(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.18 น.ของวันที่ 21/03/16)
แนวโน้มวันที่ 22 มีนาคม 2559
การคลายกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของจีนส่งผลให้สินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเช่นทองคำถูกลดความน่าสนใจในการลงทุนลง เมื่อกลุ่มผู้นำจีนได้พยายามที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตลาดการเงิน และคู่ค้าที่สำคัญของจีนว่า จีนสามารถบริหารจัดการกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้ ทั้งนี้ นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนกล่าวว่าการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกจากจีนชะลอตัวลง ความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของจีนที่เริ่มจางหายไปทำให้นักลงทุนที่ถือครองทองคำไว้มีการแบ่งทองคำออกขายทำกำไน ซึ่งสอดคล้องกับ รายงานของคณะกรรมการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐ (CFTC) รายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า ผู้จัดการกองทุนได้ลดสถานะซื้อทองลงจากระดับสูงสุดในรอบ 13 เดือนในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 15 มีนาคม นักเก็งกำไรได้ลดการถือสถานะซื้อสุทธิทองคำลง 1,462 สัญญา สู่ระดับ 146,805 สัญญา อย่างไรก็ตาม ทองคำได้รับแรงหนุนพยุงไว้จากความหวังว่าความต้องทองคำจากอินเดียอาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น เมื่อผู้ค้าเครื่องประดับทองคำในอินเดียได้ยกเลิกการประท้วงหยุดงานในเย็นวันเสาร์ที่ผ่านมา หลังจากผละงานมานาน 19 วัน เมื่อรัฐบาลอินเดียรับประกันว่า ทางกรมสรรพากรจะผ่อนปรนผู้ค้าเครื่องประดับทองคำในการจัดเก็บภาษีสรรพสามิต 1% หลังจากไม่มีการจัดเก็บภาษีนี้มานาน 4 ปีแล้ว ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งเพื่อแก้ไขปัญหาของผู้ค้าเครื่องประดับทองคำในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิต ส่งผลให้ในระยะสั้นอาจมีอุปสงค์ทองสะสมไว้เป็นจำนวนมากดันยอดนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นได้เพื่อชดเชยการนำเข้าทองคำที่ชะลอตัวลงในช่วงก่อนหน้า โดยมูลค่าทองนำเข้าของอินเดียดิ่งลงสู่ 1.44 พันล้านดอลลาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงจากระดับ 2.91 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมกราคม ดังนั้นราคาอาจเคลื่อนไหวในกรอบซึ่งจะเป็นโอกาสเข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น หากราคาทองคำไม่สามารถทะลุผ่านกรอบบน อาจเห็นการย่อตัวของราคากลับลงมา ทั้งนี้หลายครั้งที่ราคาทองคำอ่อนตัวลงก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,235 หรือ 1,225 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้แบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,254 หรือ 1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าราคาทองคำอาจมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้น ซึ่งหากราคาทองคำสามารถผ่านระดับ 1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้มีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,235 (20,370บาท) 1,225 (20,200บาท) 1,211 (19,970บาท)
แนวต้าน 1,254 (20,690บาท) 1,267 (20,900บาท) 1,283 (21,170บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,235 (20,550บาท) 1,225 (20,380บาท) 1,211 (20,150บาท)
แนวต้าน 1,254 (20,860บาท) 1,267 (21,080บาท) 1,283 (21,340บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999