ร้อยละ 40
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (CGS) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC เปิดเผยว่า บริษัทได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 99.496 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในราคาเสนอขาย 1.80 บาทต่อหุ้น โดยจะเปิดให้จองซื้อสำหรับผู้ถือหุ้นของ CEN (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 28.3 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่11-14 มิถุนายน2555 ส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ Preemptive Right จะเสนอขายให้กับประชาชนทั่วไประหว่างวันที่ 18-20 มิถุนายน 2555 และคาดว่าสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ(mai) ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า "UWC"
การเสนอขายหุ้นไอพีโอของ UWC ในครั้งนี้ มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)
“ราคาขายหุ้นไอพีโอของ UWC ที่ 1.80 บาทต่อหุ้น ถือว่าเหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท โดยมีค่าพีอี เรโชว์ประมาณ 12 เท่า คิดเป็นส่วนลด (Discount) ประมาณ 30% เมื่อเปรียบกับค่าพีอี เรโชว์ของตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 19 เท่า ขณะเดียวกันปีนี้ UWC ยังได้เข้าประมูลงานใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างผลประกอบการให้ขยายตัวต่อเนื่อง และด้วยโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน ณ สิ้นปี 2554 ที่ระดับเพียง 0.66 เท่า ซึ่งภายหลังการเพิ่มทุนครั้งนี้ก็จะลดลงไปเหลือเพียง 0.3 เท่า จึงทำให้เชื่อมั่นว่าหุ้น UWC จะได้รับความสนใจอย่างสูงจากนักลงทุน”
นายวุฒิชัย ลีนะบรรจง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) หรือ UWC กล่าวว่า ภายหลังการระดมทุนครั้งนี้จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ UWC โดย บมจ.แคปปิทอล เอ็นจิเนียริ่ง เน็ตเวิร์ค หรือ CEN จะมี สัดส่วนการถือหุ้นภายหลังการเพิ่มทุนลดลงเหลือ 65.12% จากเดิมที่มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ 90.98% ซึ่งการดำเนินธุรกิจของ UWC หลังจากนี้จะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น เพราะ CEN มีนโยบายให้บริษัทลูกดำเนินธุรกิจและเติบโตอย่างแข็งแกร่งด้วยตัวเอง ซึ่งที่ผ่านมา UWC ก็สามารถบริหารธุรกิจให้เติบโตได้อย่างโดดเด่นอันจะเห็นได้จากปริมาณงานที่มีเพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องรวมถึงผลประกอบการสามารถขยายตัวได้ดี
เขากล่าวต่อว่า ในปีนี้ UWC มีแผนที่จะยื่นประมูลงานใหม่มูลค่ารวมกว่า 3,800 ล้านบาท เป็นงานประมูลจากภาครัฐ โดยส่วนใหญ่เป็นงานสายส่งไฟฟ้าแรงสูง 500 KV จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีกำหนดการประมูลไว้แล้ว ซึ่งบริษัทเป็น supplier เพียงไม่กี่รายที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ กฟผ. โดยบริษัทคาดว่าจะคว้างานใหม่ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40 จากที่ยื่นประมูลไป จากปัจจุบันที่มีงานในมือ (Backlog) มูลค่า 520 ล้านบาท และสำหรับปีนี้ UWC ตั้งเป้าหมายรายได้เอาไว้ที่ระดับประมาณ 1,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 25% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเป็นการรับรู้รายได้จากงานที่มีในมือและงานใหม่ที่จะประมูลได้เพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้
ดร.โอฬาร รัตนปราการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด(มหาชน) หรือ UWC กล่าวว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน คือ นำไปซื้อเครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อขยายกำลังการผลิต 30% และส่วนที่เหลือ 70% จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบเพื่อรองรับคำสั่งซื้อในอนาคต สำหรับผลประกอบการของ UWC ที่ผ่านมาในปี 2554 มีรายได้รวมจำนวน 637.40 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 30.94 ล้านบาท
“การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของบริษัท เพราะเป็นช่องทางในการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพรวมถึงได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าทางธุรกิจ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร และด้วยศักยภาพการขยายตัวทางธุรกิจ ผลการดำเนินงานเติบโตต่อเนื่อง และทีมงานมีประสบการณ์ มีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าน่าจะทำให้หุ้นน้องใหม่ UWC ได้รับความสนใจจากนักลงทุน” ดร.โอฬาร รัตนปราการ กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอื้อวิทยา กล่าวในที่สุด