นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของสหพันธ์ตลาดหลักทรัพย์ภาคพื้นเอเชียและโอเชียเนีย หรือ Asian and Oceanian Stock Exchanges Federation: AOSEF ครั้งที่ 34 ในระหว่างวันที่ 24-26 มีนาคมนี้ ตอกย้ำความโดดเด่นของตลาดทุนไทย และสนับสนุนแผนกลยุทธ์สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเพิ่มบทบาทในระดับภูมิภาค
"การประชุมนี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อหารือเรื่องพัฒนาการที่สำคัญของตลาดหลักทรัพย์ และทิศทางที่ตลาดทุนจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ โดยในปีนี้เน้นหัวข้อการพัฒนาอย่างยั่งยืนในธุรกิจตลาดทุนซึ่งเป็นประเด็นที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเป็นตลาดหลักทรัพย์แห่งแรกของอาเซียนที่เข้าร่วม UN Sustainable Stock Exchanges Initiative ตั้งแต่ปี 2557 นอกจากนี้ ที่ประชุมยังหารือเรื่องการพัฒนาธุรกิจตราสารหนี้ทั้งในตลาดและนอกตลาด (OTC) ผ่านกลไกของตลาดหลักทรัพย์ เปิดโอกาสสำหรับธุรกิจ SME และสนับสนุนการออกตราสารหนี้ในสกุลเงินต่างประเทศ ตลอดจนบทบาทของตลาดทุนในการส่งเสริมและพัฒนา FinTech ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วในหลายประเทศ
งานในครั้งนี้มีผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วม 62 รายจาก 14 ประเทศ อาทิ ผู้บริหารสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์ประเทศมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี ไต้หวัน เป็นต้น รวมถึงประธานเจ้าหน้าที่บริหารจากสมาพันธ์ตลาดหลักทรัพย์โลก หรือ WorldFederation of Exchanges: WFE ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ WFE ใช้เวทีการประชุมนี้จัดสัมมนาให้ข้อมูลเรื่องเกณฑ์สากลด้านตลาดทุนMiFiD II เพื่อส่งเสริมศักยภาพแก่ตลาดหลักทรัพย์ในภูมิภาค และครั้งนี้ยังมีปาฐกถาพิเศษโดย ดร. กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการนโยบายภาครัฐเพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่มิติใหม่ของการเติบโต" นางเกศรากล่าว
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม ASEAN Exchanges CEOs Meeting ครั้งที่ 24 ร่วมด้วยผู้บริหารสูงสุดของตลาดหลักทรัพย์อาเซียน 7 แห่งจาก 6 ประเทศ ซึ่งได้หารือถึงแนวทางการพัฒนาตลาดทุนภูมิภาคอาเซียน โดยเน้นประเด็นการเชื่อมโยงตลาดและทำกิจกรรมโรดโชว์ร่วมกัน นอกจากนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีแผนในการเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับนานาชาติอีกหลายครั้ง เพื่อยกระดับตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในสายตาของนักลงทุนทั่วโลก