นายธวัช มานะวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท สเต็ป ฟอร์เวิร์ด กรุ๊ป จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ SMARTHOME เปิดเผยว่า “บริษัทฯ ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเป็นเวลากว่า 7 ปี และเดินหน้าในการนำเสนอเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความหลากหลาย สอดคล้องกับความต้องการในการใช้งานของคนไทย ภายใต้แบรนด์ SMARTHOME กับความโดดเด่นของการเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบสนองรูปแบบชีวิตแนวใหม่ที่มาพร้อมกับคุณภาพ ราคาที่จับต้องได้ ดีไซน์สวยงาม พร้อมฟังก์ชั่นในการใช้งานได้อย่างเต็มที่ การันตีความมั่นใจด้วยการรับประกันสินค้า ทุกชิ้นเป็นระยะเวลา 3 ปี พร้อมบริการหลังการขาย โดยช่วงแรกในการเข้ามาทำตลาด แบรนด์ SMARTHOME เป็นที่รู้จักจากกลุ่มสินค้าประเภทเตาปิ้งย่างอเนกประสงค์พร้อมหม้อสุกี้ ด้วยจุดเด่นที่สามารถถอดล้างได้ และมีหัวปรับอุณหภูมิ แยก 2 หัวระหว่างหม้อต้มกับเตาย่าง ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ล่าสุด SMARTHOME ได้สร้างปรากฏการณ์อีกครั้ง ด้วยการเป็นหนึ่งในผู้นำเทรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าเพื่อสุขภาพ กับความสำเร็จอย่างล้นหลามของกลุ่มสินค้าหม้อทอดไร้น้ำมัน SMARTHOME AIR FRYER โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ที่หลายบริษัทได้มีนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน หรือ Work From Home ผู้บริโภคได้ให้ความสำคัญกับการประกอบอาหารเอง และเน้นอาหารเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น โดยหม้อทอดไร้น้ำมันสามารถประกอบอาหารได้ทั้งคาวและหวาน อาหารประเภททอด อบ ปิ้ง ย่างไร้ควัน อาหารผู้ใหญ่ อาหารสำหรับเด็ก ด้วยความสะดวกรวดเร็วและที่สำคัญใช้งานได้ง่าย จึงทำให้ความต้องการหม้อทอดไร้น้ำมันสูงขึ้น โดยเฉพาะเดือนเมษายนเดือนเดียวมีอัตราการเติบโตของยอดขายในกลุ่มสินค้าหม้อทอดไร้น้ำมัน SMARTHOME AIR FRYER เพิ่มสูงกว่า 64% เมื่อเทียบกับยอดขายในเดือนมกราคม”
นายธวัชกล่าวต่อไปว่า “เหตุผลที่ยอดขาย SMARTHOME AIR FRYER เติบโตอย่างต่อเนื่อง มาจากการที่เรามีทางเลือกให้กับลูกค้าด้วยจำนวนรุ่นผลิตภัณฑ์ที่มีมากถึง 18 รุ่น ด้วยความจุตั้งแต่ 2.0 – 3.5 ลิตร โดยรุ่นที่ขายดี 3 อันดับแรก ได้แก่ หม้อทอดไร้น้ำมัน SMARTHOME AIR FRYER รุ่น MV-021 ความจุ 3.5 ลิตร กำลังไฟ 1,300 วัตต์ ได้รับความนิยมอันดับ 1 SMARTHOME AIR FRYER รุ่น MV-004 ความจุ 2.0 ลิตร กำลังไฟ 1,000 วัตต์ และ SMARTHOME AIR FRYER รุ่น MV-014 ความจุ 2.0 ลิตร กำลังไฟ 1,200 วัตต์ ได้รับความนิยมตามลำดับ และทางบริษัทฯ ได้มีแผนงานที่จะเพิ่มจำนวนรุ่นผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมมากถึงอีก 20 รุ่น โดยเน้นความจุที่เพิ่มขึ้น โดยจะมีขนาดความจุที่ 4.5 – 5.5 ลิตร
ในส่วนของช่องทางการจัดจำหน่าย SMARTHOME AIR FRYER มีจำหน่ายทั้งในช่องทาง Online ผ่านทาง www.smart-home.co.th และ www.facebook.com/SFGSmarthome.com รวมถึง Online marketplace platform ยอดนิยมอย่าง Lazada และ Shopee อีกทั้งยังจัดจำหน่ายผ่านช่องทาง Offline ทั้งการขายผ่านรายการโทรทัศน์ รวมถึงช่องทางในโมเดิร์นเทรดทั้ง บิ๊กซี และ เทสโก้โลตัส ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน ท็อปส์ซูเปอร์สโตร์ โฮมโปร ร้านอมรศูนย์รวม อีเล็คโทรนิคส์ และผ่านช่องทางแค็ตตาล็อกฟรายเดย์ 7-Catalog เป็นต้น โดยมีสัดส่วนยอดขายผ่านช่องทางออนไลน์ 60% และช่องทาง Offline ที่ 40% ทั้งนี้ เพื่อขยายการรับรู้และเข้าถึงคนในวงกว้างมากยิ่งขึ้น ทางบริษัทฯ มีแผนที่จะขยาย ช่องทางการจัดจำหน่ายเพิ่มเติมไปยัง แม็คโคร โกลบอลเฮ้าส์ ดูโฮม ไทวัสดุ และศูนย์การค้าเดอะมอลล์ เป็นต้น
ในส่วนของแผนการตลาดและส่งเสริมการขาย ทางบริษัทฯ เน้นสร้างความคุ้มค่าให้กับลูกค้า ด้วยโปรโมชั่นพิเศษทุกเดือน เช่น การจับคู่ขายกับเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ รวมถึงเป็นสินค้าพรีเมี่ยมขายคู่กับแผนกอาหารสด นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัวแคมเปญโฆษณา #แด่ชีวิตที่ไร้มัน บนช่องทางออนไลน์ โดยมุ่งหวังให้ลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ แม่บ้าน รวมถึงกลุ่มเบบี้บูม หันมาใส่ใจสุขภาพการกิน ด้วยวิธีง่ายๆ พร้อมความสะดวกสบายที่ได้จากหม้อทอดไร้น้ำมัน
https://www.facebook.com/watch/?v=347643339764963
“จากแผนงานที่วางไว้ ทางบริษัทฯ มั่นใจว่ายอดขาย SMARTHOME AIR FRYER จะเติบโตอย่างก้าวกระโดด และจะเป็นกลุ่มสินค้าเรือธงที่จะผลักดันยอดขายรวมของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องได้อย่างแน่นอน” นายธวัชกล่าว
