นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ.เพาเวอร์โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai วันที่ 19 ธันวาคม 2557 โดย PSTC เป็นผู้ออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้า ตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม สำหรับระบบสื่อสารโทรคมนาคม และดำเนินธุรกิจพลังงานทดแทนผ่านบริษัทย่อย ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้ง บนหลังคา (Solar Roof) ที่จ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 4 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 3.964 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ยังถือหุ้นร้อยละ 20 ในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา กำลังการผลิต 0.988 เมกะวัตต์
PSTC มีทุนชำระแล้ว 220 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 1,750 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 450 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในราคา หุ้นละ 0.65 บาท เมื่อวันที่ 9 และ 11-12 ธันวาคม 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 292.5 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,430 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เพาเวอร์โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) เปิดเผยว่า บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานทดแทนแบบครบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การบริการให้คำปรึกษา ออกแบบ และจัดหาผลิตภัณฑ์ รวมถึงการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ได้แก่ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานชีวมวล และพลังงานขยะ ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน โดยบริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลขนาด 0.990 เมกะวัตต์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป
PSTC มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มนายโสมพัฒน์ ไตรโสรัส ถือหุ้น 23.86% กลุ่ม บมจ.เอ็ม.วี.ที.คอมมิวนิเคชั่น ถือหุ้น 18.18% และนายพระนาย กังวาลรัตน์ ถือหุ้น 9.09% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ ต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 34.21 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา (1 ตุลาคม 56 – 30 กันยายน 57) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.019 บาท ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและทุนสำรองตามกฎหมายและทุนสำรองอื่นๆทั้งหมด
ในวันทำการแรกของเดือนมกราคม 2558 mai จะนำหลักทรัพย์จัดแยกเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม (mai Industry group) 8 กลุ่ม ตามลักษณะการประกอบธุรกิจ ซึ่ง PSTC จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มทรัพยากร (Resources)
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.pst.com และที่เว็บไซต์ www.mai.or.th
สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลได้ที่ฝ่ายสื่อสารองค์กร อารดา กุลตวนิช 0 2229 2796/ อรสิริ บุญแต้ม 0 2229 2799/ กนกวรรณ เข็มมาลัย0 2229 2048