บลจ.กสิกรไทยเผยเหตุการณ์ความไม่สงบ-เศรษฐกิจชะลอ กดดันตลาดหุ้นไทย พร้อมปรับลดเป้าหมายดัชนี SET ปลายปีที่ 1,400-1,450 จุด

พุธ ๑๙ สิงหาคม ๒๐๑๕ ๑๔:๔๓
นางสาวธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับกรณีการวางระเบิดบริเวณราชประสงค์ที่ผ่านมา ส่งผลให้ดัชนีหุ้นไทย (SET Index) ปรับตัวลดลงรุนแรงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคมที่ผ่านมา ทั้งนี้ล่าสุด (ณ 19 ส.ค. 58) ปิดตลาดครึ่งเช้าอยู่ที่ 1,378.04 จุด โดยปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 5.43 จุด หรือประมาณ 0.40% ทั้งนี้ภายหลังจากเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว หุ้นที่ได้รับผลกระทบค่อนข้างสูง คือหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว อาทิ กลุ่มโรงแรม การบินและขนส่ง โดยปรับตัวลดลงที่ประมาณ 7-10% ในขณะที่ตลาดโดยรวมปรับลดลงประมาณ 2.56% ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าลงประมาณ 0.70% มาอยู่ที่ 35.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ( ณ 18 ส.ค 58) จากความตื่นตระหนกของตลาด อย่างไรก็ตาม การอ่อนค่าของเงินบาทยังไม่น่ากังวลนัก เนื่องจากเป็นไปในทิศทางเดียวกับการอ่อนค่าของสกุลเงินอื่นๆในภูมิภาค อย่างไรก็ตามบลจ.กสิกรไทย ได้ปรับลดประมาณการดัชนีหุ้นไทยปลายปีลงมาอยู่ในช่วง 1,400-1,450 จุด เนื่องจากมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจเติบโตได้ช้ากว่าที่คาด โดยเฉพาะภาคการส่งออกและการลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชน ประกอบกับผลกระทบจากสถานการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ ทั้งนี้ คงต้องรอดูสถานการณ์ว่าจะสามารถกลับสู่ภาวะปกติได้เร็วแค่ไหนเพื่อประเมินผลกระทบในระยะต่อไป

“ในระยะสั้นตลาดหุ้นไทยจะยังคงมีความผันผวนเนื่องจากขาดปัจจัยบวก ประกอบกับผลกระทบของเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวต่อกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่สนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย และเป็นหนึ่งในปัจจัยเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ปัจจัยที่ยังขยายตัวได้ตั้งแต่ต้นปี การที่หลายประเทศออกประกาศเตือนนักท่องเที่ยวในการเดินทางมายังไทย รวมถึงการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจส่งผลต่อจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ และส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง ดังนั้น จากนี้ไปภาครัฐจะต้องมีการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณตามแผนกระตุ้นเศรษฐกิจให้เร็วขึ้นเพื่อบรรเทาผลกระทบในประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนให้กลับมา ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในระยะต่อไป” นางสาวธิดาศิริกล่าว

นางสาวธิดาศิริกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ทางผู้จัดการกองทุนของบลจ.กสิกรไทย ได้มีการติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีการปรับพอร์ตการลงทุนตามสถานการณ์ที่เหมาะสม และมีความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สำหรับคำแนะนำแก่ผู้ลงทุนในช่วงนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังคงมีความผันผวนสูง ผู้ลงทุนระยะสั้นที่สามารถรับความผันผวนได้ค่อนข้างจำกัด ยังไม่แนะนำให้เข้าลงทุนเพิ่มเติม และควรรอติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาวตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปที่สามารถรับความผันผวนได้ค่อนข้างสูง อาจมีการทยอยเข้าซื้อได้ โดยมองว่าในระยะกลางถึงยาว ตลาดหุ้นไทยยังมีความน่าสนใจ ด้วยระดับราคาปัจจุบันที่ปรับลดลงมาค่อนข้างมากแล้ว และโอกาสปรับลดลงไปมากกว่านี้มีอยู่จำกัด ทั้งนี้หากภาครัฐสามารถเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณได้เต็มที่ และสามารถแก้ไขปัญหาความไม่สงบได้ น่าจะทำให้ภาพรวมในระยะยาวยังคงมีโอกาสเติบโตได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๑๕ TRP คว้ารางวัลเกียรติยศ Siamrath Awards 2024 ตอกย้ำ ผู้นำศัลยกรรมตกแต่งเฉพาะบนใบหน้าของประเทศไทย
๑๑:๔๖ ผถห.PIMO-ไพโม่ อนุมัติปันผลงวดครึ่งหลังปี 66 หุ้นละ 0.03 บาทต่อหุ้น
๑๑:๑๘ การประชุมเตรียมงาน10 รอบ นักษัตรพระราชสมภพ
๑๑:๐๓ ผู้บริหารบางจากฯ แบ่งปันประสบการณ์เส้นทางการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน เชิญชวนช่วยกัน ลด ละ เริ่ม เพื่อโลกยั่งยืน ในงานสัมมนา Go Green 2024 : The Ambition of
๑๐:๑๔ 1 พ.ค. นี้ เตรียมพบกับฟิตเนสแห่งใหม่ ใจกลางศรีนครินทร์ กับบริการครบครัน ใกล้บ้านคุณ BB FITNESS@พาราไดซ์
๑๐:๑๐ HUAWEI Band 9 จับมือ 3 แพลตฟอร์ม Amado Shopping ช่องทางออนไลน์ Lazada และ Shopee ให้คุณเข้าถึงฟีเจอร์สมาร์ทวอทช์ด้วยราคาสมาร์ทแบนด์
๑๐:๔๙ ห้องอาหาร นิมมาน บาร์ แอนด์ กริล พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบจัดเต็มกับ เทศกาลบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่น สุดพิเศษ และ บุฟเฟ่ต์ Carvery Night
๑๐:๓๔ TSPCA จัดประชุมสามัญประจำปี 2567 เตรียมความพร้อมสู่สามทศวรรษสวัสดิภาพสัตว์เพื่อก่อเกิด สวัสดิภาพคน
๑๐:๓๒ พด. มุ่งพัฒนาศักยภาพดินในพื้นที่ปลูกพืช GI เสริมศักยภาพเกษตรกร เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
๑๐:๐๔ ซิมเพิ้ล ฟู้ดส์ มอบของบริจาค พร้อมเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน สถานสงเคราะห์เด็กชายบ้านมหาเมฆ