- รุกตลาดธุรกิจพลังงาน และพลังงานทดแทน
- ใช้กลยุทธ์ win-win-win สร้างความเติบโตร่วมกับลูกค้าผู้ประกอบการและผู้ผลิต
- สะดวก รวดเร็ว ผ่านช่องทางสาขาธนาคารกรุงศรี และ Krungsri Business Center ทั่วประเทศ
กรุงศรีลีสซิ่ง ยกระดับความเป็นผู้นำธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ เปิดกลยุทธ์ win-win-win ในการสร้างความเติบโตไปด้วยกันกับลูกค้าผู้ประกอบการและผู้ผลิต พร้อมเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยการขยายฐานลูกค้าสู่อุตสาหกรรมพลังงานทุกกลุ่ม ทั้งพลังงานจากธรรมชาติและพลังงานทดแทน นอกเหนือจากความเป็นผู้นำตลาดในขณะนี้ ตั้งเป้าหมายสร้างความเติบโต 30% ในปี 2554
นายภูมิชาย วัชรพงศ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจลูกค้าเอสเอ็มอี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการบริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเมนท์ ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้ บริษัท อยุธยา ดีเวลลอปเมนท์ ลีสซิ่ง จำกัด หรือที่เป็นรู้จักกันโดยทั่วไปว่า กรุงศรี ลีสซิ่ง พร้อมรุกตลาดสร้างความเติบโตธุรกิจด้านการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินระดับสากลที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะสามารถตอบสนองความต้องการทางการเงินของธุรกิจในหลายๆ อุตสาหกรรมได้อย่างตรงจุด ในปัจจุบันกรุงศรี ลีสซิ่งมีลูกค้าในพอร์ตทุกขนาดตั้งแต่วงเงิน 10 — 1,000 ล้านบาท
“เราพร้อมให้บริการสินเชื่อแก่อุตสาหกรรมทุกขนาดด้วยการทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับลูกค้าและผู้ผลิต เพื่อสร้างประโยชน์และความเติบโตไปด้วยกันทั้ง 3 ฝ่ายในลักษณะ win-win-win กรุงศรี ลีสซิ่ง เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกธุรกิจการให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์ และมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจด้านนี้มานานทั้งการประเมินลักษณะธุรกิจของลูกค้า กำลังและการพัฒนาขีดความสามารถในการผลิตของผู้ผลิต ที่สำคัญคือเรารู้จักความต้องการของตลาดดี การทำงานที่มี synergy ร่วมกันนี้ จะส่งผลให้ทุกฝ่ายได้ประโยชน์เต็มที่และสามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีสู่ผู้บริโภคในที่สุด” นายภูมิชายกล่าว
“ในปีนี้ นอกเหนือจากธุรกิจที่เราเป็นผู้นำตลาด อาทิ อุตสากรรมการขนส่งและเครื่องมือแพทย์ เรายังมุ่งเน้นธุรกิจพลังงานและพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงอีกด้วย โดยกรุงศรี ลีสซิ่ง เป็นบริษัทแรกๆ ที่ให้สินเชื่อเช่าซื้อเครื่องจักรแก่ธุรกิจพลังงานมาอย่างต่อเนื่อง” นายภูมิชายกล่าวเพิ่มเติม กรุงศรี ลีสซิ่ง มีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2553 มีกำไรสุทธิเติบโต 41% และจำนวนสินเชื่อเติบโต 23% เมื่อเทียบกับปี 2552 สำหรับในปี 2554 นี้ บริษัทได้ตั้งเป้าหมายการเติบโตที่ 30%
นอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าและผู้ต้องการติดต่อผ่านทางช่องทางสาขาธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำนวน 587 สาขา และศูนย์ธุรกิจกรุงศรี (Krungsri Business Center) ที่ให้บริการลูกค้าธุรกิจอย่างครบวงจรทั้งด้านการให้คำปรึกษาทางการเงิน สินเชื่อ บริการด้านบริหารเงินสด ตลอดจนด้านการค้าต่างประเทศ สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าธุรกิจทั่วประเทศ