“ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะยังคงมีความผันผวนเนื่องจากขาดปัจจัยบวก ประกอบกับผลกระทบของเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวต่อกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย และเป็นหนึ่งในปัจจัยเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ปัจจัยที่ยังขยายตัวได้ตั้งแต่ต้นปี การที่หลายประเทศออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางมายังไทย รวมถึงการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง ดังนั้น จากนี้ไปภาครัฐจะต้องมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบในประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะต่อไป” นางสาวธิดาศิริกล่าว
นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางผู้จัดการกองทุนของบลจ.กสิกรไทย ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีการปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์ที่เหมาะสม และมีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับคำแนะนำแก่ผู้ลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนระยะสั้นที่สามารถรับความผันผวนได้ค่อนข้างจำกัด ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนเพิ่มเติม และควรรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปที่สามารถรับความผันผวนได้ค่อนข้างสูง อาจมีการทยอยเข้าซื้อได้ โดยมองว่าในระยะกลางถึงยาว ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ ด้วยระดับราคาปัจจุบันที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว และโอกาสปรับลดลงไปมากกว่านี้มีอยู่จำกัด ทั้งนี้หากภาครัฐสามารถเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณได้เต็มที่ และสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้ น่าจะทำให้ภาพรวมในระยะยาวยังคงมีโอกาสเติบโตได้