โดยอนันดา บอกว่า “ ตอนแรกที่รับเล่นเรื่องนี้ คือพอเราได้ศึกษาตัวละคร หาข้อมูลต่างๆ อีกอย่างเราเป็นแฟนหนังของพี่วิศิษฏ์มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว อยากทำงานกับพี่วิศิษฏ์ ก็คุยกันแต่ไม่ใช่โปรเจ็กต์นี้ เพราะตอนนั้นคิดว่าอาจจะไม่ใช่เรื่องนี้ เพราะหนังเรื่องนี้เป็นหนังฟอร์มใหญ่มาก และในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจมันเป็นอย่างนี้ เราก็ไม่ได้คิดว่าเค้าจะทำกัน ซึ่งพอทราบก็เลยต้องไปฝึกอะไรเพิ่มเติมเยอะ สำหรับเรื่องนี้ของผมขั้นตอนอาจจะเยอะเป็นพิเศษ เพราะว่านอกเหนือจากการที่ต้องไปเรียนเรื่องสตั๊นท์ เรื่องคิวบู๊ เรื่องการต่อสู้ ก็มีเรื่องของกายภาพด้วย เพราะว่าปีก่อนหน้าเปิดกล้อง ผมเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำ เลยทำให้กระดูกที่เท้าหัก ช่วงนั้นจะเป็นอุปสรรคมากเพราะต้องซ้อมคิวบู๊ด้วยเพื่อเตรียมร่างกาย ไหนจะต้องกายภาพบำบัดด้วย ก็เลยขอพี่วิศิษฏ์ว่าก่อนซ้อมคิวบู๊คิวแอ็คชั่นขอเวลาตอนเช้าไปกายภาพ ก็จะมีหมอมานวดขามาอัลตราซาวน์ มันก็เลยมีทั้งซ้อมคิวบู๊ซ้อมกายภาพไปในเวลาเดียวกัน ช่วงแรกๆ พี่วิศิษฏ์ก็จะถ่ายไม่หนักเท่าไหร่ ก็เก็บฉากอื่นไปก่อนเพื่อรอให้กระดูกเชื่อมกันให้ติด ทำให้เราได้ฝึกแอ็คชั่นมากขึ้น ได้รู้ทักษะการต่อสู้มากกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะมันทำให้เราชิน บุคลิกท่าทางก็จะปรับไปตามคิวการต่อสู้โดยธรรมชาติเลย ซึ่งต้องขอบคุณพี่ๆ นายทหารที่หน่วยอรินทราช และที่ราบ 11 ที่คอยดูแลผมเป็นอย่างดี สอนทุกอย่างตอบคำถามทุกอย่างที่ผมสงสัย ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง “อินทรีแดง” เรื่องนี้ ผมทุ่มสุดตัวเลยครับ เพื่อให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกมาให้ดีที่สุด และถือเป็นภาพยนตร์ที่ครบรสและมันส์ที่สุดในชีวิตการแสดงของผมอีกด้วย ”
จะโหดและดุเดือดขนาดไหน คงต้องไปติดตามบทบาทการแสดงของ อนันดา เอเวอริ่งแฮม ได้ในภาพยนตร์เรื่องยิ่งใหญ่ “อินทรีแดง” จากสองค่ายยักษ์ใหญ่แห่งวงการ ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น และ กันตนา กรุ๊ป 7 ตุลาคมนี้ พิสูจน์กันได้