(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.27 น.ของวันที่ 11/04/16)
แนวโน้มวันที่ 12 เมษายน 2559
จีนเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อไป โดยดัชนี CPI เดือนมีนาคมออกมาไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนกุมภาพันธ์ที่ 2.3% ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 4.3% แม้อัตราการร่วงลง จะชะลอลงก็ตาม แต่แสดงให้เห็นว่าการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของจีนในช่วงที่ผ่านมาไม่ได้ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งทิศทางเศรษฐกิจจีนที่มีความผันผวนสูงทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยจึงได้รับความน่าสนใจและเกิดแรงซื้อเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับ ทิศทางหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐเป็นกลุ่มที่ดิ่งลงมากที่สุดในดัชนี S&P 500 นับตั้งแต่ต้นปี2016 โดยรูดลงมาแล้ว 8 % ช่วงต้นปีนี้ ขณะที่บริษัทภาคการเงินของสหรัฐมีแนวโน้มจะรายงานว่า ผลกำไรลดลง 9.2 % ในไตรมาส 1/2016 และ ธนาคารขนาดใหญ่ 4 แห่งของสหรัฐมีกำหนดจะเปิดเผยผลกำไรและรายได้ประจำไตรมาสแรก ตั้งแต่วันพุธนี้เป็นต้นไป ซึ่งมีแนวโน้มเปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา กระแสคาดการณ์ดังกล่าวกระตุ้นแรงซื้อทองคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า การใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบ ของธนาคารกลางของบางประเทศจะช่วยสร้างมาตรการกระตุ้นทางการเงินแบบพิเศษ และผ่อนคลายเงื่อนไขในการปล่อยกู้ และหากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะพุ่งขึ้นต่อไปอีก ดังนั้นเฟดอาจแสดงท่าทีระมัดระวังต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดไปซึ่งน่าจะส่งผลเชิงบวกต่อราคาทองคำเช่นกัน ซึ่งนักลงทุนจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อเป็นปัจจัยชี้นำราคาทองคำ แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้ชะลอการลงออกไปก่อนเนื่องจากตลาดอนุพันธ์ประเทศไทย หรือ TFEX จะหยุดทำการหลายวันในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งวันพุธ วันพฤหัสบดี และ วันศุกร์ ส่งผลให้จะเกิดความเสี่ยงเนื่องจากทองคำตลาดโลกยังเปิดทำการปกติ
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวต้านโซน 1,254 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่าจะเกิดแรงซื้อเก็งกำไรระยะสั้นให้ราคาดีดกลับขึ้นอีกครั้ง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรบริเวณแนวต้าน 1,260-1,267 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากยืนเหนือแนวต้านไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,229 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,222 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,229 (20,380บาท) 1,222 (20,260บาท) 1,216 (20,160บาท)
แนวต้าน 1,254 (20,800บาท) 1,267 (21,020บาท) 1,283 (21,280บาท)
GOLD FUTURES (GFJ16)
แนวรับ 1,229 (20,500บาท) 1,222 (20,390บาท) 1,216 (20,290บาท)
แนวต้าน 1,254 (20,920บาท) 1,267 (21,140บาท) 1,283 (21,410บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999