เรื่องการผลักดันเศรษฐกิจดิจิตอล หรือ Digital Economy ของรัฐบาล จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ ทั้งยังเป็นความท้าทายครั้งสำคัญที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้กับเศรษฐกิจไทยได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจไทยที่เคยมีข้อจำกัดด้านการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้พัฒนาองค์กร ให้สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
ด้านภาคเอกชนอย่างบริษัท Bookdose จำกัด ผู้พัฒนาระบบ Paperless สำหรับองค์กร จึงได้เตรียมความพร้อมเพื่อสานต่อนโยบาย Digital Economy โดยได้พัฒนาระบบ E-Library ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางข้อมูลให้กับองค์กรและผู้ประกอบการต่างๆ คุณกิตติพจน์ ประวาลปัทม์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการ (Chief Operating Officer: COO) อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า
“ สำหรับ Bookdose ที่ผ่านมาเราพัฒนาระบบ E-library ให้สามารถรองรับได้ทั้งไฟล์ PDF ไฟล์สแกน คลิปวิดีโอ ไฟล์งานอย่างเช่น Word Excel Power Point ดังนั้น E-Library ของเราจะกลายมาเป็นคลังเก็บข้อมูล และเป็นศูนย์รวมข่าวสารองค์กร ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากต้นทุนในการติดตั้งระบบ E-Library ของ Bookdose ค่อนข้างต่ำหากเปรียบเทียบกับเจ้าอื่นๆ ที่มีอยู่ในท้องตลาด อีกทั้งยังมีระบบที่เป็นมาตรฐาน สามารถเข้าถึงได้ทุกระดับองค์กรทั้งส่วนของสำนักงานและภาคการผลิต”
ทั้งนี้อีกหนึ่งผู้บริหารบริษัท Bookdose จำกัด คุณนิรัตน์ คมขำ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยี (Chief Technology Officer: CTO) ก็ได้กล่าวถึงทิศทางการพัฒนา E-Library ที่จะช่วยส่งเสริม Digital Economy ว่า “ขณะนี้เราได้ทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อยอดจากระบบ E-Library เดิมที่มีใช้งานในองค์กรชั้นนำหลายที่แล้ว Product ใหม่คือระบบ Digital Knowledge Center (DKC) ที่มีทั้งโมดูลของ E-Library , E-Community , Knowledge Sharing และ E-Document รวมอยู่ด้วยกัน สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานทั้งในแง่การลดต้นทุน การส่งต่อข่าวสารที่รวดเร็วมีประสิทธิภาพ และใช้งานง่าย นอกจากนี้พนักงานในองค์กร ก็สามารถเข้ามาใช้ค้นหาข้อมูลความรู้ ข่าวสารองค์กรและอ่านดิจิตอลแมกกาซีนที่ตัวเองชอบได้ด้วย
ความมุ่งหวังต่อ DKC คือจะต้องตอบโจทย์ผู้ใช้งานดังนี้
1. ลดต้นทุน ค่าเอกสาร ค่าจัดพิมพ์และเครื่องพิมพ์ ลดคน และพื้นที่จัดเก็บ
2. เผยแพร่ได้อย่างรวมเร็ว ส่งถึงคนกลุ่มใหญ่ได้ทันที สืบค้นเข้าถึงได้จากทุกมุมทั่วโลก
3. มีประสิทธิภาพ ความผิดพลาดต่ำต่างจากคน เอกสารไม่มีสูญหาย และตรวจสอบง่าย
ผมยกตัวย่าง ลูกค้ารายหนึ่งที่ประยุกต์ระบบของเราไปใช้งาน ในการประชุมขององค์กร ใช้ระบบของเราสร้างระบบ Digital Calendar แจ้งกำหนดการให้ผู้เข้าร่วมประชุมแบบอัตโนมัติทาง E-Mail และ Push Message บนมือถือ มีการแปลงเอกสารประกอบการประชุมเป็น E-book แนบไปกับวาระการประชุม ทำให้ไม่ต้องหอบเอกสารเป็นจำนวนมากและตัดปัญหาเอกสารสูญหาย
อีกตัวอย่าง ลูกค้าพบปัญหาคือมีคนใช้ระบบสารสนเทศภายในองค์กรน้อย จึงได้นำระบบของเราไปใช้ บน Smart Phone มีระบบสร้างข่าวบริษัท สามารถส่งคำเชิญกิจกรรมผ่านหน้า Wall ของแต่ละคนเพื่อแจ้งเข้าร่วมได้ และแจ้งข่าวดิจิตอลแมกกาซีนออกใหม่ ให้พนักงานสามารถดาวน์โหลดนิตยสารชั้นนำ เช่น บ้านและสวน เนชั่นแนลจีโอกราฟิค ไปอ่านได้แบบฟรีๆ เลยเกิดสังคมแห่งการเผยแพร่ความรู้ของคนภายในบริษัท”
ทางด้าน ดร.เกียรติขจร วรปรัชญา ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศ (Chief Information Officer: CIO) หนึ่งในผู้บริหาร Bookdose ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงการใช้ระบบ E-Library และ Digital Knowledge Center ซึ่งในอนาคตอันใกล้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการเชื่อมโยงเครือข่ายเศรษฐกิจของประชาคมอาเซียน (AEC) อีกด้วย
“สำหรับในแถบอาเซียน ถึงแม้จะยังไม่ได้เข้าสู่ AEC อย่างเป็นทางการ แต่ Bookdose ก็มีการวางแผนที่จะพัฒนาระบบให้ครอบคลุมอยู่แล้ว โดยเฉพาะกับองค์กรที่มีเป้าหมายชัดว่าต้องการนำดิจิตอลเทคโนโลยีมาใช้อย่างโรงพยาบาล สนามบิน โรงแรม และศูนย์การค้า ซึ่งล่าสุดที่เราได้ไปเปิดตลาด ก็มีได้รับการติดต่อจากสปป.ลาวมาเหมือนกันว่าสนใจอยากที่จะได้ระบบของเรา ไปติดตั้งใช้งานภายในองค์กร ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการจัดเตรียมเอกสารอยู่”
ด้วยศักยภาพของการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาซอฟแวร์ ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิก E-Library เต็มรูปแบบรายแรกของประเทศไทย ประกอบกับได้รับความไว้วางใจจากองค์กรต่างๆ มากมาย เพราะมีความเข้าใจในความแตกต่างของแต่ละองค์กรที่มีความหลากหลายรูปแบบ บริษัท Bookdose จำกัด จึงมีความพร้อมที่จะรองรับทั้งภาคธุรกิจและหน่วยงานราชการ ซึ่งจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อการแข่งขันในระดับอาเซียน และระดับโลกอีกด้วย