บลจ.กสิกรไทย ออกกองหุ้นสุขภาพใหม่ กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged อีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ชอบรับผลตอบแทนอิงค่าเงิน

อังคาร ๐๘ ธันวาคม ๒๐๑๕ ๐๙:๐๐
บลจ.กสิกรไทย ชวนบริหารสุขภาพการเงินรับโอกาสเติบโตจากหุ้นกลุ่มสุขภาพชั้นนำทั่วโลก พร้อมเปิดโอกาสรับผลตอบแทนอิงตามอัตราแลกเปลี่ยน กับกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged [K-GHEALTH(UH)] ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ชอบรับผลตอบแทนตามการเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เสนอขายครั้งแรกวันที่ 8-14 ธ.ค.นี้ ลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่าจากแนวโน้มการเติบโตของหุ้นในกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพซึ่งเป็นเทรนด์การลงทุนที่ได้รับความสนใจเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงกระแสตอบรับที่ดีของผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนกับกองทุนของบลจ.กสิกรไทย ได้แก่ กองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน (K-GHEALTH) และกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KGHRMF) ซึ่งบริษัทได้เปิดเสนอขายไปในช่วงก่อนหน้า

เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกสำหรับนักลงทุนที่ต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนจากหุ้นในกลุ่มธุรกิจสุขภาพทั่วโลก รวมถึงยังต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่เคลื่อนไหวไปตามภาวะอัตราแลกเปลี่ยน บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค โกลบอล เฮลท์แคร์ หุ้นทุน Unhedged [K-GHEALTH(UH)] ในระหว่างวันที่ 8 – 14 ธันวาคม 2558 มูลค่าโครงการ 10,000 ล้านบาท โดยกองทุนมีนโยบายกระจายการลงทุนในหุ้นกลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพต่างๆ ทั่วโลก ผ่านกองทุนหลักต่างประเทศ ได้แก่ JP Morgan Funds – Global Healthcare Fund, Class A (acc) โดยจะลงทุนในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และกองทุนจะไม่มีนโยบายป้องการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการสร้างผลตอบแทนให้เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งสามารถยอมรับความเสี่ยงหรือความผันผวนจากอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงมีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่องด้วย

จุดเด่นของกองทุนหลักจะเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มสุขภาพต่างๆ อาทิ เวชภัณฑ์ เทคโนโลยีชีวภาพ บริการด้านสุขภาพ และเทคโนโลยีการแพทย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและมีผลประกอบการที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยกองทุนหลักบริหารจัดการโดย J.P. Morgan Asset Management หนึ่งในผู้จัดการกองทุนชั้นนำระดับโลก และมีทีมงานจัดการลงทุนที่มีประสบการณ์ยาวนานอยู่ในธุรกิจเฮลท์แคร์ (Healthcare) กระจายอยู่ในภูมิภาคสำคัญต่างๆ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษและญี่ปุ่น จึงมีความเชี่ยวชาญและสามารถเข้าถึงข้อมูลของบริษัทต่างๆ ได้อย่างเจาะลึกและแม่นยำ ทำให้กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังที่สามารถเอาชนะเกณฑ์มาตรฐานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลังในรอบ 5 ปี เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 23.93% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 18.03% ต่อปี และมีผลดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี เฉลี่ยที่ประมาณ 25.69% ต่อปี เอาชนะเกณฑ์มาตรฐานที่ 19.67% ต่อปี (ข้อมูล ณ 30 พ.ย. 58) นอกจากนี้กองทุนหลักยังได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจากมอร์นิ่งสตาร์

สำหรับมุมมองการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Healthcare นายนาวินกล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันมูลค่าตลาดหุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ มีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 4.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 12% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก และหุ้นกลุ่มนี้ได้มีการปรับตัวขึ้นอย่างโดดเด่น โดยในช่วงระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา รายได้ของบริษัทจดทะเบียนกลุ่มธุรกิจสุขภาพทั่วโลกเติบโตกว่า 82% โดยเฉพาะในประเทศเกิดใหม่ที่เติบโตขึ้นอย่างมีนัยยะกว่า 320% ทั้งนี้แม้แต่ในบางช่วงที่ภาวะตลาดหุ้นโลกมีความผันผวน หุ้นในกลุ่มเฮลท์แคร์ยังสามารถปรับตัวเป็นบวกได้ โดยในระยะเวลาเฉลี่ย 10 ปี ตลาดหุ้นกลุ่มสุขภาพมีค่าความผันผวนอยู่ที่ 13% ซึ่งต่ำกว่าตลาดหุ้นโลกที่มีค่าความผันผวนอยู่ที่ 16% ดังนั้นจึงนับว่าเป็นหุ้นกลุ่มหนึ่งที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะนักลงทุนที่คาดหวังผลตอบแทนที่สูงขึ้นและเชื่อมั่นต่อการเติบโตของหุ้นกลุ่มสุขภาพนี้ในระยะยาว

"ส่วนสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ 3 ธ.ค. 58 อัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 35.87 บาท โดยตลาดยังคงมีแรงเข้าซื้อจากนักลงทุนในเงินดอลลาร์สหรัฐเพื่อเก็งกำไร ก่อนที่จะเกิดการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในวันที่ 15-16 ธันวาคมนี้ อย่างไรก็ตาม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ว่าค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ยังคงมีทิศทางอ่อนค่า โดย ณ สิ้นปี 2558 คาดว่าจะอยู่ที่ 36.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และคาดการณ์ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2559 ที่ระดับ 38.00 บาท โดยปัจจัยที่ทำให้ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มอ่อนค่าลงต่อเนื่อง จะมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งขึ้น ประกอบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปในปีหน้า รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียโดยเฉพาะจีนที่ยังคงชะลอตัว" นายนาวินกล่าว

ผู้ที่สนใจลงทุนกับกองทุน K-GHEALTH(UH) สามารถลงทุนได้ด้วยมูลค่าเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม พร้อมขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือ สอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888

กองทุน 3เดือน 6 เดือน ตั้งแต่ต้นปี ผลการดำเนินงานย้อนหลัง (ต่อปี)

1 ปี 3 ปี 5 ปี

กองทุนหลัก (JP Morgan Funds – Global Healthcare Fund, Class A - acc) -4.20% -8.63% 1.58% 0.87% 25.69% 23.93%

Benchmark (MSCI World Healthcare) -1.44% -4.63% 6.08% 3.39% 19.67% 18.03%

ที่มา: Morningstar, วันที่ 30 พ.ย 58

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวมมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๐๗ ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๑๗:๕๓ NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๑๗:๐๕ แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๑๗:๓๒ แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๑๗:๒๕ RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๑๗:๔๘ ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๑๗:๐๕ เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๑๗:๐๖ ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๑๗:๔๙ ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud
๑๗:๐๐ เปิดรับสมัครแล้ว HaadThip Fan Run 2024 แฟนรัน ฟันแลนด์ ดินแดนมหัศจรรย์ หาดสมิหลา จ.สงขลา