและปรับปรุงระบบขัยเคลื่อนทุกล้อ เพื่อสร้างระบบขับเคลื่อนทุกล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ที่ช่วยสร้างความเพลิดเพลินและความปลอดภัยสูงสุดในการขับขี่
ซูบารุเป็นที่ยอมรับในแวดวงองค์กรยานยนต์ทั่วโลก ในด้านของวิศวกรรม การออกแบบ การทำงาน ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือ รถยนต์ของซูบารุประกอบด้วย BRZ, Forester, Impreza, Legacy, Levorg, Outback, WRX, WRX STI และ XV ซึ่งทุกรุ่นได้รับการขนานนามว่าเป็น "รถยนต์เพื่อผู้ใช้รถ" อย่างแท้จริงที่มอบการควบคุมรถอย่างยอดเยี่ยมให้ผู้ขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีหลักเช่น Symmetrical All-Wheel Drive และ Subaru Boxer engine ที่มีอยู่ในทุกรุ่น www.subaru-global.com