ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) หลังจากเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในวันนี้ (26 พ.ย.) เป็นวันแรก เปิดตลาดที่ระดับ 9.50 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือเพิ่มขึ้น 72.72% เมื่อเทียบกับราคาไอพีโอที่ 5.50 บาท/หุ้น ก่อนที่จะมาปิดตลาดในระดับราคาสูงสุดที่ 11.90 บาท เพิ่มขึ้น 6.40 บาท หรือ 116.36% มูลค่าการซื้อขาย 11,913.32 ล้านบาท
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) เปิดเผยว่า รู้สึกประทับใจที่ราคาหุ้น MTLS ทะยานตัวเหนือราคาจองเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท ซึ่งมีประสบการณ์การทำธุรกิจมายาวนานกว่า 22 ปี การบริหารงานมีประสิทธิภาพและรัดกุม สัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำเพียง 1.64% รวมทั้งอัตราการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเอ็นพีแอล (Coverage Ratio) สูงถึงกว่า 280%
สำหรับเงินที่ได้จากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) ในครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 2,997.50 ล้านบาท บริษัทจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินจำนวน 659 ล้านบาท และเงินส่วนที่เหลือทั้งหมดจะนำไปใช้ในการขยายพอร์ตสินเชื่อตามแผนธุรกิจและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยเตรียมขยายสาขาเพิ่มเป็น 500 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ จากณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2557 มีสาขาจำนวน 464 สาขา และคาดว่าในปี 2560 จะขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ
“ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เรามีโอกาสโตเพิ่มเป็นเท่าตัว จากสาขา 500 แห่ง เป็น 1,000 แห่ง ทั่วประเทศ สินเชื่อเพิ่มขึ้นจาก 12,000 ล้านบาท ในสิ้นปีนี้ เป็น 25,000 ล้านบาท ในปี 2560 และอัตราความสามารถในการทำกำไรก็มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯแล้ว จะช่วยทำให้ต้นทุนทางการเงินของเราปรับตัวลดลง เพราะมีช่องทางในการระดมทุนที่หลากหลายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการออกตัวแลกเงิน (บีอี) หุ้นกู้ หรือการกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งต้นทุนดอกเบี้ยจะถูกลง ทำให้ความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น” นายชูชาติกล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง กล่าวอีกว่านอกเหนือจากสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทแล้ว MTLS พร้อมที่จะขยายธุรกิจไปสู่ตลาดนาโนไฟแนนซ์ สนองนโยบายของทางการที่ต้องการเพิ่มช่องทางให้กับประชาชนในระดับล่างที่ยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งสินเชื่อจากสถาบันการเงิน และมองว่าเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับบริษัทในอนาคต ซึ่งหากมีความชัดเจน MTLS ก็พร้อมดำเนินการได้ทันที เพราะมีทีมงานที่มีความชำนาญในการปล่อยสินเชื่อและติดตามหนี้ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีฐานลูกค้าที่มีคุณภาพดีและจำนวนมากเพียงพอ โดยปัจจุบันมีฐานลูกค้ากว่า 700,000 บัญชี
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่าสาเหตุที่ทำให้หุ้นของ MTLS ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั้งรายย่อยและสถาบัน เพราะถือเป็นเจ้าตลาดไมโครไฟแนนซ์ของเมืองไทยรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งทุกด้านรองรับ ไม่ว่าจะเป็นความเป็นเบอร์หนึ่งสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ เอ็นพีแอลและหนี้สูญที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรม การตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญที่เพียงพอและมีความแข็งแกร่ง โดยใช้แนวทางปฏิบัติตามมาตรฐานเดียวกับธนาคารพาณิชย์ ทำให้มี Coverage Ratio สูงถึงร้อยละ 280 ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งจะทำให้รายได้ของบริษัทสามารถขยายตัวอย่างต่อเนื่องในระยะยาว โดยปัจจุบันมีส่วนแบ่งการตลาดของสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักเพียงประมาณ 6% ของจำนวนรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนในประเทศที่เป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท นอกจากนี้ การที่บริษัทมีความพร้อมด้านเงินทุนมากขึ้นบริษัทยังมีโอกาสที่จะขยายพอร์ตสินเชื่อทะเบียนรถประเภทอื่นมากขึ้น
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯจะช่วยสนับสนุนให้ MTLS เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพราะทำให้สามารถระดมทุนผ่านเครื่องมือทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างคล่องตัว ต้นทุนการดำเนินธุรกิจลดลง ขณะเดียวกันธุรกิจยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมาก เพราะความต้องการสินเชื่อของคนในระดับรากหญ้ายังมีอีกเยอะ เพราะยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน” นายสมภพกล่าวในที่สุด