นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AAV และผู้บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ผลประกอบการไตรมาส 1 ประจำปี 2559 ของAAV เป็นไปตามแผนกลยุทธ์ที่วางไว้ในการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ เพื่อรักษาความเป็นผู้นำตลาดสายการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ และเมื่อผนวกรวมกับเสถียรภาพทางการเมือง ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจท่องเที่ยวภาพรวม ทำให้ AAV มีผลประกอบการน่าพอใจมาก โดยมีรายได้รวม 8,952.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็นกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,009.1 ล้านบาท โดยในไตรมาส 1 นี้ ขนส่งผู้โดยสารไปแล้ว 4.4 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 18จากช่วงเดียวกันของปีก่อน อัตราส่วนการขนส่งผู้โดยสารอยู่ที่ร้อยละ 88 มีฝูงบินแอร์บัส เอ 320 รวม 47 ลำเมื่อสิ้นสุดไตรมาส
"ใน 4 เดือนแรกของปีนี้ ไทยแอร์เอเชียได้เปิดตัวเส้นทางบินใหม่ไปแล้ว 10 เส้นทาง ได้แก่ จากกรุงเทพฯ สู่ซัวเถา โกชิ หลวงพระบาง และเวียงจันทน์ จากภูเก็ตสู่อู่ฮั่น จากเชียงใหม่สู่ฉางซา และขอนแก่น จากหาดใหญ่สู่เชียงราย ขอนแก่น และยะโฮร์ บาห์รู ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่เราสามารถเปิดบินตรงเชื่อมไทยสู่ลาวได้เป็นครั้งแรก ที่ 2 เมืองยุทธศาสตร์อย่างหลวงพระบางและเวียงจันทน์ ซึ่งทำให้เรามีเส้นทางบินครอบคลุมทุกประเทศใน CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ซึ่งถือเป็นประเทศการลงทุนและการท่องเที่ยวที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และยังได้เปิด "หาดใหญ่" เป็นฐานปฏิบัติการการบินแห่งที่ 6 เสริมศักยภาพศูนย์กลางการบินภาคใต้ บินตรงสู่หลากหลายเส้นทาง" นายธรรศพลฐ์กล่าว
อย่างไรก็ตามนายธรรศพลฐ์ ประเมินถึงความสำเร็จของผลประกอบการไตรมาส 1 นั้นมาจากเสถียรภาพทางการเมืองและการกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่องของทุกภาคส่วน ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเชื่อมั่นและกลับมาเที่ยวไทยมากขึ้น รวมทั้งราคาน้ำมันโลกที่ปรับราคาลดลง อย่างไรก็ตามสำหรับไตรมาสที่ 2 จนตลอดปี 2559 ไทยแอร์เอเชียยังคงเป้าหมายขนส่งผู้โดยสารตลอดปีอยู่ที่ 17 ล้านคน โดยมีเครื่องบินประจำการอย่างน้อย 50 ลำภายในสิ้นปีนี้ เดินหน้าเปิดเส้นทางบินใหม่เพิ่มเติมอีก พร้อมใช้ข้อได้เปรียบของเครือข่ายการบินที่ครอบคลุม เพิ่มความหลากหลายเส้นทางบินจาก 6 ฐานปฏิบัติการการบิน เจาะกลุ่มผู้ใช้บริการทั้งภาคการท่องเที่ยวและการค้าการลงทุน รวมทั้งใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาจัดการและบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป