บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด (บลจ.ทหารไทย) ยึดมั่นในเจตนารมณ์ของการเป็น“คู่ชีวิตการลงทุน” ด้วยการจัดสัมมนาใหญ่ “TMBAM - Global Bond Market: Outlook & Strategy” เพื่อผู้ถือหน่วยลงทุนของบริษัทฯ และผู้สนใจทั่วไป โดยเชิญกูรูด้านการลงทุนในพันธบัตรทั่วโลก ที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ คือ Mr.Michael Hasenstab ผู้จัดการกองทุน Templeton Global Bond Fund ช่วยเปิดมุมมองการลงทุนระดับโลก พร้อมกูรูด้านการเงินการลงทุนของประเทศไทยร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ในวันที่ 28 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา ณ ห้อง World Ballroom, Centara Grand Hotel โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจและให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจ การลงทุนในปัจจุบัน และทิศทางในอนาคต เพื่อให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้จัดทัพลงทุนให้เหมาะสมกับภาวะตลาด นอกจากนั้นยังได้เสนอแนวทางเปิดโลกทัศน์ใหม่เพื่อสร้างโอกาสในการก้าวสู่การลงทุนระดับนานาชาติ โดยเฉพาะผ่านทางการลงทุนในพันธบัตรทั่วโลก ซึ่งจะช่วยเติมเต็มศักยภาพทางการลงทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้ดียิ่งขึ้น
โดยภายในงานประกอบด้วยการสัมมนาและการบรรยายที่น่าสนใจ 2 หัวเรื่อง คือในช่วงต้นเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ของ Dr. Michael Hasenstab, Senior Vice President and Co-Director, Franklin Templeton Fixed Income Group ในหัวข้อ “Global Bond Market: Outlook & Strategy” ซึ่ง Dr. Hasenstab เป็นกูรูทางการลงทุนในพันธบัตรทั่วโลกที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก โดยได้รับรางวัลต่างๆมากมาย อาทิเช่น Morningstar’s Fund Managers of the Year 2010, The Top Mutual Funds 2010 — Global Bonds by Bloomberg และ The Top U.S. and Global Bonds 2009 by Bloomberg เป็นต้น และช่วงที่สองซึ่งโดยได้รับเกียรติจากกูรูเศรษฐกิจ การเงินการลงทุนชั้นนำของประเทศไทย ได้แก่ ดร.สันติ กีระนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) คุณพีร์ ยงค์วณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด และ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด เป็นการเสวนาในหัวข้อ “Dynamic Global Bond Space : The Ratings’ Perspectives”
สำหรับประเด็นหลักที่ Dr. Michael Hasenstab ได้บรรยายภายในงานสัมมนาในช่วงแรกคือ ปรัชญาการบริหารเงินลงทุนใน Templeton Global Bond Fund ซึ่งเป็นกองทุนหลัก (Master Fund) ของ กองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund นั้นจะเน้นดำเนินกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับมุมมองเศรษฐกิจระยะยาวในกรอบตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี โดยให้ความสำคัญกับการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ซึ่ง ณ ปัจจุบัน กองทุนมีการลงทุนในกว่า 30 ประเทศ ภายใต้สกุลเงินต่างๆ กว่า 20 สกุลเงินทั่วโลก โดยกองทุนมีทางเลือกในการสร้างผลตอบแทนที่หลากหลายทั้งจากผลตอบแทนจากดอกเบี้ยรับ และการเพิ่มค่าของพันธบัตร และด้านอัตราแลกเปลี่ยน จึงทำให้กองทุนมีเครื่องมือที่สามารถใช้สร้างผลตอบแทนที่ดีได้ทั้งในช่วงเศรษฐกิจดีหรือสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย
สำหรับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในช่วง 2-3 ปีข้างหน้านี้ Dr. Hasenstab กล่าวว่าการบริหารพอร์ตการลงทุนในตราสารหนี้ทั่วโลกจะมีความท้าทายขึ้นกว่าทศวรรษก่อน เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยทั่วโลกมีการกลับทิศเป็นขาขึ้น ซึ่งเกิดจากเหตุผลหลักคือการเติบโตของเศรษฐกิจ ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่มากขึ้น ประกอบกับการที่ระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และ สหภาพยุโรป มีการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบ ดังนั้นในปี 2011 นี้ การกำหนดประเทศที่กองทุนจะเข้าลงทุนจะต้องให้ความสำคัญกับ นโยบายระดับประเทศ คือนโยบายการคลัง การเงิน และนโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยประเมินว่าประเทศดังกล่าวจะสามารถดำเนินนโยบายได้เหมาะสมเพียงใด ภายใต้แรงกดดันของอัตราเงินเฟ้อ และกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายที่มีความผันผวนทั่วโลก และการรักษาเสถียรภาพในอัตราแลกเปลี่ยนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนของ Templeton Global Bond Fund จึงเน้นการลงทุนในตราสารที่มีอายุสั้น (Short Duration) เพื่อลดผลกระทบทางลบจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากจากเลือกประเทศที่เข้าลงทุน และจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยน โดยนอกไปจากการประเมินด้านนโยบายมหภาคของแต่ละประเทศแล้ว จะมุ่งลงทุนในประเทศที่มีหนี้สาธารณะน้อย มีอัตราการเติบโตที่ดี และมีโอกาสที่ค่าเงินจะแข็งค่าขึ้น โดยในปัจจุบัน Templeton Global Bond Fund เน้นลงทุนในประเทศในแถบทวีปเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) และประเทศในยุโรปตอนเหนือ ซึ่งได้ประโยชน์จากการเติบโตของภาคการส่งของของเยอรมนี อาทิประเทศสวีเดน โปแลนด์ และฮังการี เป็นต้น โดยในช่วงท้ายนั้น Dr. Hasenstab ยังได้ให้ความเห็นว่าหากผู้ลงทุนลองพิจารณาโอกาสการลงทุนนอกเหนือไปจากการลงทุนในประเทศและนอกเหนือจากประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และพัฒนาแล้ว ก็จะสามารถเพิ่มโอกาสทางการลงทุนได้มากขึ้น
สำหรับในช่วงที่สองซึ่งเป็นการบรรยายในหัวข้อ “Dynamic Global Bond Space: The Ratings’ Perspective” นั้นทุกท่านได้เห็นสอดคล้องกันถึงพลังและพลวัตรของกระแสโลกาภิวัตน์ที่เกิดจากความเชื่อมโยงของระบอบการเงิน การค้า ของประเทศต่างๆในโลก ส่งผลให้ความผันผวนจากการลงทุนเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนั้นการลดความผันผวนจากการลงทุน และการกระจายความเสี่ยงของการลงทุน ทั้งในด้านประเภทของสินทรัพย์ และประเทศที่จะลงทุนจึงเป็นปัจจัยสำคัญเพื่อให้การลงทุนประสบผลสำเร็จ โดยทางเลือกใหม่ๆ เช่นการก้าวสู่การลงทุนระดับโลกผ่านทางการลงทุนในกองทุนที่มีผู้จัดการกองทุนที่ได้รับการยอมรับ มีความเป็นมืออาชีพ มีทีมงานที่เพียบพร้อม มีการกระจายการลงทุนไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วโลกเพื่อแสวงหาโอกาสของผลตอบแทน และช่วยกระจายความเสี่ยงจะเป็นแนวทางที่สำคัญทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ทั้งนี้ คุณพีร์ ยงค์วณิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าผู้ลงทุนอาจพิจารณาข้อมูลของพันธบัตร หุ้นกู้หรือกองทุนที่จะเข้าไปลงทุนจากสถาบันจัดอันดับเครดิตและความน่าเชื่อถือ หรือสถาบันการจัดอันดับกองทุนซึ่งเป็นตัวกลางที่ได้รับการยอมรับ เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจลงทุนได้ อาทิเช่น การจัดอันดับกองทุนของสถาบันมอร์นิ่งสตาร์ในระดับนานาชาตินั้น นอกจากการประเมินในด้านปริมาณแล้วยังมีการประเมินเชิงคุณภาพที่เรียกว่า “5P” คือ People Management, Process, Parent, Price และ Performance ซึ่งกองทุนต่างๆที่ได้รับรางวัลของสถาบันจะต้องถูกประเมินหรือตรวจสอบมาแล้วเป็นอย่างดี อันจะช่วยรับประกันถึงคุณภาพ และช่วยให้การพิจารณาการลงทุนของผู้ลงทุนมีความสะดวกสบาย และสร้างความมั่นใจได้ยิ่งขึ้น
สำหรับ ดร.สันติ กีระนันทน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ทริส) ได้เพิ่มเติมแนวทางเพื่อผู้ลงทุนใช้สำหรับการพิจารณาเลือกลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้เพิ่มเติมว่าให้พิจารณาถึงความเสี่ยงหลัก 3 ด้านคือ ด้านเครดิต ด้านผลตอบแทน และด้านการลงทุนต่อเนื่องหรือที่เรียกว่า Reinvestment Risk ซึ่งโดยทั่วไปผู้ลงทุนมักมองข้าม Reinvestment Risk ทำให้ผู้ลงทุนไม่สามารถลงทุนได้เต็มศักยภาพ นอกไปจากนั้นก่อนการนำข้อมูลของสถาบันการจัดอันดับเครดิตและความน่าเชื่อถือไปใช้ ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจคำจำกัดความและมุมมองที่แต่ละสถาบันให้ความสำคัญ ซึ่งสถาบันแต่ละแห่งจะมีความแตกต่างกัน เพื่อให้การตัดสินใจลงทุนไม่ผิดพลาดไปจากวัตถุประสงค์หลักที่ตนเองต้องการ
นอกจากนี้ ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนทหารไทย จำกัด ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าแต่เดิมที่ผู้ลงทุนไทยมีทางเลือกในการลงทุนที่จำกัด และมักยึดติดกับการลงทุนในกองทุนที่นำเสนอกันทั่วไปคือกองทุนที่กำหนดผลตอบแทนและอายุของกองทุนล่วงหน้า (Fixed-Term Fund) โดยเฉพาะการลงทุนในกองทุนพันธบัตรรัฐบาลเกาหลีใต้เท่านั้น ทำให้ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถลงทุนได้อย่างเต็มศักยภาพอย่างแท้จริง นอกไปจากนั้น ภายใต้สถานการณ์ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย แรงกดดันของเงินเฟ้อ และสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก การตัดสินใจลงทุนจะยิ่งมีความยุ่งยาก และซับซ้อนมากยิ่งขึ้น โดยกองทุนเปิดทหารไทย Global Bond Fund จะช่วยตอบโจทย์การลงทุนในสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี และยังมีศักยภาพที่จะเป็น Core Asset หรือสินทรัพย์หลักที่ผู้ลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ เพราะกองทุนดังกล่าวมีลักษณะเป็น Feeder Fund ที่นำเงินไปลงทุนในกองทุนหลักคือ Templeton Global Bond Fund ซึ่งมีทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ สามารถเป็นทางเลือกใหม่ที่ช่วยการกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสของผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นกองทุนประเภทที่ผู้ลงทุนสามารถซื้อ-ขายได้ทุกวันทำการโดยไม่ถูกล็อคระยะเวลาไว้อีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนต้องพร้อมเรียนรู้และสร้างประสบการณ์การลงทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด โดยต้องพร้อมยอมรับความไม่แน่นอนจากการลงทุนในระยะสั้นหรือความผันผวนของ NAV ในแต่ละวัน เพื่อโอกาสของผลตอบแทน และเพื่อเติมเต็มศักยภาพในการลงทุนของตนเอง
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่
ส่วนบริหารภาพลักษณ์องค์กรและการตลาด
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด
โทร 02-636-1800 ต่อ 8748 และ 8749
เด่นพงศ์ จันทรดี / พิมพ์สุภาว์ วงศ์เมืองแก่น