สำหรับความร่วมมือที่สำคัญเป็นอันดับต้นๆ คือการสร้างระบบอัตโนมัติรองรับกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อให้บริการด้านการธนาคารและบริการที่เกี่ยวข้องแก่ธุรกิจที่มีส่วนร่วมในกิจกรรมทางเศรษฐกิจกับต่างประเทศ รวมถึงการผนวกรวมบริการด้านการธนาคารกับแพลตฟอร์ม RSTrade (www.rstradehouse.com) โดยธนาคาร Novikombank จะใช้ศักยภาพในด้านต่างๆ เพื่อดำเนินโครงการร่วมกันโดยมีเป้าหมายในการให้บริการทางการเงินในระบบดิจิทัล
คุณ Nikolay Volobuev รองซีอีโอของ Rostec และประธาน RSBC กล่าวว่า "วัตถุประสงค์หลักของข้อตกลงนี้คือ การลดต้นทุนบริการให้กับบริษัทจากรัสเซียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ใช้งานแพลตฟอร์ม RSTrade รวมถึงทำให้การค้นหาและการรับบริการทางการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสนับสนุนจาก Rostec ทำให้เราสามารถสร้างสองกลไกที่มีประสิทธิภาพเพื่อพัฒนาความร่วมมือระหว่างธุรกิจของรัสเซียกับเอเชีย นั่นคือแพลตฟอร์มออนไลน์และศูนย์ส่งเสริมบริษัทไฮเทครัสเซียในต่างประเทศที่สิงคโปร์ ขณะนี้ เรากำลังดำเนินการอย่างแข็งขันเพื่อยกระดับการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบริษัทจากรัสเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย และอีกหลายประเทศในภูมิภาค ตามแผนที่วางไว้"
ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตั้งเป้าว่าจะเริ่มให้บริการด้านการธนาคารในระบบดิจิทัลและระบบ Single Window แก่ลูกค้าจากรัสเซียรวมถึงอีกหลายประเทศในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชียและอาเซียนภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้สามารถให้บริการสนับสนุนทางการเงินเพื่อรองรับการทำธุรกรรมที่หลากหลายผ่านอินเทอร์เฟซของ RSTrade โดยไม่จำเป็นต้องทำข้อตกลงเพิ่มเติม
บริการออนไลน์ที่ปรับตามความต้องการเฉพาะของลูกค้าจะให้บริการแก่ผู้ใช้แพลตฟอร์ม RSTrade เมื่อทำธุรกรรมผ่านบัญชีส่วนตัวบนแพลตฟอร์มดังกล่าว นอกจากนั้นยังมีการให้บริการดังกล่าวแบบแยกต่างหากในเซคชั่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารข้ามประเทศ
RSTrade เป็นอีแพลตฟอร์มแบบ B2B ที่ให้บริการข้อมูล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อโปรโมทสินค้าอุตสาหกรรมของภาคเอกชนรัสเซียในตลาดแปซิฟิกริม รวมถึงพัฒนาความร่วมมือระหว่างบริษัทจากรัสเซียและประเทศต่างๆในภูมิภาคดังกล่าว แพลตฟอร์มนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การทำให้การผลิตตามสัญญาเป็นระบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างประเทศในภาคการผลิต ปัจจุบัน บริษัทราว 82,000 แห่ง จาก 23 ประเทศในยุโรปและเอเชียต่างใช้แพลตฟอร์ม RSTrade ซึ่งรองรับภาษารัสเซีย อังกฤษ อินโดนีเซีย และจีน ทั้งยังผนวกรวมกับ CamelOne ชุมชนอิเล็กทรอนิกและแพลตฟอร์มโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค ซึ่งบริหารโดยบริษัท vCargo Cloud ในสิงคโปร์