ชวนสัมผัส “สาระแนเห็นผี” ประสบการณ์ “ขนลุกขนพองสยองฮา”
ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใครกับ “หนังผีในแบบสาระแน”
Q.ก่อนอื่นทักทายก่อนหน้าที่การงานช่วงนี้เป็นไงบ้าง
M.สวัสดีครับ ผมมาริโอ้ เมาเร่อครับ ก็สบายดีครับ ช่วงนี้ก็อากาศบ้านเราเริ่มเย็นแล้ว คิดว่าฝนน่าจะไม่ค่อยมีแล้ว สถานการณ์น้ำท่วมน่าจะดีขึ้น อยากให้น้ำลดเร็วๆ ครับ ส่วนโอ้เองก็ยังทำงานเหมือนเดิมครับ 7 วันเลย ก็จะมีคิวละครพฤหัส ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ส่วนจันทร์อังคารพุธก็จะเป็นคิวหนังและงานต่างๆ ครับ
Q. กลับมาร่วมงานกับทีมสาระแนอีกแล้ว แต่เห็นบอกว่าครั้งนี้เป็นการพลิกบทบาทของโอ้อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
M. ครับก็หลังจากสาระแนสิบล้อ มาเรื่องนี้สาระแนเห็นผีก็เป็นครั้งที่สองแล้วครับ ต้องบอกว่าบทแบบนี้ของโอ้ไม่เคยเห็นหรือไม่เคยมีในหนังมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวละครที่แมนๆ โหดๆ แล้วก็มีการสัก ทั้งการแต่งตัวทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดเลย เป็นคนที่เซอร์ๆหน่อย เป็นคนที่อยู่กับเพื่อน มาครั้งนี้จะออกมาเป็นลุคส์ของคนวัยทำงานที่ซ่าส์ๆ คือเป็นการเปลี่ยนมาเป็นคาแรคเตอร์ในแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อน ในภาพยนตร์เรื่องสาระแนเห็นผี โอ้รับบทเป็นโด้ครับ คาแรคเตอร์ของโด้ ก็เป็นคนออกแมนๆ ก็เป็นแนวโหดมันส์ฮา เวลาไปกับเพื่อนก็เฮฮาเต็มที่ เวลามีเรื่องก็จะเป็นคนที่ค่อนข้างบุ่มบ่าม พอมีอะไรก็จะเป็นคนไม่กลัวใคร จะเป็นคนชอบปากเสีย เป็นประเภทปากหาเรื่อง เวลาจะพูดอะไรนิดหน่อยก็ทำให้ คู่แฟนของเพื่อนเลิกกัน เพราะเรา ในเรื่องตัวละครตัวนี้จะเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยที่คิดว่าตัวเองแน่ เจ๋งพอตัว สนใจเรื่องสัก และก็ชอบขี่มอเตอร์ไซด์
Q. “สาระแนเห็นผี” แตกต่างจากทุกๆ บทที่เคยเล่นมา
M.ครับ ก็ค่อนข้างแตกต่าง คือเป็นคาแรคเตอร์ที่มีอะไรให้เราเล่นเยอะมากเลยทีเดียว ทั้งเรื่องวิธีการพูด วิธีการคิดของตัวละครมันเปลี่ยนไปหมดเลย ทั้งเรื่องการแต่งตัวที่มันเปลี่ยนไป มันทำให้เราได้แสดงอะไรอีกหลายอย่าง แล้วโดยส่วนตัวผมเองชอบตัวละครนี้นะ เพราะว่าเราไม่เคยเจอมาก่อน เออก็รู้สึกว่ามันน่าเล่นดี คือเป็นคนเซอร์ๆ หน่อย แล้วเวลาเล่นมันมีอะไรแปลกใหม่ออกมาตลอด และเปิดโอกาสให้เราได้นำเสนอมุกได้ และได้ลองคาแรคเตอร์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากๆ เราไม่เคยได้ทดลองสวมบทแบบนี้มาก่อน เป็นคาแรคเตอร์ที่ไม่ธรรมดา
Q.เห็นบอกว่าโดนพี่ๆ สาระแนแกล้งเรื่องบท มีการสับเปลี่ยนบทกันตั้งแต่ยังไม่เปิดกล้อง
M.นี่โดนอีกแล้วครับ ทีมสาระแนเขาก็ทำเหมือนเดิมคือ ทีแรกให้บทมา บอกว่าเป็นตัวละครตัวนี้ แต่พอถึงวันจริง เปลี่ยนตัวละครเราเฉยเลย บทนี้จริงๆ แล้วตอนแรก ได้บทมาเป็นยี (บทที่รับบทโดยสตาร์บัคส์) ตอนหลังเป็นโด้
Q. ถือได้ว่าเป็นหนังตลกเต็มๆ ตัวเรื่องที่สอง และยังได้มีโอกาสเข้าฉากร่วมกันกับนักแสดงในดวงใจที่เราชื่นชอบด้วย
M. ครับ เป็นหนังตลกเต็มๆตัวเรื่องที่สองของโอ้นะครับ หลังจากสาระแนสิบล้อ มาจนถึงสาระแนเห็นผี นอกจากได้บทที่มีความแปลกใหม่ และน่าสนใจแล้ว ก็ยังได้เจอกับพี่ๆ สาระแน ซึ่งโอ้ก็ยินดีทุกครั้งที่ได้ทำงานกับเขา เพราะพวกเขาน่ารัก คือเล่นกับพวกเขา มุกเขาใหม่สดตลอด แล้วในบทมันไม่ตรงเลยครับ บทก็จะพลิกตลอด ก็จะมีเค้าเดิม ที่น่าสนใจมากคือได้ทำงานกับตลกรุ่นใหญ่อย่างพี่หม่ำ อาเด๋อ ที่เป็นตลกชั้นครูเลย ที่ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กแล้ว ก็คือใฝ่ฝันมาตลอดว่าวันหนึ่งจะได้เล่นหนังกับเขา และก็ได้เล่นจริงๆ ก็รู้สึกภูมิใจและดีใจมากๆ ที่ได้เล่นกับเขา และได้อะไรจากเขาเยอะมากๆ เลย ทั้งเรื่องสปิริทของนักแสดง เรื่องของความสดของมุก คือสุดยอดมากๆ
Q.ได้ร่วมงานกับพี่ๆ นักแสดงตลกระดับประเทศ อย่างนี้มีโอกาสได้คิดมุก ยิงมุกใส่พี่ๆ นักแสดงตลกบ้างไหม
M.คือถามว่าเราได้เหมือนได้คิดมุกอะไรไหม พอไปถึงหน้าเซ็ทจริงๆ คิดไม่ออกครับ (หัวเราะ) เพราะว่าพี่ๆตลกแต่ละคนใส่มาเต็มที่ มีแต่ผมต้องใช้สมาธิมากในการเล่นกับพวกเขา เพราะเป็นตลกรุ่นใหญ่ของวงการทั้งนั้นเลย เราเห็นเขามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว พอเราได้มาเล่นกับเขา เราก็อั้นไว้ไม่อยู่ ก็ต้องให้เวลาผมนั่งสงบสติอารมณ์ก่อน คือพอเล่นไปต้องหยุดพักแป๊บหนึ่งเพราะว่าเราทนไม่ไหวกับเรื่องของความสด ความใหม่ของพวกเขา (คืออดขำไม่ได้) เราก็ได้เรียนรู้จากตรงนั้น มันทำให้เรามีสมาธิ ต้องอินกับตัวละครมากๆ เพราะถ้าไม่อินเราจะหลุดง่ายมากๆ
Q.มีหลุดขำบ้างไหม
M. หลุดขำเป็นสิบๆ เทคเลยครับ ทั้งพี่หม่ำ พี่เด๋อ มันหลุดอยู่แล้วครับ คือพอเราเห็นหน้าเขาเราก็ฮาแล้ว แต่พอเราอินตัวละครแล้ว เวลาเขาเล่นมุกอะไรมา มันสดมากๆ คือเล่น 5 เทค 5เทคไม่เหมือนกันเลย ยิ่งกว่าดูตลกสดๆ อีกครับ เพราะเวลาเราดูตลกสดๆ เรายังนั่งอยู่ที่จอ ที่นี่สัมผัสได้ เพราะอยู่ตรงหน้าเลยครับ
Q.อย่างนี้ต้องเล่าให้ฟังแล้วละว่า “สาระแนเห็นผี” เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร
M.เรื่องราวของสาระแนเห็นผี เริ่มต้นขึ้นเมื่อเพื่อนซี้สองคนซึ่งก็คือโด้ (รับบทโดยมาริโอ้) กับยี (รับบทโดยสตาร์บัคส์) ไปเที่ยวผับเพื่อที่จะไปฉลองความซวยกัน จะไปเฮฮาเต็มที่ไปกินเหล้ากินอะไรเพื่อฉลอง แต่เพื่อนซี้กลับไปมีเรื่องกับสจ.ที่มีอิทธิพลมากชื่อ สจ.อ๋า ทำให้มีเรื่องราวขึ้นมา ทั้งคู่ก็เลยต้องหนีกันไป เพราะสจ.อ๋าเขามีอิทธิพลมาก แล้วก็ลูกน้องเยอะมาก ก็เลยต้องหนี โชคดีไปเจอสาวสวย เป็นโคโยตี้สาวขี่รถมาพอดี ก็เลยขึ้นรถเขาเลยบังคับให้ขับรถพาหนี จนไปหยุดที่วัดแห่งหนึ่ง ก็เลยเป็นที่มาที่ไปเป็นจุดเริ่มต้นของสาระแนเห็นผีครับ
Q.ครั้งแรกที่พอได้ยินหรือรู้ว่าสาระแนจะทำหนังผี รู้สึกอย่างไร
M.ทีแรกพี่เขาไม่ได้บอกนะว่าจะทำหนังผี พอโอ้รู้ว่าพี่ๆ สาระแนเขาจะทำหนังผี (สาระแนเห็นผี) โอ้รู้สึกว่ามันน่าสนใจมากๆ เพราะจริงๆ แล้วพี่ๆ กลุ่มนี้เขาจะถนัดทำเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวกับผีอยู่แล้วครับ ไม่รู้เป็นอะไรเหมือนกันครับ พี่ๆ เขามักจะมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีมาให้ฟังประจำ แล้วพอได้มาทำงานกับพี่ๆ สาระแนในหนังเรื่องสาระแนเห็นผี คือเราจะได้เห็นความน่ากลัวที่พี่ๆ จัดมาให้แบบขนหัวลุกเลยครับ แต่ในเรื่องของความฮาเนี่ยะมันจะมีอยู่ตลอดเวลาทั้งกลัวทั้งขำไปด้วย อารมณ์ขึ้นลงอยู่ตลอด ทั้งกลัวทั้งหัวเราะอยู่ตลอดเลยครับ
Q.เสน่ห์ของหนังเรื่องสาระแนเห็นผี
M. ครับสำหรับเสน่ห์ของเรื่องสาระแนเห็นผี ผมว่าน่าจะอยู่ที่ความน่ากลัวมากๆ ของหนังที่พี่ๆ เขาจัดมาให้แบบเต็มสูบเลยครับ คือน่ากลัวจริงๆ แล้วพาไปแต่ละที่เป็นสถานที่จริงๆ ก็ไม่รู้ว่าเขาจะพาไปทำไมนะครับ สถานที่จริงๆ ที่มีประวัติหรือเรื่องเล่าน่ากลัวๆ แล้วในเรื่องของความฮา การันตีอยู่แล้วในเรื่องของพี่ๆ สาระแน แต่ที่ขาดไม่ได้คือการแก่งแย่งชิงดีกันของพี่ๆสาระแนทั้ง3คนที่ไม่มีใครยอมใคร ไม่ว่าจะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้อง คือแข่งกันฮาอย่างเดียวเลย ซึ่งพอมารวมกันสามคน แล้วมันลงตัวมากๆ แล้วยังมีตลกอย่างพี่หม่ำ น้าเด๋อมาด้วย คือแบบความตลกไม่ต้องห่วงอยู่แล้ว คือทั้งน่ากลัวจนขนหัวลุกและน่ากลัวจนตกเก้าอี้เลยละ
Q.งานนี้ยังได้ร่วมงานกับนักแสดงสาวระดับซูเปอร์สตาร์เซ็กซี่ตัวแม่อย่างอั้มพัชราภาด้วย
M.สำหรับพี่อั้มในมุมมองของโอ้แล้วพี่อั้มเป็นนักแสดงมืออาชีพที่น่าตาสวย และเป็นคนมีความสามารถมากๆ คือชื่นชอบในผลงานของพี่เขามาโดยตลอดอยู่แล้ว แล้วพอรู้ว่าจะได้ร่วมงานกับพี่เขาในสาระแนเห็นผี ก็รู้สึกตื่นเต้นครับ ที่ได้ร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์สาวสวยที่คนทั้งเมืองไทยชื่นชอบ ก็ตื่นเต้นครับ แล้วพอได้ร่วมงานกับพี่อั้มจริงๆ คือโดยส่วนตัวโอ้รู้จักกับพี่อั้มอยู่แล้วครับ คือพี่อั้มเป็นคนน่ารักแล้วก็พอได้ร่วมงานกับแกก็รู้สึกว่า พี่อั้มเป็นคนที่มืออาชีพจริงๆ พอแอ็คชั่นวิญญาณความเป็นนักแสดงมืออาชีพมันออกมาเลยครับ แกเล่นแบบไม่ห่วงลุคส์ ไม่ห่วงอะไรเลยคืออินกับตัวละครจริงๆเลย ก็อยากให้คนดูมาดูพี่อั้มกันในลุคส์อีกแบบหนึ่งซึ่งผมคิดว่ายังไม่เคยมีใครเห็นลุคส์พี่อั้ม ที่ดูแปลกตาแล้วก็น่าติดตามมากครับ น่าดูมากๆ ครับ
Q.ได้ข่าวว่าพวกสาระแนตัวดีกล้ามากที่เอาสาวเซ็กซี่ระดับประเทศอย่างอั้มพัชราภา มาทำอะไรในแบบที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน
M.(หัวเราะ) ครับพวกสาระแนเขาก็เป็นแบบนี้แหละครับ ชอบทำอะไรที่คนอื่นเขาไม่ทำกัน พาซูเปอร์สตาร์มาเป็นโคโยตี้ เต้นในผับไม่ได้ก็พาไปเต้นข้างถนนด้วยนะครับ แล้วพี่อั้มก็เต้นออกมาได้น่ารักมาก คือเป็นโคโยตี้ที่น่ารัก สวย แต่ว่ามาเต้นอยู่ข้างถนนครับ มีอยู่ที่นี่ที่เดียวครับสาระแน แล้วสำหรับฉากที่พี่อั้มต้องเต้นโคโยตี้ จริงๆ ต้องเต้นตั้งแต่คิวแรก ปรากฎว่าคิวแรกฝนตก พอเป็นคิวสองคิวสองฝนตกอีก คิวสามฝนตกกว่าจะได้เต้นจริงๆ เป็นวันไหนไม่รู้แต่ได้เต้นตอนตี 2 ก็ลองคิดดูละกันครับ ฝนก็ตกอีก คือพาพี่อั้มมาเต็มที่เลย แล้วก็น่าดูมากๆ ครับซีนนี้
Q.นอกจากนี้ยังมี “สตาร์บัคส์” คนนี้ไม่พูดไม่ได้ เพราะแท็คทีมเป็นคู่แสบกับมาริโอ้ แล้วจริงไหมที่ว่านอกจอสนิทกัน จนผู้กำกับเลือกให้มาเล่นคู่กัน
M. ครับสำหรับพี่สตาร์บัคส์นะครับ เห็นและร่วมงานกันตั้งแต่เรื่องที่แล้วสาระแนสิบล้อ เป็นคนตีเสลทให้เรานะครับ แล้วก็ตีผิดๆ ถูกๆ (หัวเราะ) เรื่องนี้มาเล่นกับเราเป็นเพื่อนกัน ฮาครับ พี่สตาร์บัคส์ทำการบ้านมาพร้อมที่จะฮาตลอด แล้วให้พี่หลังเลนส์มาตีสเลท แล้ววันดีคืนดีพี่แกก็กลับไปตีเสลทพร้อมกับแสดงไปด้วย แต่เรื่องนี้พี่สตาร์บัคส์ก็มาเล่นกับโอ้ เล่นด้วยกันแทบทุกซีนเลย เพราะพี่เป้กับพี่ๆ ทีมสาระแนเห็นว่าเราสนิทกันตอนสาระแนสิบล้อ เพราะเห็นโอ้ชอบนั่งคุยกับพี่บัคส์ คุยกันไปหมดครับ คุยกันทุกเรื่อง แล้วเวลาเล่นกับพี่บัคส์ เราก็จะมีการปรึกษากับพี่ช.ทีมงานซึ่งเป็นคนเขียนบทหนังเรื่องนี้ด้วยว่าเราจะแกล้งเขายังไงดี ก็มีอยู่ซีนหนึ่งที่ไม่ได้บอกพี่บัคส์ คือเขาไม่รู้ว่าโอ้จะเอาถุงเท้าไปเช็ดปากเขา แต่เขาก็ไม่ยอม เขาก็เลยถุยน้ำลายใส่หน้าผมครับ (หัวเราะ) กลายเป็นว่าซีนนี้ผมเจ็บครับ เจ็บใจครับ
Q.ปกติเล่นสาระแนโอ้จะโดนเขาแกล้ง เดี๋ยวนี้มีการแกล้งเขากลับด้วย
M. ครับปกติทุกทีร่วมงานกับพี่สาระแนจะโดนเขาแกล้ง อย่างตอนสิบล้อ แต่มาเรื่องนี้ก็จะมีคุยกันกับพี่ๆทีมงานว่าจะแกล้งพี่สตาร์บัคส์ เราพยายามจะลองแกล้งเขาดู แต่ปรากฎว่าไม่สำเร็จครับ กลายเป็นว่าเราโดนเขาแกล้งกลับคืน แล้วโดนคืนหนักกว่าเดิม (หัวเราะ) เลยไม่เอาดีกว่า
Q.ได้มีโอกาสทำงานคลุกคลีกับทีมงานสาระแนเป็นเรื่องที่ 2 แล้ว อยากให้โอ้พูดถึงวิธีการทำงานในแบบสาระแนที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
M.สำหรับแก๊งค์สาระแน หลายคนชื่นชอบในผลงานต่างๆ ของสาระแนอยู่แล้ว ก็รู้สึกดีใจนะครับที่ได้มาทำงานกับสาระแนอีกครั้งหนึ่ง อยากจะบอกว่าพวกเขาทำงานกันละเอียดมากๆ ทุกซีนทุกฉากที่เราเห็นในหนัง พี่เป้ (นฤบดี เวชกรรม) ผู้กำกับต้องนั่งวาดสตอรี่บอร์ด วาดจนถึงตี 3 ครับ ตื่นเช้ามายังง่วงอยู่เลย แกขยันทำงานมากๆ คือทุกซีนมีการผ่านกระบวนการทางความคิด การสกรีนมาหมดแล้ว เวลามาดูสตอรี่บอร์ดก็จะเข้าใจหมดเลย แล้วเวลามาทำงานพี่เป้ก็จะอธิบายอย่างละเอียดเลย พูดได้ว่าพี่ๆทุกฝ่ายทุกแผนกทำงานกันละเอียดมากๆ กล้องเองก็จะมีกันหลายตัว แล้วก็เวลาพี่ๆ เขาอธิบายอะไรหรือจะให้เล่นมุกอะไร พี่ๆ เขาไม่ได้มายัดมุกเรา แต่จะอธิบายเล็กๆ แล้วให้เรามาลองต่อยอดเอา ซึ่งผมว่าเป็นการสอนที่ธรรมชาติมากๆ คือเขาไม่ได้ไปยัดให้เราเล่นแบบนี้ แต่จะปล่อยให้เราเล่นยังไงก็ได้ แต่จะมีเรื่องมีราวคลุมอยู่ครับ
Q.เหมือนเป็นการแลกเปลี่ยนแชร์ความคิดระหว่างผกก.ทีมงานโดยให้นักแสดงมีส่วนร่วมในการทำงาน
M.ใช่ครับ คือพี่ๆ เขามีการเหมือนแลกเปลี่ยนความคิดกันระหว่างนักแสดงกับพี่ๆทีมงานกับพี่ๆผู้กำกับ เพราะว่าเวลาที่เราลองเล่นมุกอะไรออกมาเล่นๆ เขาก็เออเอาอันนี้แหละ พอพี่เขาเห็นเขาชอบอันนี้ เขาก็จะเอาครับ แล้วยิ่งพอได้ทำงานกับพี่ๆ สาระแนอีกครั้ง โอ้สัมผัสได้เลยว่าพวกพี่ๆ เขามีของ ที่สามารถนำเอาความเป็นธรรมชาติในตัวเราออกมาได้เต็มที่เลย บางทีเรายังไม่รู้ตัวเลยว่าเราเล่นอะไรออกไป พอคัทมา เราไปดูกล้องดูมอนิเตอร์ที่ถ่ายจบไป ก็รู้สึกว่าเราก็เล่นไปได้ ซึ่งก็ยังอยู่ในคาแรคเตอร์ที่เราเป็นในเรื่อง อย่างในสาระแนเห็นผีก็ยังเป็นโด้อยู่ ไม่ได้เป็นมาริโอ้ แต่ว่ามีความเป็นธรรมชาติออกมาเต็มที่เลย ก็รู้สึกว่าพี่ๆ เขามีของจริงๆ ครับ
Q.เห็นว่า นอกจากอารมณ์ขันแล้ว ในส่วนของอารมณ์สยองขนลุกขนพองก็มีอะไรเยอะเลย ไม่ว่าจะเป็นไอเดียของทีมสาระแนเอง หรือแม้แต่โลเกชั่นที่ไปถ่ายทำ
M.อารมณ์สยองเหมือนอยู่ในเส้นเลือดของพี่ๆ ชาวสาระแนเหมือนกันครับ นอกเหนือจากเรื่องอารมณ์ขันหรือเสียงหัวเราะ และที่สำคัญผีที่พี่ๆ เขาคิดจะมีความเป็นไทยอยู่ด้วย คือผีแต่ละอย่างเหมือนมันใกล้ๆตัวเรา เวลาขับรถผ่านตรงนี้อาจจะมีรึเปล่า ในห้องน้ำหรือว่าอะไรที่เขาคิด โอ้รู้สึกว่ามันใกล้ๆ ตัวดี แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมอยากจะบอกพี่ๆ สาระแนเลยนะครับว่าช่วยเซฟพวกน้องๆด้วยนะครับ เวลาพาไปสถานที่จริง น้องๆ ก็อันตรายนะครับ แล้วเล่นพาไปสถานที่จริงขนจะไม่ลุกได้อย่างไรละครับ แล้ววิธีการคิดผีของเขาก็ครีเอทมากครับ ไม่รู้เป็นไรชอบพาไปสถานที่จริง ซึ่งมีผีจริงๆและมีเหตุการณ์ที่น่ากลัวสยดสยองเกิดขึ้น ทำให้เราขนหัวลุกจริงๆ เวลาไปดูภาพที่อยู่ในมอนิเตอร์แล้วเห็นว่าเราขนลุก ไม่ได้ขนลุกในซีนนะครับ แต่ขนลุกเพราะว่าไปอยู่ในสถานที่จริงๆ ครับ อย่างนั่งขับรถกับพี่อั้ม แล้วพี่อั้มอูย...ย ขนลุก เพราะว่ามันน่ากลัวจริงๆครับแถวนั้น ที่สำคัญคือถ้าเราไปกลางวันมันก็โอเคไงครับ แต่นี่พาเรามาถ่ายกลางคืนแล้วลากยาวไปตี 1 ตี 2 แต่ที่สำคัญที่สุดคือผู้บริหารทั้ง 3 คนนี่เขาจะไม่มานะครับ เขาปล่อยให้นักแสดงและทีมงานไปครับ แต่เขาก็ไม่บอกเราด้วยว่าที่นั้นเป็นที่จริง คือปล่อยให้ถ่ายเสร็จแล้วพอเราเจอเหตุการณ์อะไรน่ากลัว แล้วเขาค่อยบอกเราครับ พี่ๆเขาเป็นทีมงานที่น่ารักครับ น่ารักมากครับ (หัวเราะ)
Q.ประมาณว่านอกจากในหนังคนดูจะได้ฮาจริงสยองจริงแล้ว แต่ประสบการณ์ขนลุกขนพอง ในสถานที่ถ่ายทำ “สาระแนเห็นผี” นักแสดงเจอจริง
M. ครับสำหรับเรื่องราวขนหัวลุกจริงๆ ในสาระแนเห็นผี จะมีอยู่หลายครั้งในระหว่างที่เราไปถ่ายทำในโลเกชั่นต่างๆ ที่อาจมีเรื่องราว หรือที่มาที่ไปโดยที่ตัวโอ้ พี่อั้ม หรือนักแสดงไม่รู้มาก่อน อย่างซีนหนึ่งที่ไปถ่ายกันในต่างจังหวัดซึ่งมีพี่อั้ม มีพี่สตาร์บัคส์ มีอาหมูบางรักซอยเก้าด้วย เป็นซีนที่เราต้องขับรถอยู่บนถนน แล้วเหมือนไปเจอคนเมา แต่ ณ ตรงที่พื้นที่ที่เราจะถ่ายในซีนตรงนั้น มีร่องรอยของโครงสร้างประตูของตึกเก่าหลงเหลืออยู่ประตูหนึ่งเป็นประตูที่เก่าแก่มาก รอบๆ เป็นพื้นที่โล่ง เขาบอกว่าเป็นสมัยสงครามโลกครั้งที่1 แล้วพอเราถ่ายจบเขาเพิ่งมาบอกเราว่าแถวนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งอยู่ข้างๆกับเราเลย อยู่ใกล้ๆ อยู่ติดกับเราเลย เขาบอกเราว่าที่ตรงนั้นเหมือนกับว่าเคยเป็นสถานที่ขายบริการมาก่อน แล้วผู้หญิงโดนฆ่าแล้วถูกหมกอยู่ตรงนั้น 50 กว่าศพครับ ซึ่งน่ากลัวมากไม่มีใครบอกกับเราเลย จนกระทั่งเราถ่ายทำเสร็จครับ แต่ตัวพี่เป้ผกก.จุดธูปด้วยครับ แล้วทีมงานทุกคนก็จุดธูปครับ คือเวลาเราไปถ่ายทำทุกที่ เราจะมีจุดธูปอยู่แล้ว แต่พี่อั้มก็มีปฏิกิริยา คือขนหัวลุก ขนพองตลอดเวลาเลยครับ น่ากลัวมาก ไม่ใช่ที่เดียวหรือครั้งเดียวด้วยครับ เพราะยังมีอีกโลเกชั่นหนึ่งที่น่ากลัวมาก ไปถ่ายทำที่ลานจอดรถที่หนึ่งครับ แต่อันนี้เป็นที่กรุงเทพ ซึ่งพี่อั้มต้องไปถอยรถจอด แล้วก็มีเสาตกน้ำมันอยู่ เสาปูนนะครับแต่ตกน้ำมัน แล้วมีของไหว้ ของอะไรวางอยู่เต็มไปหมด เราก็เอะ ทำไมเป็นแบบนี้ พอพี่อั้มถอยรถจะจอด มองในกล้องหลังรถนะครับ มีควันโขมง แล้วก็มองๆๆ เวลาถอยรถจะมีที่มองข้างหลังไงครับ ทุกคนว่าพี่อั้มกำลังถอยรถมาเข้าฉาก ปรากฎว่าพี่อั้มเหยียบๆๆ ปรู๊ดออกไปเลยครับ คือไม่กล้าจอดตรงนั้น พวกเราก็ไม่กล้าเข้าใกล้เสานั้นครับ พวกเราก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรครับ แล้วก็ไม่อยากจะไปรู้ด้วยครับ เพราะรู้สึกว่าน่ากลัวมากๆ
Q.มีอุปสรรค ความยากอะไรที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์เรื่องสาระแนเห็นผี
M.ก็ส่วนใหญ่ก็จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไรครับนอกจากว่าหนังเรื่องนี้ก็จะมีถ่ายทำในต่างจังหวัด โอ้เองก่อนเข้าฉากก็ต้องมานั่งเพ้นท์รอยสัก ก็จะมีพี่สตาร์บัคส์มาช่วยเพ้นท์ให้ นอกจากสถานที่ชวนขนหัวลุกที่ทีมงานไม่ได้บอก (หัวเราะ) ก็คงเป็นเรื่องสภาพอากาศครับ เพราะช่วงที่เราถ่ายทำเจอฝนเต็มๆครับช่วงแรกนี่เจอทุกคิวเลย เพราะเวลาที่ตกหนักมากๆก็ถ่ายต่อไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเสียงฝนหรือภาพที่เห็นเม็ดฝน ซึ่งบางทียกกองไปแล้วอย่างคิวแรก ต้องรอให้ฝนหยุดตก แล้วพอฝนซาก็ถ่ายต่อ จนสุดท้ายตกหนักมาก จนต้องยกกอง บางซีนที่ตั้งใจจะถ่ายย้ายไปหาคิวถ่ายในวันอื่นแทน อ๋อมีอยู่ซีนหนึ่งครับที่โอ้ขอฝากไว้เลยครับสำหรับความยากของการถ่ายทำสาระแนเห็นผี โอ้จำได้เลยไปถ่ายทำกันที่แยกสาทร ใกล้ๆกับตรงแยกเซ็นต์หลุยส์ครับ ซึ่งเป็นแยกที่ใหญ่มากพนักงานคุณป้าที่ทำความสะอาด หรือว่าพี่ๆ ที่อยู่ในบริษัทเขาก็จะแวะมากินข้าวกัน แล้วถนนตรงนั้นรถเต็มตลอด ใครๆก็รู้กันตรงสาทร แต่พี่ๆ สาระแนก็ดั้นไปถ่ายตรงนั้น คืออยากจะลองดู ผมก็นั่งดูครับว่าพวกพี่เขาจะไหวมั้ย เพราะแถวนั้นยุ่งมากๆ จริงๆ ครับ เราไปถ่ายกันช่วงเช้าและช่วงพักเที่ยง ซึ่งเป็นช่วงที่การจราจรหนาแน่นมากๆ แล้วเป็นฉากที่นักเรียนตีกันวิ่งถือดาบ ถือมีดซามูไร ถือไม้หน้าสามวิ่งกันอยู่กันกลางถนน คนก็มองกันหมดเลยครับ แล้วก็พาผมไปขี่มอเตอร์ไซด์ โดนตำรวจจับอีกครับวันนั้น โอ้โหวันนั้นคือทั้งร้อน ทั้งคนเยอะ แถมมีป้ามาบ่นอีกว่า ทำอะไรกันเนี่ยะ โอ้ย ถือมีด ถือดาบน่ากลัว แล้วพาผมไปขี่มอเตอร์ไซด์กลางสี่แยก แล้วรถไม่ได้กั้นนะครับให้ผมขี่ไปกับรถเลย บางทีก็มีป้าขับรถผ่านมาก็กดแตรใส่มอเตอร์ไซด์ผม เห็นมอเตอร์ไซด์ผมมันเท่ห์ (หัวเราะ) แต่เท่ห์ยังไงต้องไปลองดูในหนังครับ (เป็นซีนเปิดตัวซีนแรกในหนังของการพลิกคาแรคเตอร์โอ้) ก็สุดยอดครับทีมสาระแนเลือกที่ถ่ายที่ยาก ต้องนับถือเขาจริงๆ กว่าจะถ่ายผ่านไปได้ มันยากมาก แต่พี่ๆ เขาก็สามารถทำได้เร็วมากจริงๆ ครับเมื่อถึงเวลาถ่ายทำ เพราะมีกล้องถึง3ตัวของถ่ายรับหลายๆ มุมทั้งบนสะพานลอย อีกฟากของถนน แต่จริงๆ แล้วเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของผมเลยครับที่ถ่ายหนังแล้วโดนตำรวจจับ นั่งไปกับพี่ๆแล้วโดนตำรวจจับกันทั้งรถเลย เขาก็ถามว่าทำอะไร แต่จริงๆ แล้วพี่ๆ เขาขออนุญาต ก็เลยต้องนั่งรอ ให้พี่ๆ เขาเคลียร์กัน ถึงได้ถ่ายทำกันต่อครับ
Q.ถ้างั้นให้โอ้ฝากอะไรถึงพี่ๆ สาระแนวิลลี่ เปิ้ล หอย 1อย่าง และอยากฝากอะไรกับแฟนๆ
M. โอ้ขอฝากอะไรไปถึงพี่หอยพี่เปิ้ลพี่วิลลี่นะครับ วันไหนที่เราไปโลเกชั่นที่มันโหดๆ พี่ๆ ช่วยไปกับเราด้วยนะครับ เราอยากให้พี่ๆ ไปเป็นกำลังใจครับ แต่พี่ๆ ไม่เคยมีเสียงหรืออะไรมาเลยครับ พี่ๆ อยู่กรุงเทพกัน ทำงานกันปล่อยให้น้องๆ ไปทำงานในที่ที่น่ากลัวมากๆ ครับ ก็อยากให้พี่ๆ มาด้วยนะครับและโอ้ก็ขอฝากหนังสาระแนเห็นผีด้วยนะครับ เป็นหนังเรื่องที่ 2 ของโอ้ที่ทำงานร่วมกับพี่ๆ สาระแน ก็อยากฝากแฟนๆ สาระแนที่โอ้ว่ามีเยอะมาก ก็อยากให้ไปดูหนังเรื่องนี้ แล้วทีมงานตั้งใจกันมากๆ มีมุกสดๆ ใหม่ๆ มีทั้งเสน่ห์ของพี่ๆ สาระแน พี่เปิ้ล พี่วิลลี่ พี่หอย มีอยู่แล้ว พี่ๆ เขาไม่เคยปล่อยให้หลุดไปอยู่แล้วกับเรื่องของความฮา ความมันส์ที่เรื่องนี้ต้องมีอยู่แล้ว ในเรื่องของความสยอดสยอง น่ากลัว ขนหัวลุก นอกจากนี้ก็จะมีพี่ๆ นักแสดงระดับหัวกะทิมาร่วมสร้างสีสันกันเยอะมาก ชนิดที่ว่าเห็นหน้าแล้วฮาครับ ทั้งที่เห็นแล้วจำได้เลย หรืออาจต้องเพ่งกันนิดหนึ่ง แต่รับรองว่าร้องอ๋อแน่นอน รวมทั้งศิษย์เก่าสาระแนอย่างพี่หลังเลนส์จากสาระแนห้าวเป้ง รวมทั้งน้องอร สาระแนสิบล้อด้วยครับที่มาเป็นสีสันในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย มาถึงก็แย่งซีนทุกคนหมดเลยครับ เหวี่ยง วีน ทำร้ายร่างกาย ทำลายข้าวของด้วย ใส่ชุดนักศึกษาครั้งแรกด้วย พอใส่เสร็จก็ออกฤทธิ์เลยครับ โยนคอมพิวเตอร์โยนอะไร ต้องไปดูในหนังครับว่าเพราะอะไร แต่ต้องบอกก่อนว่าน้องอรมาเรื่องนี้ไม่ได้เป็นแฟนโอ้นะครับ เป็นแฟนยีที่เล่นโดยพี่สตาร์บัคส์ครับ ท้ายนี้โอ้ก็อยากฝากไว้ด้วยครับสำหรับสาระแนเห็นผีครับ