สำหรับการกระทำดังกล่าว เป็นความผิดฐาน มี ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 ใช้ ซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 6 และตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต ตามมาตรา 11 ซึ่งมีโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งปรับละจำ ตามมาตรา 23 แห่งพระราชบัญญัติวิทยุคมนาคม พ.ศ. 2498 และยังเป็นความผิดฐานใช้คลื่นความถี่สำหรับการประกอบกิจการกระจายเสียง หรือประกอบกิจการกระจายเสียง โดยไม่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งมีโทษปรับไม่เกิน 5 ล้านบาท จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือทั้งจำและปรับ และปรับวันละไม่เกิน 50,000 บาท ตลอดระยะเวลาทีฝ่าฝืน ตามมาตรา 66 แห่งพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 อีกด้วย
นายฐากร กล่าวว่า นอกจากการดำเนินคดีกับสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ที่เข้าข่ายกระทำความผิดฐานต่างๆ แล้ว กสทช. พยายามให้สถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์ที่ดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต เข้าสู่ระบบ โดยให้ยื่นขอทดลองประกอบกิจการกับ กสทช. ซึ่งปัจจุบันคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) มีมติเห็นชอบคำขอทดลองประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงไปแล้วรวมทั้งสิ้นแล้ว 2,844 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2556)