จบลงอย่างสวยงาม - เทศกาลภาพยนตร์ต่างประเทศที่ถ่ายทำในประเทศไทย ครั้งที่ 3 (Thailand International Film Destination Festival 2015) ภายใต้แนวคิด ‘Scenery, Scenes, Seen on Screen’ ที่จัดขึ้นโดยกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเผยแพร่ความงดงามทัศนียภาพของประเทศไทย ที่เคยปรากฏผ่านภาพยนตร์หลากหลายที่ฉายไปทั่วโลก ตลอดจนเสนอทัศนียภาพใหม่ๆ สำหรับใช้เป็นเป็นโลเคชั่นถ่ายทำภาพยนตร์ และใช้ภาพยนตร์เป็นสื่อเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวว่า “การจัดงานในปีนี้ แสดงให้เห็นชัดว่า นานาชาติยังให้ความเชื่อมันแก่ประเทศไทยในฐานะจุดหมายแห่งการถ่ายทำภาพยนตร์ของโลก โดยสะท้อนให้เห็นจากการตอบรับของบรรดานักแสดง ผู้กำกับ และโปรดิวเซอร์ ที่เข้าร่วมการเสวนาในช่วงการฉายภาพยนตร์ในเทศกาล และมาร่วมเดินพรมแดงเป็นเกียรติแก่เทศกาล”
ขณะที่กิจกรรมที่เยาวชนทั่วโลกต่างรอคอย การแข่งขันถ่ายทำภาพยนตร์สั้นในประเทศไทย (The Amazing Thailand Film Challenge) ในปีนี้ กรมการท่องเที่ยวเน้นเผยแพร่ความงดงามทัศนียภาพของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ที่มีจุดเด่นและเอกลักษณ์ของเมืองในทุกๆ ภูมิภาคทั่วไทย โดยมีเยาวชนทั้งสิ้น 36 ทีม จาก 14 ประเทศร่วมแข่งขัน นับเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งของกรมการท่องเที่ยว ที่ต้องการปลูกฝังให้เยาวชนที่จะก้าวสู่การเป็นบุคลากรทางด้านภาพยนตร์ทั่วโลก เกิดความคุ้นชินและให้ความสำคัญกับประเทศไทยเป็นประเทศแรก เมื่อมีโครงการภาพยนตร์ในอนาคต เพื่อรักษาตำแหน่งประเทศไทย ในฐานะจุดหมายการถ่ายทำภาพยนตร์ของโลกไว้ได้ในระยะยาว ทำให้บุคลากรเหล่านี้มั่นใจถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทยในการรองรับการถ่ายทำ ทั้งในด้านบุคลากร เครื่องมือ และความสวยงามของทัศนียภาพ โดยผลการแข่งขันมีดังต่อไปนี้
รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Film) 1 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 300,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณรางวัล ได้แก่ ผลงานภาพยนตร์เรื่อง Blissful City ทีมจากประเทศสเปน ซึ่งลงพื้นที่ถ่ายทำในจังหวัดบุรีรัมย์
รางวัลชนะเลิศในแต่ละจังหวัด 12 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ รวมเงินรางวัล 360,000 บาท ได้แก่
1. Award for Outstanding Presentation of Thailand – LAMPANG ทีมจากอังกฤษ เรื่อง The Kingdom
2. Award for Outstanding Presentation of Thailand – CHANTHABURI ทีมจากเกาหลี เรื่อง Hometown
3. Award for Outstanding Presentation of Thailand – TRANG ทีมจากเนปาล เรื่อง The Magical Trang
4. Award for Outstanding Presentation of Thailand – CHUMPHON ทีมจากไต้หวัน เรื่อง Rainbow
5. Award for Outstanding Presentation of Thailand - SAMUT-SONGKHRAM ทีมจากเวียดนาม เรื่อง Choh Chakham
6. Award for Outstanding Presentation of Thailand – NAN ทีมจากสเปนThe Sound of Footstep
7. Award for Outstanding Presentation of Thailand – BURIRAM ทีมจากสเปน เรื่อง Blissful City
8. Award for Outstanding Presentation of Thailand – PHETCHABUN ทีมจากสิงคโปร์ เรื่อง Passage
9. Award for Outstanding Presentation of Thailand – RATCHABURI ทีมจากสิงคโปร์ เรื่อง Vessatara
10. Award for Outstanding Presentation of Thailand – TRAT ทีมจากฟิลิปปินส์ เรื่อง The Vacation
11. Award for Outstanding Presentation of Thailand - NAKHON-SI-THAMMARAT ทีมจากฟิลิปปินส์ เรื่อง Where the wind blows
12. Award for Outstanding Presentation of Thailand – LOEI ทีมจากฟิลิปปินส์ เรื่อง Sanun
และรางวัลการประชาสัมพันธ์ทางโซเชียลมีเดีย (Award for Social Media Presentation) เพื่อส่งเสริมการเผยแพร่ผลงานผ่านทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งอยู่ในความนิยมสากลในขณะนี้ พิจารณาจากผลงานภาพยนตร์และแผนงานประชาสัมพันธ์ทางโซเชียมีเดีย จำนวน 1 รางวัล ประกอบด้วย เงินรางวัล จำนวน 30,000 บาท พร้อมโล่ประกาศเกียรติคุณ ได้แก่ ผลงานภาพยนตร์เรื่อง Sanun จากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งลงพื้นที่ถ่ายทำที่จังหวัดเลย
ทั้งยังมีการการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณมอบให้แก่ผู้กำกับภาพยนตร์เกาหลี 1 รางวัล "Amazing Thailand Film Challenge Mentor Award" ได้แก่ Mr.Dong Hyun Min ผู้กำกับรุ่นใหม่ที่มีผลงานทั้งภาพยนตร์ ภาพยนตร์สั้น และแอนิเมชั่น เพื่อโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด และรางวัลผู้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย Honorable Awards จำนวน 5 รางวัล ได้แก่
1. สหจักร บุญธนกิจ - บุคคลผู้มีผลงานและเป็นที่รู้จักในวงการหนังต่างประเทศ เป็นนักแสดงที่มีผลงานมากมาย รวมถึงหนังต่างประเทศในระดับฮอลลีวูด อาทิ Only God Forgives, Elephant white, Beyond Border, และ The Lady ผลงานกำกับของ ลุก แบซง ที่มีการมาถ่ายทำในไทยด้วย
2. ป้อง ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์ - นักแสดงชายที่ประสบความสำเร็จ มีผลงานมากมายที่สร้างชื่อเสียงทั้งในไทยและต่างประเทศ นอกจากได้รับรางวัลการันตีฝีมือทางการแสดงในประเทศไทยแล้ว ยังได้รับความนิยมชื่นชอบจากแฟนคลับชาวจีน และมีผู้ติดตามผลงานอย่างล้นหลาม นอกจากนี้ยังได้ร่วมเล่นละครที่ประเทศจีนในเรื่อง Love Jewelry ประกบซุปเปอร์สตาร์จีน หลอเจียเหลียง และนางเอกสาวโหลอี้เซียว ทำให้เขาได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และได้รับรางวัลดารานำชายต่างประเทศยอดนิยม The Most Popular Foreign Actor จากงาน TV Drama Awards จากปักกิ่ง ประเทศจีน นับเป็นเกียรติและนำมาซึ่งชื่อเสียงให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก
3. อนันดา เอเวอริงแฮม - เป็นที่รู้จักในฐานะนักแสดงชายฝีมือเยี่ยมที่มีผลงานในวงการภาพยนตร์ ทั้งไทย และต่างประเทศ รวมไปถึงหนังร่วมลงทุนอย่างเช่น สบายดีหลวงพระบาง หนังร่วมทุนไทย-ลาว, โลงต่อตายหนังร่วมทุนไทย-ฮ่องกง-สิงคโปร์, หนังสิงคโปร์ The Leap Years ซึ่งทำให้เขาได้รับรางวัลสาขาภาพยนตร์หลายรางวัล อนันดาถือเป็นบุคคลสำคัญในวงการภาพยนตร์ที่ผลักดันให้หนังไทยเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ล่าสุดเขาได้ขึ้นแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ สร้างละครซีรี่ย์ Full House เวอร์ชั่นไทย ที่โด่งดังในจีนเป็นอย่างมาก
4. ไมค์ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล - ศิลปิน นักร้อง นักแสดง ที่มีโอกาสร่วมงานกับ ค่ายจอห์นนี่ส์ ณ Tokyo International Forum ถูกขนานนามโดยสื่อมวลชนญี่ปุ่นว่าเป็น ไทยจูเนียร์ และได้รับรางวัลต่างๆมากมาย ทั้งในไทยและในญี่ปุ่น ผลงานด้านการแสดง ละครโทรทัศน์ และภาพยนตร์ ทำให้ยิ่งมีชื่อเสียงมากขึ้นโดยเฉพาะนละครซีรี่ย์เรื่อง Full House ที่ทำให้โด่งดังไปถึงประเทศจีนจนมีแฟนคลับมากมาย มีผลงานบทสัมภาษณ์ต่างๆ ตามสื่อชั้นนำในประเทศจีน ทางด้านภาพยนตร์มีผลงานการแสดงในเรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย และฮาชิมะ โปรเจค ไม่เชื่อต้องลบหลู่
5. ออม สุชาร์ มานะยิ่ง - ดารานักแสดง ที่มีชื่อเสียงและแฟนคลับมากมายทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็นนักแสดงที่แจ้งเกิดจากผลงานภาพยนตร์หลายเรื่อง หนึ่งในภาพยนตร์ที่ทำให้เป็นที่รู้จักในประเทศจีน คือเรื่อง Yes or No อยากรักก็รักเลย และ ละครซีรี่ย์ Full House วุ่นนักรักเต็มบ้าน กับ พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล ที่ทำให้ทั้งคู่เป็นที่รู้จัก โด่งดัง สร้างผลงานและชื่อเสียงในประเทศจีนมากมาย
นอกจากนี้ความพิเศษของการจัดงานที่ปีนี้ยังเน้นการมีส่วนร่วมกับประชาชน โดยให้คนไทยทุกคนสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเผยแพร่ความงดงามทางทัศนียภาพและวิถีชีวิตแบบไทยๆ ตามแนวนโยบาย ปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทยของรัฐบาล ด้วยการส่งภาพถ่ายเซลฟี่ของตนเองกับสถานที่ท่องเที่ยว 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ทางอินสตาแกรม และแฮชแท็กมาที่ #TIFDF2015 หรือ #DOTThailand เพื่อร่วมประกวดผลงานภาพถ่ายของตนเองและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความภาคภูมิใจในประเทศไทย ผู้ที่ชนะการประกวดจะได้เข้าร่วมในงานปิดเทศกาลและเดินพรมแดง ใกล้ชิดกับดาราชื่อดัง พร้อมทั้งตั๋วเครื่องบินเดินทางท่องเที่ยวในประเทศจำนวน 12 รางวัล รางวัลละ 1 ที่นั่ง ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมโดยมีผู้ร่วมสนุกทั้งสองแฮชแท็ก เป็นจำนวนมาก