"ข้าวกระเพราไก่" เมนูโปรดทัพนักกีฬาไทยในศึกโอลิมปิกเกมส์ ค.ศ.2016 โดนเรียกร้องมากที่สุด รองลงเป็นเกี๊ยวกุ้งต้มยำ ด้าน "ซีพี" ส่งเจ้าหน้าที่เสิร์ฟถึงที่ พร้อมเผยทุกเมนูได้รับการคัดสรรเป็นอย่างดี โดยได้หารือกับนักโภชนาของ กกท. เน้นสะอาด ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย และเหมาะสมกับนักกีฬามากที่สุด ขณะที่ "ทูตไทย" ยกนิ้ว อาหารอร่อย ช่วยสร้างพละกำลังให้นักกีฬามีร่างกายที่แข็งแรง มั่นใจพร้อมลงสนามสู้ศึก "ริโอ เกมส์ 2016"
ตามที่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงสนับสนุนด้านอาหาร และ การสื่อสาร เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่นักกีฬาไทยในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่นครรีโอ เดจาเนโร ประเทศบราซิล ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่น (ช้ากว่าประเทศไทย10 ชั่วโมง) นายพิชยพันธ์ ชาญภูมิดล เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงบราซิลเลีย ประเทศบราซิล ได้เดินทางมาเยี่ยมศูนย์ไทยเฮ้าส์ ซึ่งเป็นที่ให้บริการอำนวยความสะดวกทุกด้านกับทัพนักกีฬาไทย โดยเฉพาะการปรุงอาหารไทยเสิร์ฟอย่างเต็มที่ รวมทั้งยังเป็นที่ตั้งของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ซึ่งได้นำอาหารแช่แข็งมาสนับสนุนนักกีฬาไทยทีมชาติไทยในครั้งนี้ด้วย โดย นายพิชยพันธ์ กล่าวว่า ถือเป็นแนวคิดที่มากในการปรุงอาหารไทยเพื่อให้นักกีฬาได้รับประทาน เนื่องจากทราบมาว่าทุกครั้งที่ผ่านมานักกีฬาไทยมักมีปัญหาในเรื่องของการเบื่ออาหารหรืออาหารไม่ถูกปาก ดังนั้น การที่นักกีฬาไทยได้รับประทานอาหารไทยเหมือนกับตอนอยู่เมืองไทย เชื่อว่าจะทำให้มีสภาพร่างกายที่พร้อมสมบูรณ์ที่จะลงสนามสู้ศึกอย่างเต็มที่แน่นอน
อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายวันที่ผ่านมา แม้จะยังไม่มีพิธีเปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ทาง ซีพี ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมด้วยอาหารแช่แข็งหลากหลายเมนู เพื่อนำมาเสิร์ฟให้ทัพไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ให้เจ้าหน้าที่อุ่นอาหารให้อย่างดีก่อนนำไปส่งให้ทัพนักกีฬาไทยที่หมู่บ้านนักกีฬา หรือมารับอาหารแช่แข็งได้ด้วยตนเองที่ไทยเฮาส์ วันละ 2 ครั้ง ช่วงเช้าและช่วงเย็น โดยนักกีฬาสามารถแจ้งจำนวน เมนูอาหารที่ต้องการ และสถานที่รับอาหาร จากนั้นเจ้าหน้าที่ของซีพีจะเดินทางไปส่งอาหารได้ตามที่นักกีฬาต้องการ
สำหรับเมนูที่นักกีฬาไทยชื่นชอบมากที่สุดจะเป็นข้าวกระเพราไก่ รองลงมาจะเป็นเกี๊ยวกุ้งต้มยำ ส่วนใหญ่จะเป็นเมนูที่มีรสชาติเผ็ดจะเป็นที่ชื่นชอบมาก โดยเมนูอาหารที่นำมาทั้งหมดได้ปรึกษากับนักโภชนาการของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แล้ว พบว่าจะต้องเน้นที่ถูกต้องตามตามหลักโภชนาการที่นักกีฬาต้องการเป็นสำคัญ