นางศุภากรณ์ ปรีชา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดับบลิว ซี จี ไดมอนด์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจิวเวลรี่แบรนด์ WCG DIAMOND เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจจิวเวลรี่ของไทยในปี 2563 จะมีการขยายตัวค่อนข้างน้อย เนื่องจากปัจจัยหลายอย่างจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะเรื่องของเศรษฐกิจและการเมืองที่ไม่มีเสถียรภาพในขณะนี้ จึงทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนระมัดระวังในการใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น แต่ธุรกิจนี้ยังไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ย่ำแย่มากนัก เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการต้องปรับตัวปรับกลยุทธ์รอบด้าน เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า ทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในด้านการดีไซน์ การเพิ่มคุณประโยชน์หรือเพิ่มคุณค่าให้ตัวสินค้าให้มากขึ้นและมุ่งเจาะตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่วัยทำงาน เพราะฉะนั้น เครื่องประดับในปัจจุบันจะออกแนวแฟชั่น แล้วมีการลดสเกลลงมาให้พอจับจ่ายและจับต้องได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้แล้ว ผู้ประกอบการจะต้องพัฒนาสินค้าให้สามารถตอบโจทย์และเข้าถึงความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะต้องมีการวิเคราะห์ตลาดและศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้การออกแบบดีไซน์เครื่องประดับเพชรตรงตามกระแสนิยมของกลุ่มลูกค้า ที่ผ่านมา WCG DIAMOND ได้ให้ความสำคัญกับการดีไซน์ที่หลากหลายและมีสินค้าให้เลือกกว่า 5,000 ชิ้นในแต่ละเดือน ซึ่งสินค้าที่ขายดีคือแหวนเพชรคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 70 ส่วนอีก 30% เป็นเครื่องประดับประเภทอื่น ๆ และคาดว่าในปี 2020 สินค้าประเภทแหวนจะยังคงได้รับความนิยมสูงสุดเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ บริษัทฯได้ให้ความสำคัญกับการศึกษาเทรนด์การตลาดและประชาสัมพันธ์ โดยการสร้างเอกลักษณ์ในการทำการตลาดที่แตกต่าง เช่น การประมูลเพชรออนไลน์ในรูปแบบการจัดรายการวาไรตี้สนุกสนานเป็นกันเอง ส่วนการทำการตลาดออฟไลน์นอกจากจะทำการตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายแล้ว ในปีนี้ได้เปิดให้บริการขายปลีกสำหรับลูกค้ารายย่อย ณ สำนักงานใหญ่ โครงการเวนิสดิไอริส วัชรพล และสาขาแม็คโครศรีนครินทร์
ผู้ที่สนใจข้อมูลสินค้าหรือการประมูลเพชรออนไลน์ ติดตามได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจ ขายส่งเพชรแท้ WCG DIAMOND หากสนใจจะให้แบรนด์ WCG DIAMOND ผลิตเครื่องประดับเพชร (OEM) หรือต้องการชมสินค้าและศึกษาข้อมูลด้านการลงทุนเพื่อต้องการเป็นตัวแทนจำหน่าย สามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ www.wcgdiamond.com หรือโทรศัพท์ 02-0684343ต่อ102 และ 095-0528855