บมจ. แอลดีซี เด็นทัล (LDC) เริ่มซื้อขายใน mai 2 ก.ย. นี้

จันทร์ ๐๑ กันยายน ๒๐๑๔ ๑๓:๒๘
บมจ. แอลดีซี เด็นทัล (LDC) พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 2 ก.ย. นี้ โดยเป็นผู้ให้บริการทางทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งเป็นหลักทรัพย์ลำดับที่ 9 เข้าจดทะเบียนใน mai ปีนี้

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. แอลดีซี เด็นทัล (LDC) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 2 กันยายน 2557 โดย LDC เป็น ผู้ให้บริการทางทันตกรรมทันตแพทย์เฉพาะทางด้วยคุณภาพระดับสูง ครบวงจร ภายใต้แบรนด์ “LDC” ปัจจุบันมีศูนย์ทันตกรรมให้บริการจำนวน 19 สาขา และคลินิกทันตกรรมทั่วไป 1 แห่ง ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกทั้ง LDC ยังมีสถาบันฝึกอบรมผู้ช่วยทันตกรรมของตัวเอง สำหรับผลิตบุคลากรสนับสนุนงานด้านทันตกรรม เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในอนาคต

LDC มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 280 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคาหุ้นละ 1.50 บาท เมื่อวันที่ 26 – 28 สิงหาคม 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 180 ล้านบาท โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 600 ล้านบาท มีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นแกนนำในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย

ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ LDC เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ LDC เป็นผู้ให้บริการด้านทันตกรรมรายแรกที่ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท โดยจะนำเงินระดมทุนครั้งนี้ ไปลงทุนขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ๆ ในแต่ละภูมิภาค ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ เพิ่มสัดส่วนรายได้ให้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ บริษัทวางเป้าหมายขยายสาขาใหม่ จำนวน 5 สาขา ภายใน 1 ปี

LDC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวชัยวัฒน์ ถือหุ้น 69.85% นายพิชิต ชินวิทยากุล 0.41% กลุ่มครอบครัวก่อธรรมฤทธิ์ 0.37% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไร (P/E ratio) ที่ 75 เท่า ซึ่งคำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (1 กรกฎาคม 2556 – 30 มิถุนายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.02 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองต่างๆทั้งหมด

ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.ldcdental.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา